WORLD7

สำนักงาน คปภ. ปรับปรุงคำสั่งนายทะเบียนกรณีรายงานอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรายงานให้รวดเร็วและครบถ้วนยิ่งขึ้น

ครบถ้วนยิ่งขึ้น

สำนักงาน คปภ. ปรับปรุงคำสั่งนายทะเบียนกรณีรายงานอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรายงานให้รวดเร็วและครบถ้วนยิ่งขึ้น

นายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้มีเสถียรภาพและความมั่นคงแล้ว ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การดูแลและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัย หรือผู้มีสิทธิเรียกร้องภายใต้สัญญาประกันภัยให้ได้รับความเป็นธรรม

โดยเฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ ซึ่งมีผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ระบบประกันภัยจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญยิ่งในการเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้กับครอบครัวผู้ประสบภัย ดังนั้น ในปี 2557 สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 39/2557 เรื่อง ให้บริษัทประกันชีวิตรายงานกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ และคำสั่งนายทะเบียนที่ 40/2557 เรื่อง ให้บริษัทประกันวินาศภัยรายงานกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่

โดยกำหนดให้บริษัทประกันชีวิต/ประกันวินาศภัยรายงานข้อมูลต่อนายทะเบียน กรณีที่เกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ เช่น จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต จำนวนความเสียหาย ข้อมูลการรับประกันภัย ความคุ้มครองและสถานะของกรมธรรม์ประกันภัย

ทั้งนี้ เพื่อให้สำนักงาน คปภ. ได้รับทราบข้อมูลและติดตามการชดใช้เงินตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยและผู้มีสิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัยอย่างทันท่วงที

ในขณะเดียวกัน สำนักงาน คปภ. ได้มีการพัฒนาระบบรายงานอุบัติภัยกลุ่มหรืออุบัติภัยรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ซึ่งระบบดังกล่าวมีการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งในส่วนสำนักงาน คปภ. เขต/จังหวัด และบริษัทประกันภัยทุกแห่ง เพื่อรองรับการรายงานและติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยให้เกิดความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม คำสั่งนายทะเบียนทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวจัดทำขึ้นตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปและมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ในการนี้ สำนักงาน คปภ.

โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ จึงได้ดำเนินการศึกษาและพิจารณายกร่างคำสั่งนายทะเบียนฉบับใหม่ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและบริบทการกำกับดูแลที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีหลักการอันเป็นสาระสำคัญ คือ

1. ปรับปรุงนิยาม คำว่า ‘อุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่’ ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทการกำกับดูแลธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่มีความแตกต่างกัน เช่น กรณีประกันชีวิตไม่ควรมีการกำหนดมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 5 ล้านบาท เนื่องจากชีวิตไม่อาจประเมินมูลค่าเป็นตัวเงินได้ กรณีประกันวินาศภัย คำสั่งเดิมกำหนดให้ ‘อุบัติภัยที่มีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 5 ล้านบาท’ควรพิจารณาปรับปรุงมูลค่าความเสียหายให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ

ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในเบื้องต้นเห็นควรเพิ่มมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 10 ล้านบาท รวมถึงแก้ไขปรับปรุงขอบเขตกรณีอุบัติภัยที่สื่อมวลชนให้ความสนใจเสนอข่าวสาร โดยเพิ่มเติมข้อความว่า 'ตามที่สำนักงานแจ้งให้ทราบเป็นรายกรณี'เพื่อให้สำนักงาน คปภ. ใช้เป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลได้อย่างเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์

 2. ปรับปรุงการรายงานข้อมูลต่อนายทะเบียนเมื่อเกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ โดยกำหนดเพิ่มเติมให้บริษัทประกันภัยจะต้องแจ้งรายชื่อผู้ประสานงานของบริษัทประกันภัยและข้อมูลการติดต่อ ทั้งนี้ เพื่อให้สำนักงาน คปภ. สามารถประสานงานและติดตามข้อมูลการเกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

3. ปรับปรุงช่องทางการรายงานข้อมูลต่อนายทะเบียน จากเดิมที่กำหนดให้นำส่งผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นให้รายงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามช่องทางและวิธีการที่สำนักงาน คปภ. กำหนด และ 4. ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการรายงานผลการดำเนินงานชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยการรายงานดังกล่าวจะต้องมีข้อมูลอย่างน้อย เช่น ความเสียหายที่เกิดขึ้นและความคืบหน้าการดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งเพิ่มเติมข้อกำหนดรองรับกรณีบริษัทประกันภัยไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนก่อนครบกำหนดระยะเวลาโดยต้องระบุเหตุผลและความจำเป็นมาด้วย

ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับขั้นตอนในการปรับปรุงคำสั่งทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวในขณะนี้ได้รับความเห็นชอบในหลักการแล้ว และอยู่ระหว่างนำร่างคำสั่งนายทะเบียนทั้ง 2 ฉบับไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย

ในขณะเดียวกัน สำนักงาน คปภ. ได้มีการเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรเพื่อรองรับการปฏิบัติงาน และเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยและสะดวกยิ่งขึ้น

“การแก้ไขปรับปรุงคำสั่งนายทะเบียนในครั้งนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. กรณีเกิดอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ ให้สามารถบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยได้อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบกรมธรรม์ การประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยในการลงพื้นที่เกิดเหตุ

รวมถึงการติดตามให้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสำนักงาน คปภ. จะดำเนินการต่อยอดพัฒนาระบบการรายงานฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องและเป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียนฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวก ลดภาระ และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับภาคธุรกิจประกันภัยอย่างยั่งยืนต่อไป’ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์’กล่าวในตอนท้าย

 

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

สภาพัฒน์ฯ สศช.

สำนักนายกฯ

ส่งเสริมการลงทุน BOI

ทหาร-กลาโหม

Viriyha620x100

แบงก์ชาติ

บริษัทจดทะเบียน

หุ้นเด่นวันนี้!

180

วางแผงแล้วครับท่านผู้ชม...  

คลิกสมัครสมาชิกได้ที่นี่....

พาณิชย์

อสังหาริมทรัพย์

การตลาด

Insurance ประกัน

บทความการเงิน

Direct Sale ขายตรง

การศึกษา

ศาสนา

ไอที-เทคโนฯ

ข่าว กรุงเทพ

แรงงาน

ข่าวสังคม

กีฬา

ท่องเที่ยว

INVESMENTE

FUND

SEC

สภาอุตสาหกรรม

กรมศุลกากร

กรมสรรพสามิต

สำนักหนี้สาธารณะ