วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8690 ข่าวสดรายวัน
ฟื้นงบฯจัดการน้ำท่วม 3.5 แสนล.ผุดแผนแรกเดือนกย. 'บิ๊กตู่'ลุยตรวจสุโขทัย ล่องเรือแจกถุงยังชีพ ลั่นแกปัญหาลุ่มน้ำยม
งานแรก - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ระหว่างเดินทางไปตรวจสภาพปัญหาน้ำท่วม จ.สุโขทัย ถือเป็นงานแรกในฐานะผู้นำประเทศหลังจากแถลงนโยบายต่อสนช. เมื่อวันที่ 12 ก.ย. |
บิ๊กตู่ ประเดิมงานนายกฯ ลงตรวจ น้ำท่วมที่จ.สุโขทัย ลั่นปัญหาลุ่มน้ำยม รัฐบาลจะเข้ามาบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เผยอีกสิ้นเดือนก.ย.นี้ กก.บริหารจัดการน้ำจะเสนอโครงการและงบฯในระยะที่ 1 ขณะที่กระทรวงการคลังพร้อมส่งเงินกู้ 3.5 แสนล้านสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ให้รัฐบาลใหม่ไปดำเนินการ ตาม คำสั่งคสช. สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือ เข้าท่วมจ.พิจิตร ที่โพธิ์ประทับช้างแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.ย. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย นับเป็นภารกิจแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และว่าที่ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และว่าที่รองผบ.ทบ. นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ร่วมเดินทางไปด้วย
ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า จ.สุโขทัย ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. และได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยแล้ว 8 อำเภอ 52 ตำบล 323 หมู่บ้าน 14 ชุมชน มีราษฎรเดือดร้อนทั้งหมด 34,999 คน หรือ 12,178 ครัวเรือน บ้านพังทั้งหลัง 4 หลัง และมีพังบางส่วนอีก 113 หลัง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ นั้นได้รับผลกระทบ 9 ตำบล 63 หมู่บ้าน มีราษฎรเดือดร้อน 7,537 คน หรือ 2,932 ครัวเรือน รวมทั้งมีถนนพัง 26 สาย และนาข้าวเสียหายอีก 5,660 ไร่
นายจักริน กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบยั่งยืน จำเป็นต้องดำเนินการชะลอน้ำด้านบน และมีแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่ เช่น โครงการแก้มลิง การปรับปรุงคลองธรรมชาติ อาคารบังคับน้ำป้องกันตลิ่ง รวมทั้งต้องดำเนินการสร้างเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำ อย่างเป็นระบบในลุ่มน้ำยมด้วย
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวพูดคุยกับราษฎรผู้ประสบภัย และมอบสิ่งของช่วยเหลือ 1,000 ราย ก่อนจะลงเรือมอบถุงยังชีพให้ ผู้ประสบภัยอีก 14 ราย ที่อาศัยอยู่ในบ้านซึ่งถูกน้ำท่วมสูง บริเวณบ้านเกาะกง
ทั้งนี้ ตัวแทนราษฎรหมู่ที่ 2 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยระบุว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ไม่เคยมีใครช่วยได้ พอเป็นข่าวก็มีหน่วยงาน องค์กรต่างๆ เอาถุงยังชีพมาแจก จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนาข้าว บ้านเรือนราษฎร ก็ยังคงถูกน้ำท่วมขังทุกปี ผู้ประสบภัยก็ทุกข์ยาก และทหารที่มาช่วยก็ต้องเหน็ดเหนื่อย แต่ครั้งนี้ราษฎร เชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่โดย พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้ เพราะพิสูจน์แล้วกรณีสั่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวของชาวนา นั้นทำได้อย่างรวดเร็ว จึงเชื่อว่าปัญหานี้ก็แก้ได้เช่นกัน
ที่กองบินขนส่งทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า จะไปตรวจสอบปัญหาน้ำท่วมที่สุโขทัย โดยทุกอำเภอของจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย แต่วันนี้ปริมาณน้ำลดลงมากพอสมควรยังคงเหลือ 7-8 อำเภอที่ยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง การเดินทางครั้งนี้เป็นการไปให้กำลังใจและไปดูระบบการป้องกัน ซึ่งมีปัญหาทั้ง 2 อย่างคือ น้ำท่วม และฝนแล้ง เพราะมีพื้นที่ลาดชัน ฤดูแล้งก็ขาดน้ำ ฤดูฝนเกิดภาวะน้ำท่วม เป็นข้อสำคัญที่รัฐบาลต้องดูในเรื่องบริหารจัดการแหล่งน้ำโดยเฉพาะที่ลุ่มน้ำยม ซึ่งการไปพื้นที่ครั้งนี้จะไปดูวิธีการการปัญหาและมาตรการอย่างยั่งยืนว่าจะทำอย่างไร โดยไปในฐานะนายกฯและหัวหน้าคสช.และทหาร คิดว่าจะแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่วนราชการ ผู้ว่าฯ อบต. อบจ. ทหาร และอาสาสมัครต่างๆ ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในเบื้องต้น ทั้งการแจกสิ่งของและการขนย้ายประชาชนไปอยู่ที่ปลอดภัย หลังจากนี้จะสำรวจความเสียหายทั้งประเทศว่ามีความเสียหายเท่าไร จะเร่งรัดช่วยเหลือและเยียวยาโดยเร็วที่สุด
เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงนี้ ด้วยความห่วงใย สั่งการให้แม่ทัพภาคต่างๆ ประสานงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ส่วนงานต่างๆ ช่วยกันลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งการเตรียมรับมือ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นระยะๆ และสิ้นเดือนก.ย.นี้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจะเสนอแผนและงานโครงการ งบประมาณที่จะดำเนินการในระยะที่ 1 ให้ได้โดยเร็ว ทั้งการแก้ไขปัญหาด้วยระบบต่างๆ ที่มีปัญหาอยู่ให้ได้อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นเหตุจนถึงปลายเหตุ เพื่อจะบูรณาการบริหารจัดการน้ำที่ดี ซึ่งต่อไปจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อจะลดความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างยั่งยืน เราคาดหวังไว้อย่างนั้น
รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คสช.เห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาคลังได้เซ็นสัญญาเงินกู้ไว้กับสถาบันการเงินเป็นที่เรียบร้อย และสามารถเบิกเงินกู้จากสถาบันการเงินให้ได้ทันที สำหรับการเซ็นสัญญาเงินกู้ 3.5 แสนล้าน เป็นไปตามนโยบายบริหารจัดการน้ำสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งต่อมาถูกร้องต่อศาลปกครอง ก่อนจะมีคำตัดสินให้ดำเนินการต่อได้แต่ต้องทำประชาพิจารณ์ และต่อมาคสช. มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 6 มิ.ย. ให้ระงับการดำเนินการตามแผนงาน และนำรายละเอียดทั้งหมดกลับมาทบทวน โดยมีพล.อ.ฉัตรชัยเป็นประธานกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ทั้งนี้การเดินหน้ากู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทครั้งนี้ เป็นไปตามข้อเสนอของพล.อ.ฉัตรชัย รายงานให้คสช.ทราบว่า เงินกู้สำหรับการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศไทยวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท มีการใช้ในไปในโครงการเร่งด่วน 3 หมื่นล้านบาท ยังเหลืออีก 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะพิจารณานำมาใช้สำหรับการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำต่างๆ ในปัจจุบัน เพิ่มเติมจากเงิน กู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบ ประมาณ 2558 วงเงิน 1.25 ล้านล้านบาท ที่คสช.อนุมัติเห็นชอบไปแล้ว
สำหรับ สถานการณ์น้ำ นายปราโมทย์ แก้ววิเชียร นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.โพธิ์ ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า เขตเทศบาล ต.โพธิ์ประทับช้าง เป็นพื้นที่ลาดต่ำลุ่มน้ำยม ขณะนี้น้ำมาจากจ.สุโขทัยและพิษณุโลก ได้เอ่อล้นตลิ่งท่วม 4 หมู่บ้านของต.วังจิก กว่า 100 หลังคาเรือน น้ำท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม. นอกจากนี้ น้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวอีกหลายพันไร่ และปริมาณน้ำยังมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ที่จ.กาฬสินธุ์ นายเกรียงไกร กิริวรรณา นายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รอง ผบ.กรมทหารม้าที่ 6 ในฐานะที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าตรวจสอบปัญหาการทรุดตัวของพนังกั้นแม่น้ำชี ซึ่งเกิดการทรุดตัวมากถึง 7 แห่งในเขตต.ลำชี สาเหตุจากปัญหาฝนตกหนักและน้ำหลากจากจ.ชัยภูมิ พร้อมนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมหวั่นการทรุดตัวจะทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกกลืนไปกับกระแสน้ำ
ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดนครราช สีมา ได้ไหลลงในพื้นที่อำเภอพิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายที่รองรับน้ำก่อนที่จะระบายลงสู่ลำน้ำมูล มีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดประตูระบายน้ำลงสู่คลองส่งน้ำธรรมชาติทั้ง 6 บาน เต็มพิกัด เพื่อเร่งระบายปริมาณน้ำ ทำให้ในพื้นที่ต่ำบางจุดมีระดับน้ำห่างจากขอบตลิ่งไม่ถึง 30 เซน ติเมตร (ซ.ม.) พร้อมทั้งยังได้เปิดประตูระบายที่ระบายลงสู่คลองส่งน้ำชลประทาน และลำน้ำเค็ม รวม 5 บาน ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนระบายน้ำพิมายเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ล้าน 8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน