ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด'บุญทรง เตริยาภิรมย์'พร้อมพวก คดีขายข้าวจีทูจี
นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พร้อมกับพวกราว 20 รายกรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ซึ่งมีทั้งข้าราชการระดับสูง และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกระทำความผิด
"การระบายข้าวดังกล่าวไม่ได้เป็นการขายข้าวจีทูจีตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่เป็นการซื้อต่อในประเทศ ซึ่งบริหารจัดการโดย สยามอินดิก้า ของเสี่ยเปี๋ยง(นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร)นำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมการค้าต่างประเทศ และประเทศชาติอย่างร้ายแรง"นายวิชากล่าว
ทั้งนี้ ป.ป.ช.พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และให้เสนอความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญา
สำหรับ ผู้ถูกกล่าวหารายอื่นนั้น ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนนการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยเร็วต่อไป
ป.ป.ช.ระบุชื่อของผู้ที่ร่วมกระทำความผิดในคดีดังกล่าว นอกเหนือจากอดีตรมว.พาณิชย์ และรมช.พาณิชย์ ยังประกอบด้วย พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการ-เลขานุการ รมว.พาณิชย์, นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศและรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมและผู้อำนวยการสำนัการค้าข้างต่างประทเศ
นายสมคิด เอื้อสุภา นายรัฐนิธ โสจิระกุล นายลิตร พอใจ อดีตผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด, น.ส.รัตนา แซ่เฮง ในฐานะกรรมการบริษัท สยามอินดิก้า, น.ส.สุธิดา จันทะเอ ในฐานะกรรมการบริษัท สยามอินดิก้า, น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์ ในฐานะกรรมการบริษัท สยามอินดิก้า, นายโจ หรือนิมล รักดี , นายสุธี เชื่อมไธสง, น.ส.สุนีย์ จันทร์สกุลพร, นายกฤษณะ สุระมนต์, นายสมยศ คุณจักร , บริษัท สิราลัยจำกัดหรือบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัท สิราลัย และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพรหรือ เสี่ยเปี๋ยง คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
พร้อมกันนั้น ป.ป.ช.มีมติเพิ่มเติมว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐดังกล่าว ให้แจ้งกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ดำเนินการให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินหรือการชำระภาษีของผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่ทำการสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คให้แก่กรมการค้าต่างประเทศด้วย
นอกจากนั้น ป.ป.ช.ยังเห็นควรให้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุอันสงสัยว่าการเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐที่มีนางปราณี ศิริพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวเป็นผู้เสนอ และมีนายบุญทรงเป็นผู้ให้ความเห็นชอบกับบริษัท 4 ราย รวม 14 ล้านตัน ซึ่งบริษัทเหล่านั้นไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายจากทางการจีนให้เข้ามาทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ แต่กระทำไปโดยวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อันเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา
รวมทั้ง ให้สำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินการแสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานว่าในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการซื้อขายมันสำปะหลังในรูปแบบสัญญาซื้อขายรัฐต่อรัฐหรือไม่อย่างไร แล้วนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาวิจัยฉัยต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย