China’s DeepSeek has taken the world by storm. Here are the brains powering the AI sensation
- Details
- Category: CHINA
- Published: Sunday, 23 February 2025 14:35
- Written by: admin
- Hits: 3289
DeepSeek ของจีนสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก นี่คือ สมองกลที่ขับเคลื่อนปรากฏการณ์ AI
Anniek Bao@in/anniek-bao-460a48107/ @anniekbyx
CNBC China Economy Asia: Business : Dylan Butts @in/dylan-b-7a451a107
DeepSeek offices in Beijing on Jan. 28, 2025.
Peter Catterall | Afp | Getty Images
จุดสำคัญ
Liang Wenfeng ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ได้รับการขนานนามจากสื่อตะวันตกว่าเป็น’Sam Altman แห่งประเทศจีน’แต่ต่างจากผู้ร่วมก่อตั้งจาก Silicon Valley เขากลับรักษาโปรไฟล์สาธารณะที่ต่ำ
เมื่อเดือนที่แล้ว เหลียงได้รับการต้อนรับอย่างวีรบุรุษในบ้านเกิดของเขาที่ประเทศจีน และถูกพบเห็นในการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นโดยนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เชียง และล่าสุดในการประชุมสัมมนาแบบปิดซึ่งมีประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเป็นประธานเมื่อต้นสัปดาห์นี้
นอกเหนือจากนักพัฒนาเทคโนโลยีหลักแล้ว DeepSeek ยังแบ่งปันทีมผู้บริหารระดับสูง พนักงานปฏิบัติการ แผนกทรัพยากรบุคคล และนักบัญชีการเงินของเรือแม่ High-Flyer เป็นส่วนใหญ่ ตามที่ผู้ที่คุ้นเคยกับบริษัทกล่าว
DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ก้าวขึ้นสู่ความโดดเด่นระดับโลก สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลก AI แต่ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนอกประเทศจีน
ผู้ก่อตั้ง DeepSeek อย่าง Liang Wenfeng ได้รับการยกย่องจากสื่อตะวันตกว่าเป็นSam Altman แห่งประเทศจีนแต่ต่างจากผู้ก่อตั้งจาก Silicon Valley อย่าง Liang ที่มีภาพลักษณ์ต่อสาธารณะในระดับต่ำ
ทีมของเหลียงซึ่งประกอบด้วยบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศบางแห่งก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเช่นกัน สื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่าทีมนี้ประกอบด้วย คน ไม่ถึง 140คน แม้ว่าเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับโมเดลการให้เหตุผล R1 ล่าสุด จะระบุรายชื่อผู้ร่วมวิจัยประมาณ 200 คนก็ตาม CNBC ไม่สามารถยืนยันขนาดอย่างเป็นทางการของทีมได้
นอกเหนือจากนักพัฒนาเทคโนโลยีหลักแล้ว DeepSeek ยังแบ่งปันทีมผู้บริหารระดับสูง พนักงานปฏิบัติการ แผนกทรัพยากรบุคคล และนักบัญชีการเงินของเรือแม่ High-Flyer เป็นส่วนใหญ่ ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับบริษัท
นี่คือ ภาพรวมของผู้คนที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ AI และจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพแห่งนี้
เหลียงเหวินเฟิง
Liang ได้รับความสนใจจากสื่อเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่แชทบอทของ DeepSeek ไต่อันดับขึ้นสู่อันดับสูงสุดของชาร์ตแอปพลิเคชันทั่วโลก
เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าเขาได้รับการต้อนรับอย่างวีรบุรุษในบ้านเกิดของเขาที่ประเทศจีน และถูกพบเห็นในการประชุมโต๊ะกลมที่จัดขึ้นโดยนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง และล่าสุดในการประชุมสัมมนาแบบปิดซึ่งมีประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเป็นประธานเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ผู้ก่อตั้ง DeepSeek วัย 40 ปี เป็นคนค่อนข้างเขินอายต่อสื่อ ยกเว้นการสัมภาษณ์ที่หายากสองครั้งกับสื่อจีน 36Kr ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วและในปี 2023
บทสัมภาษณ์นี้ ได้วาดภาพผู้นำในอุดมคติที่มุ่งมั่นที่จะสร้างปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่เลียนแบบความสามารถของมนุษย์ และเปลี่ยนแปลงประเทศจีนให้กลายเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
เหลียงเกิดเมื่อปี 1985 และเติบโตในเมืองจ้านเจียง ซึ่งเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าทางตอนใต้ของจีน เขาเป็นนักเรียนดีเด่นที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
Liang Wenfeng, founder of startup DeepSeek, delivers the keynote speech during the 10th China Private Equity Golden Bull Awards on Aug. 30, 2019, in Shanghai.
Vcg | Visual China Group | Getty Images
Liang Wenfeng ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ DeepSeek กล่าวสุนทรพจน์สำคัญในงานประกาศรางวัล China Private Equity Golden Bull Awards ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2019 ในเซี่ยงไฮ้
วีซีจี | กลุ่มวิชวลไชน่า | เก็ตตี้อิมเมจ
หลังจากเรียนแคลคูลัสด้วยตนเองในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เขาก็ได้รับการรับเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในปี 2002 และต่อมาก็ได้รับปริญญาตรีและปริญญาโทด้านวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสารในปี 2010
Liang มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยระบบภาพของเครื่องจักร ในปี 2008 เขาจึงได้เริ่มเขียนอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและข้อมูลมหภาคเพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุน ตามรายงานของ36Kr สื่อด้านเทคโนโลยีของจีนซึ่งเคยสัมภาษณ์ Liang มาก่อน
AI ไม่ใช่กลยุทธ์เชิงปริมาณโดยทั่วไปในเวลานั้น แต่ Liang ได้รับแรงบันดาลใจจากJim Simonsผู้บุกเบิกการลงทุนเชิงปริมาณผู้ก่อตั้ง Renaissance Technologies หนึ่งในกองทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Liang กล่าวไว้ในคำนำของชีวประวัติของ Simons เวอร์ชันภาษาจีน
ผู้จัดการกองทุนไฮฟลายเออร์
ในปี 2015 Liang และ Jin Xu เพื่อนร่วมวิทยาลัยได้ก่อตั้ง High-Flyer Asset Management กองทุนป้องกันความเสี่ยงเชิงปริมาณที่ใช้ขั้นตอนทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อคาดการณ์แนวโน้มตลาดและตัดสินใจลงทุน
ซู เป็นบัณฑิตจากวิทยาลัยเกียรตินิยม Chu Kochen ของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงซึ่งคัดเลือกนักศึกษาชั้นนำจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
ที่นั่น Xu มุ่งเน้นการศึกษาในระดับปริญญาเอกของเขาเกี่ยวกับระบบนำทางอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์และการเรียนรู้ของเครื่องจักรซึ่งคล้ายกับการมุ่งเน้นการวิจัยหลังปริญญาเอกของ Liang และเป็นสมาชิกหลักของโครงการวิจัยการนำทางด้วยภาพสำหรับโครงการสำรวจดวงจันทร์ของจีน
Xu ซึ่งเคยทำงานที่ฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Huawei Technologies ในช่วงต้นปี 2010 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีของ High-Flyer และวางแผนกลยุทธ์การซื้อขาย โดยหน้าโปรไฟล์ของเขาในฐานข้อมูลหุ้นทุนส่วนตัว PaiPaiWang แสดงให้เห็นว่า
เจิ้งเจ๋อ ลู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ High-Flyer สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเหลียงและซู ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาปริญญาโทจาก London School of Economics and Politics
ก่อนจะเข้ามาทำงานที่ High-Flyer นั้น Lu เคยทำงานที่ธนาคาร China Merchants Bank ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยรับผิดชอบด้านงานวิจัยมหภาคและการลงทุน อนุพันธ์ในต่างประเทศ
ในบทสัมภาษณ์กับสื่อของรัฐบาลจีนเมื่อปี 2023 Lu กล่าวว่า “เราได้จัดตั้งทีมใหม่ขึ้นโดยแยกจากการลงทุน ซึ่งเทียบเท่ากับสตาร์ทอัพแห่งที่สอง” ซึ่งต่อมาได้เติบโตจนกลายมาเป็น DeepSeek “เราต้องการทำสิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่ามากขึ้นและสิ่งที่ก้าวข้ามอุตสาหกรรมการลงทุน”
ทั้งคู่บริหารกองทุนที่มีผลงานดีที่สุดบางส่วนภายใต้พอร์ตโฟลิโอของบริษัท โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 20% ในปี 2024 ตามข้อมูลของ PaiPaiWang ซึ่งสูงกว่ากำไรประมาณ 15% ในดัชนี CSI 300 เมื่อปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 5% ในดัชนี CSI 500 ซึ่งเป็นดัชนีขนาดเล็ก
Liang บอกกับ 36 Kr ในปี 2023 ว่ากำไรของกองทุนเชิงปริมาณบางส่วนถูกนำไปใช้ในการระดมทุนสำหรับการเติบโตของ DeepSeek
สมองเบื้องหลัง DeepSeek
ในปี 2023 High-Flyer ได้แยก DeepSeek ออกเป็นองค์กรอิสระ โดยขยายขอบเขตการทำงานนอกเหนือจากการลงทุน และมุ่งเน้นไปที่การแสวงหา AGI
ทีมนี้ประกอบด้วยบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ในท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีน เช่น มหาวิทยาลัยชิงหัวและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งหลายคนเคยตีพิมพ์บทความล่าสุดในหัวข้อเช่นโมเดลภาษาและการเรียนรู้ของเครื่องจักร
สมาชิกในทีมจำนวนหนึ่งยังเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาที่มีประสบการณ์ทำงานที่ Nvidia และ Microsoft ซึ่งตัดสินใจกลับมาทำงานในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตของจีน ตามโปรไฟล์ LinkedIn ของพวกเขา
คุณลักษณะสำคัญที่ทำให้ทีมงานมีความแตกต่างคืออายุ เนื่องจาก DeepSeek ให้ความสำคัญกับผู้สำเร็จการศึกษาที่มีประสบการณ์การทำงานน้อย
“แต่พวกเขากลับให้ความสำคัญกับปริญญาทางวิชาการ รางวัลจากการแข่งขันโปรแกรมระดับนานาชาติ และบทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับอุตสาหกรรมชั้นนำ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรของ DeepSeek บอกกับ CNBC
ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2023 เหลียงกล่าวว่าประสบการณ์มีความสำคัญน้อยลงในระยะยาว และ “ความสามารถพื้นฐาน ความคิดสร้างสรรค์ และความหลงใหลมีความสำคัญมากกว่า”
ในปี 2024เขากล่าวว่าแม้ว่าผู้มีความสามารถด้าน AI 50 อันดับแรกอาจไม่ได้อยู่ในจีน แต่ DeepSeek ก็ตั้งเป้าที่จะปลูกฝังความสามารถของตนเอง
บัณฑิตชั้นนำยังดูเหมือนจะสนใจบริษัทแห่งนี้ เนื่องมาจากมีรายงานว่าเงินเดือนที่สูงกว่า และมีการบริหารจัดการจากล่างขึ้นบน ที่ มากกว่าที่อาจพบได้ในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
https://www.cnbc.com/2025/02/19/china-deepseek-origin-story.html
