- Details
- Category: สภาอุตสาหกรรม
- Published: Monday, 20 April 2015 23:43
- Hits: 3215
ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยมุ่งหวังที่กระตุ้นให้ภาคเอกชนนำผลงานไปใช้ประโยชน์ เกิดการต่อยอด และยกระดับผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งรวมงานวิจัยและพัฒนา เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินการในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม เช่น การฝึกอบรม การสาธิต การดูงาน เอกสาร คู่มือ และคิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด ซึ่ง โครงการนี้เน้นการส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการเอกชนไทยที่มีความสนใจที่จะนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีนำไปต่อยอดหรือขยายผลเป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่และเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. / วท.) กล่าวว่า สวทช. พยายามผลักดันงานวิจัยให้ตอบโจทย์และเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการมากขึ้น ด้วยมองว่าผู้ประกอบการไทยจะเทียบชั้นกับประเทศที่พัฒนาแล้วได้นั้น ควรนำเอางานวิจัย / เทคโนโลยี มาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด ให้มีความแปลกใหม่และทรงคุณค่า เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี เกิดการสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศบนเวทีการค้าโลกได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานั้น สวทช. ยังมีบาทบาทสำคัญในการต่อยอดและส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังภาคอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วน โดยค่อยสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับ ให้ได้รับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยการให้การสนับสนุน ให้คำปรึกษาและบริการ รวมถึงการลงทุนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เช่น การสนับสนุนการบ่มเพาะผู้ประกอบการเทคโนโลยีใหม่ โดยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาและฝึกอบรมทางธุรกิจ ตลอดจนเชื่อมโยงให้เข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจและนำธุรกิจให้อยู่รอดได้ การให้คำปรึกษา หาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อการค้นคว้า วิจัยและพัฒนา หรือเพื่อใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตตามความต้องการของผู้ประกอบการ การให้บริการสนับสนุนทางการเงิน อาทิ กลไกการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ภาคเอกชน และการรับรองโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อหักลดหย่อนภาษี โดยผู้ประกอบการสามารถหักค่าใช้จ่ายสำหรับการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เป็น 3 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง เป็นต้น
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช ./ วท. ) เปิดเผยว่า การร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกมิติหนึ่งที่ สวทช. จะเป็นส่วนเติมเต็มให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแหล่งงานวิจัยได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก สวทช. นั้นมีผลงานวิจัยที่ภาคอุตสาหกรรมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อยู่เป็นจำนวนมาก โดย สวทช.จะนำผลงานวิจัยที่ถือสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญา ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และยังไม่เคยให้สิทธิกับผู้ใดมาก่อน กว่า...ผลงาน มาถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการเอกชนที่สนใจแบบไม่สงวนสิทธิ หรือที่เรียกว่า Non-excusive ซึ่งการถ่ายทอดนี้จะดำเนินการในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม เช่น การฝึกอบรม การสาธิต การดูงาน เอกสาร คู่มือ และคิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด ซึ่ง โครงการนี้เน้นการส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการเอกชนไทยที่มีความสนใจที่จะนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีนำไปต่อยอดหรือขยายผลเป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่และเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น ทั้งนี้ สวทช. จึงกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่จะขอรับการถ่ายทอดต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีผู้ถือหุ้นไทยอย่างน้อยร้อยละ 51 มีศักยภาพ มีความพร้อม มีความเข้าใจเทคโนโลยี และมีบุคลากรที่พร้อมรับการถ่ายทอดในสาขาที่สนใจ
ดร.ณรงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนระยะเวลาการพิจารณาอนุมัติการอนุญาตให้ใช้สิทธินั้น จะใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาร่วมระหว่าง สวทช. และสภาอุตสาหกรรม นอกจากนี้ สวทช. ยังจะมีการติดตามประเมินผล รวมถึง การให้ผู้ประกอบการที่รับการถ่ายทอดจัดทำรายงานผลการใช้เทคโนโลยี เพื่อที่ทาง สวทช.จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว นำมาปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
ภก. เชิญพร เต็งอำนวย ประธานสถาบันวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือที่ดี ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม มีช่องทางในการเข้าถึงนักวิจัย ผลงานวิจัย หรือเทคโนโลยี ที่ภาครัฐมีอยู่ เพื่อนำไปพัฒนาหรือต่อยอดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวชู ซึ่ง ส . อ . ท . มียุทธศาสตร์และนโยบายที่จะผลักดันใหัภาคอุตสาหกรรมไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อยู่แล้ว อีกทั้งโครงการนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ให้มีการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย