'หม่อมอุ๋ย' เผย ITD-ROJNA จะร่วมพัฒนาโครงการทวายเฟสแรก พร้อมดำเนินงานทันทีหลังลงนามในเดือนมี.ค.นี้
'หม่อมอุ๋ย'ผย ITD-ROJNA จะร่วมพัฒนาโครงการทวายเฟสแรก พร้อมดำเนินงานทันทีหลังลงนามในเดือนมี.ค.นี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์เพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องรวมมูลค่าโครงการ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ในวันนี้ว่า ผู้ที่ประมูลได้เป็นผู้ดำเนินโครงการะยะแรก คือกลุ่มร่วมทุน ประกอบด้วย บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(ROJNA) บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) และบริษัท แอล เอ็น จี พลัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โดยโครงการในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการทันทีหลังจากที่กลุ่มร่วมทุนดังกล่าว ซึ่งมี ITD และROJNA เป็นแกนนำได้ลงนามในสัญญาสัมปทานภายในเดือน มี.ค.58 อายุสัมปทานราว 50 ปี และต่ออายุได้อีก 25 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดด้านต่างๆ รวมไปถึงส่วนที่ ITD ได้เคยลงทุนในโครงการทวายไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยอาจจะให้พื้นที่พัฒนาเพิ่มเติมเป็น 34 ตร.กม.หรืออาจจะเป็นลักษณะหักกลบลบหนี้กันไป
ทั้งนี้ การสร้างเส้นทางเชื่อมโยงต่อโครงการทวายมายังบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ระยะทาง 138 กม. จะใช้เงินลงทุน 3,900 ล้านบาท ฝ่ายไทยโดยสำนักงานความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(NEDA)จะเป็นผู้ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) แก่ทางการเมียนมาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระ 20-30 ปี เพื่อให้โครงการทวายพัฒนาได้เร็วที่สุด และจะทำให้เกิดการจ้างงานในเมียนมาร์
นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือสามฝ่ายระหว่างฝ่ายเมียนมาร์-ไทย และญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการโดยญี่ปุ่นแสดงความจำนงในการสนับสนุนโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอในการให้ความช่วยเหลือทั้งทางด้านเทคนิคและการเงิน รวมทั้งญี่ปุ่นจะเข้ามาร่วมทุนในบริษัทร่วมทุน ทวาย เอสอีแซด ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (SPV) ซึ่งปัจจุบันมีไทยและเมียนมาร์ถือหุ้นฝ่ายละ 50% หากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทุนจะแบ่งถือหุ้น 3 ฝ่ายเท่าๆกัน
ขณะที่พื้นที่ของโครงการทวายที่เหลือจากเฟสแรก มีพื้นที่ทั้งหมด 196 ตร.กม.จะนำมาจัดทำแผนมาสเตอร์แพลน(Full Phase)ซึ่งจะดำเนินการคล้ายกับการจัดตั้งโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดของไทย โดยจะมีทั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ท่าเรือขนาดใหญ่ ถนนที่เชื่อมโยงภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และกิจกรรมด้านอื่นๆ คาดว่าจะจัดทำแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
อนึ่ง การประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์เพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องในวันนี้มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายไทย และนาย U Nyan Tun รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ร่วมเป็นประธาน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย