WORLD7

ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กระทรวงพลังงาน)

LINE it!
ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กระทรวงพลังงาน)
0 Share

GOV3 copy copy

ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กระทรวงพลังงาน)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน (พน.) โดยกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 116,074,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 5,803,700 คน ระยะเวลา 3 เดือน (เดือนเมษายน - มิถุนายน 2566) โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป และสำนักงบประมาณจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยสอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 

          สาระสำคัญของเรื่อง 

          พน. รายงานว่า

          1. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการของการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐประจำปี 2565 (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565) ซึ่งคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม [มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นประธาน] ได้จัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ โดยกำหนดวงเงินค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่ พน. กำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566) ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้เพิ่มส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุมต้มอีก 20 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 มีนาคม 2566) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาก๊าซหุงต้มที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและลดภาระค่าครองชีพสำหรับกลุ่มผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ

          2. ดังนั้น พน. จึงขอเสนอพิจารณาอนุมัติงบกลางฯ ปี 2566 จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 116.07 ล้านบาท1 โดยกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้ดำเนินการแทน ธพ. ผ่านวิธีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแทนกันและกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเบิกจ่ายส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจำนวน 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ให้กับร้านค้าก๊าซหุงต้มที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้สิทธิในช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 โดยแบ่งการเบิกจ่ายส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จำนวน 80 บาท ให้เบิกจากกองทุนประชารัฐสวัสดิการฯ และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มอีกจำนวน 20 บาท ให้เบิกจากงบกลางฯ ปี 2566 (ข้อเสนอในครั้งนี้) โดยเมื่อสิ้นสุดโครงการแล้วให้กรมบัญชีกลางส่งเงินงบประมาณส่วนที่เหลือคืน ธพ. ทั้งนี้ กรณีโอนเงินไม่สำเร็จ ให้ดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงินให้แก่ร้านค้าก๊าซหุงต้ม จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566

          3. สำนักงบประมาณ (สงป.) ได้นำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ พน. โดย ธพ. ใช้จ่ายงบกลางฯ ปี 2566 ภายในกรอบวงเงิน 116.07 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ จำนวน 5.8 ล้านราย ระยะเวลา 3 เดือน (เดือนเมษายน - มิถุนายน 2566) โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป และขอให้ พน. โดย ธพ. ดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 ข้อ 9 (3) เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้ว สงป. จะเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนอนุมัติจัดสรรงบประมาณดังกล่าวต่อไป

_________________

1 คำนวณจากผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่สามารถใช้สิทธิส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จำนวน 5,803,700 ราย รายละ 20 บาท รวมทั้งสิ้น 116,074,000 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่เห็นชอบในหลักการโครงการฯ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 11 กรกฎาคม 2566

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

 

A7373

Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100MTL 720x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px