รับร่างปปช.ไต่สวนคดีรับสินบน ยึดทรัพย์คนโกงหนีคดีต่างแดน
แนวหน้า : ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งที่ 11/2558 ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานดำเนินการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ.... ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นผู้พิจารณาก่อนรับหลัก โดยนายสุรชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหนังสือขอถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไปทบทวนใหม่ก่อนส่งกลับมาให้ สนช.พิจารณาอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นด้วยกับการที่ประธาน ป.ป.ช.ขอถอนร่างออกไปก่อน พร้อมให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาก่อนลงมติในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ
ต่อมา ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่...) พ.ศ....โดยนายปานเทพ ได้ชี้แจงการแก้ไขเพิ่มเติมในร่างพรบ.ฉบับนี้ คือ 1.เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต ค.ศ.2003 (UNCAC) และแก้ไขคำผิดที่เกี่ยวกับบทนิยาม และการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สามารถไต่สวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศผู้รับสินบน เอกชนผู้ให้สินบน และนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบน รวมไปถึงการยึดทรัพย์ นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมกรณีคู่กระทำความผิดหลบหนีมิให้นับระยะเวลาที่จำเลยหลบหนีรวมเป็น 1 ของอายุความ และมิให้นำอายุความล่วงเลยการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 มาบังคับใช้
ด้าน น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า ตนสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ UNCAC แต่ติดใจเรื่องของอายุความในการกระทำความผิด เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจาก ป.ป.ช.เป็นคู่กรณีของอดีตนายกฯ และอดีตรัฐมนตรีหลายคน จึงดูเหมือนว่าเป็นการเช็คบิลหรือไม่ รวมไปถึงการยึดทรัพย์ หากผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนี โดยเชื่อว่าทรัพย์สินที่โกงไปนั้นคุ้มค่าที่จะหลบหนี จึงรอระยะเวลาที่จะพ้นโทษเราจะดำเนินการอย่างไร จึงเห็นว่ามีข้อจำกัดในการหลบหนีคดีจะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเราให้สัตยาบรรณกับ UNCAC แล้วในประเทศอื่นๆกรณีที่ผู้หลบหนีคดีไปประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญา UNCAC จะมีปัญหานี้หรือไม่
ด้านนายปานเทพ ชี้แจงว่า ป.ป.ช.ถือเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในประเทศคงไม่มีปัญหา แต่เราดำเนินการไปโดยที่มีกฎหมายรองรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเฉพาะที่ทำเรื่องนี้จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้ป.ป.ช.สามารถดำเนินการได้ ส่วนเรื่องอายุความเราไม่ได้แก้หลักการแต่แก้ให้ตรงกับพันธกรณี UNCAC ซึ่งเราจะใช้ช่องว่างตรงนี้ให้อายุความเดินไปเรื่อยๆ เมื่อเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คนที่สุจริตก็จะเข้ามาสู่กระบวนการได้ แต่คนที่ทุจริตก็จะอาศัยช่องว่างนี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องยึดทรัพย์สินมูลค่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถือเป็นหลักสากล ยืนยันว่ากฎหมายนี้ทำขึ้นเพื่อให้ป.ป.ช.สามารถทำงานได้ในฐานะที่เราเป็นหน่วยงานเฉพาะ ทำงานด้านนี้ ซึ่งเราได้ประสานการทำงานกับอัยการสูงสุดอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สมาชิกส่วนใหญ่จะตั้งข้อสังเกตเรื่องการหมดอายุความหากผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดีไปต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไร และมีมาตรการอะไรในการป้องกันอุดช่องว่างอย่างไร ซึ่งนายปานเทพ ชี้แจงย้ำว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะเน้นเรื่องการทุจริตและเรื่องอายุความ อย่างไรก็ตามภายหลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนน 172 ต่อ 5 งดออกเสียง 10 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 21 คน