คําสั่งย้ายฟ้าผ่า เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้โยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัด ประกอบไปด้วย ธานี สามารถกิจ ผู้ว่าฯระยอง ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯนครสวรรค์ เสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าฯอุบลราชธานี สุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าฯกำแพงเพชร เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 

     และ ย้าย ชยพล ธิติศักดิ์ ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู เป็น ผู้ว่าฯนครสวรรค์ ประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เป็น ผู้ว่าฯอุบลราชธานี สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯระยอง อำนวย ตั้งเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู ยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯศรีสะเกษ และธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯกำแพงเพชร 

    ทำเอาบรรดาข้าราชการในกระทรวงคลองหลอดงงเป็นไก่ตาแตก

      เพราะข่าวที่ปูดมาก่อนหน้านี้ ถูกระบุว่า จะมีการโยกย้ายผู้ว่าฯ 10 ตำแหน่ง ซึ่งจำนวนถือว่าตรงเป๊ะ แต่ไม่เป๊ะที่สาเหตุของการย้าย!!

     เพราะข่าวที่ปูดมาก่อนหน้านี้ ถูกระบุว่า กระทรวงมหาดไทยจะมีการย้ายผู้ว่าฯ และจะมีการเปิดตำแหน่งใหม่ ที่เป็นตำแหน่งประจำแต่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และอยู่ในระหว่างขออนุมัติเปิดตำแหน่งไปยังสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) 

     เพราะข่าวที่ปูดมาก่อนหน้านี้ ถูกระบุว่า สาเหตุที่จะมีการโยกย้ายผู้ว่าฯ เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการจัดซื้อยาฆ่าแมลง และปุ๋ยเคมีราคาสูงเกินเหตุ โดยใช้งบประมาณภัยพิบัติฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเงินทดรองราชการ ที่ผู้ว่าฯสามารถใช้อำนาจในการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินได้ครั้งละ 50 ล้านบาท ซึ่งในการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินครั้งนี้ มีการระบุว่าเกิดจากสาเหตุเพลี้ยกระโดดระบาดในพื้นที่ ช่วงปี 54-55

     เมื่อ สตง.ตรวจสอบ พบว่าบางพื้นที่ไม่มีเหตุภัยพิบัติ แต่มีการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน และบางพื้นที่ซื้อยาฆ่าแมลงราคาสูงเกินจริง จึงได้มีการชี้มูลความผิดทางแพ่งกับอดีตผู้ว่าฯ 2 จังหวัด คือ จ.บึงกาฬ และ จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบกรณีเดียวกันใน 20 จังหวัด ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สตง.จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีทุจริต และเอาผิดวินัยและอาญา

     และมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า ป.ป.ช.ใกล้ที่จะชี้มูลผู้ว่าฯ 10 จังหวัดว่ามีความผิด กระทรวงมหาดไทยจึงเตรียมที่จะขยับผู้ว่าฯที่เข้าข่ายความผิดมาอยู่ในกรุเสียก่อน เมื่อถึงเวลาที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย 

     แต่เมื่อคำสั่งโยกย้ายออกมา ไม่ปรากฏว่ามีผู้ว่าฯคนไหนเลยที่ถูกย้ายในครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับกรณีที่ สตง.และ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ

   ที่งงไปกว่านั้นคือ 3 ใน 4 ผู้ว่าฯที่ถูกเด้งไปเป็นผู้ตรวจฯ ซึ่งได้แก่ ธานี ระพี และเสริม เป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับ เนวิน ชิดชอบ และที่ผ่านมา "เนวิน" ไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับทหาร หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงไม่ใช่เรื่องที่ คสช. จะจ้องเล่นงานเด็กเนวิน 

     และที่ยิ่งงงไปกว่านั้น คือ ธานีและเสริม เพิ่งพ้นกรุผู้ตรวจฯมาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 57 ด้วยคำสั่งของ คสช. ผ่าน วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ ในคำสั่งเดียวกันในครั้งนั้น มีการย้าย สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯขอนแก่นไปเป็นผู้ตรวจฯ โดยมีการให้เหตุผลว่า เพื่อย้ายผู้ว่าฯออกจากพื้นที่เรดโซน แต่ในครั้งนี้กลับย้ายสมศักดิ์ไปเป็นพ่อเมืองระยองแทนธานี ทำให้หลายคนฉงน แต่ก็ยังมีเสียงกระซิบมาว่า มีผลงานเข้าตา มท.1 พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา จึงพ้นกรุผู้ตรวจฯกลับมาเป็นผู้ว่าฯอีกครั้ง 

     ในขณะที่บางคนถูกระบุว่ามีเรื่องร้องเรียน โดยมีหนังสือแจ้งจากต่างกระทรวง แต่กระทรวงมหาดไทยกลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเอาผิด กลับมีการสั่งย้ายทันที ทำให้ใครต่อใครตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล

     เพราะในท้ายที่สุด หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าเป้าถูกส่องไปที่กลุ่มใกล้ชิดเนวินถูกย้าย แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นการย้ายเพราะเก็บพ่อเมืองสิงห์แดง (รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์) เข้ากรุ คือ ธานีและระพี ส่วนเสริมนั้นเป็นสิงห์ทอง (รัฐศาสตร์ รามคำแหง) แต่ถูกพ่วงมาด้วย เพื่อให้ลดภาพสิงห์แดง และทำให้ถูกมองว่าเป็นเด็กเนวินแทน

     ส่วนที่เหลือที่ถูกปล่อยพ้นกรุออกมานั้น เพิ่งขึ้นจากรองผู้ว่าฯมาเป็นระดับ 10 ที่ตำแหน่งผู้ตรวจฯ และส่วนใหญ่เป็นสิงห์ทอง เพื่อลดภาพดันสิงห์ดำ (รัฐศาสตร์ จุฬาฯ) ขึ้นพรึบกระทรวง 

      อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่นาน วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พี่ใหญ่สิงห์ดำ เพิ่งมีคำสั่งตั้งที่ปรึกษา 3 ราย 1 ในนั้นมี วันชัย คงเกษม รองผู้ว่าฯนครราชสีมา มาเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ ในตำแหน่ง 10 ชช. และก่อนหน้านี้ วิบูลย์ยังได้ตั้ง สฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน (ผอ.สนผ.) พร้อมด้วย สยาม ศิริมงคล ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ผอ.กจ.) เป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวง 

     ซี 9 ซึ่งทั้ง 3 เป็นสิงห์ดำรุ่นยังบลัด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั้งกระทรวง และในคำสั่งตั้งผู้ว่าฯครั้งก่อน ได้มีการดันรุ่นน้องสิงห์ดำขึ้นอีกเพียบ

       ณ วันนี้ ในกระทรวงคลองหลอดจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แทบจะทุกสำนัก กรม กอง จะมีบรรดาชาวสิงห์ดำเต็มไปหมด ในส่วนภูมิภาคก็จะอบอวลไปด้วยผู้ว่าฯสิงห์ดำ โดยมีผู้ว่าฯสิงห์ทองและสิงห์ขาว (รัฐศาสตร์ เชียงใหม่) แจมๆ อยู่ไม่น้อย แต่ที่แน่ๆ ผู้ว่าฯสิงห์แดงนั้น นับได้เลยว่ามีไม่ถึง 10 คน 

    จึงเป็นที่น่าติดตามต่อไปว่าจะมีการย้ายล้างบางจริงหรือไม่!!!.....