วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8607 ข่าวสดรายวัน
'โรนัลโด้'ลุยอินทรี แพ้ไม่ได้ อัซซูรี่ขอโทษสิงโต ที่พ่าย-ช่วยอุ้มไม่ไหว "ไก่"ยำสวิส-ฉิวรอบ2 คืนนี้"เบลเยียม"บู๊หมี โสมขาวเจอแอลจีเรีย
ไก่ฮอต - คาริม เบนเซม่า กองหน้าฝรั่งเศสซัดบอลผ่านมือนายทวารสวิส แต่ไม่ได้ประตู เนื่องจากผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาก่อน ที่สนามอารีนา ฟอนเต้ โนวา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. จบเกมฝรั่งเศสชนะ 5-2 ลอยลำเข้ารอบ 2 แน่นอนแล้ว |
คืนนี้ลุ้น "โด้" นำทัพลงบู๊สหรัฐ ถ้าโปรตุเกสแพ้ตกรอบทันที เผยตัวหลักโดนแบน-เจ็บอื้อ อีกคู่ "เบลเยียม" ดวลเดือด "รัสเซีย" "เอเดน ฮาซาร์ด" บัญชาเกม ขณะที่ "เกาหลีใต้" ฟาดแข้ง "แอลจีเรีย" สำหรับผลบอล "คอสตาริกา" ลั่นโลก-ล้มอิตาลี โค้ชอัซซูรี่ขอโทษแฟนสิงโตที่แพ้ทำตกรอบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ลุยยำสวิตเซอร์แลนด์ราบคาบ ฉิวเข้ารอบอีกทีม เอกวาดอร์เฉือนฮอนดูรัส มีโอกาสลุ้นนัดสุดท้าย
"เบลเยียม"ดวลรัสเซีย
สำหรับความพร้อมฟุตบอลโลก 2014 นัดประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. คู่แรกเตะเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเอสตาดิโอ โด มาราคาน่า เมืองริโอ เดอ จาเนโร เป็นคู่กลุ่มเอช "ปีศาจแดง"เบลเยียม แห่งโซนยุโรป พบ "หมีขาว"รัสเซีย จากโซนยุโรปเช่นกัน
เบลเยียมเกมแรกเฉือนแอลจีเรีย 2-1 เกมนี้ต้องรอเช็กความฟิต แว็งซ็องต์ กอมปานี, เอเดน ฮาซาร์ด โดยวางหมาก 4-2-3-1 ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ลงเฝ้าเสา กองหลังมี โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, โธมัส แฟร์มาเลน, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, แยน แฟร์ตองเก้น คู่กลางรับ อาเซล วิตเซล ประสานงานกับ มูซา เดมเบเล่ กลางรุกประกอบด้วย ดริส เมอร์เทนส์, มารูยาน เฟลไลนี่, เอเดน ฮาซาร์ด โดยมี โรเมลู ลูคาคู เป็นศูนย์หน้าตัวเดียว
ขณะที่รัสเซียนัดแรกเสมอเกาหลีใต้ 1-1 นัดนี้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดนักเตะ โดยวางหมาก 4-2-3-1 อิกอร์ อคินเฟเยฟ ลงเฝ้าเสา กองหลังมี อังเดร เยชเชนโก้, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิกนาเชวิช, ดิมิทรี คอมบาลอฟ คู่กลางรับ วิกเตอร์ ฟายซูลิน ประสานงานกับ อิกอร์ เดนิซอฟ กลางรุกใช้ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อลัน ซาโกเยฟ, อเล็กซานเดอร์ โคโคริน โดยมี อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ห้อยในแดนหน้า
คู่นี้เคยเจอกัน 8 ครั้ง รัสเซียชนะ 4 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง เบลเยียมชนะ 3 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2010 รัสเซียพ่ายคาบ้าน 0-2
เกาหลีใต้บู๊เดือดแอลจีเรีย
คู่ที่ 2 เตะกัน 02.00 น. หลังเที่ยงคืนวันที่ 22 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเอสตาดิโอ ไบรา-ริโอ เมืองปอร์โต้ อเลเกร เป็นคู่ในกลุ่มเอช "โสมขาว"เกาหลีใต้ จากโซนเอเชีย ฟาดแข้งกับ "จิ้งจอกทะเลทราย"แอลจีเรีย จากโซนแอฟริกา
เกาหลีใต้นัดแรกเสมอรัสเซีย 1-1 นัดนี้สภาพทีมไร้ปัญหา โดยใช้แผน 4-2-3-1 จอง ซอง-เรียง เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบด้วย ลี ยัง, ฮง จอง-โฮ, คิม ยัง-กวอน, ยุน ซุก-ยัง คู่กลางรับ ฮัน กุ๊ก-ยัง ประสานงานกับ คี ซอง-ยง กลางรุกเป็น ลี ชอง-ยง, คู จา-โชล, ซอน ฮึง-มิน ขณะที่ ลี คึน-โฮ จะทำหน้าที่หัวหอกตัวเป้า
ด้านแอลจีเรียเกมแรกพ่ายเบลเยียม 1-2 เกมนี้ไร้นักเตะเจ็บหรือติดโทษเช่นกัน โดยจะใช้ระบบ 4-1-4-1 ราอิส เอ็มโบลี่ เป็นนายทวาร แนวรับจากขวาไปซ้าย เมห์ดี้ มอสเตฟา, ราฟิก ฮัลลิเช่, มัดฌีด์ บูเกร์ร่า, ฟาอูซี่ กูลาม โดยมี คาร์ล เมด์ฌานี่ ทำหน้าที่กลางรับ ส่วนแผงกลางที่เหลือเป็น โซฟียาน เฟกูลี่, ซาเฟียร์ ตาอิแดร์, นาบิล เบนตาเล็บ, ริยาด มาห์เรซ ขณะที่หัวหอกตัวเป้าเป็นงานของ เอล อาร์บี ฮิลเลล ซูดานี่
คู่นี้เคยเจอกันครั้งเดียวเมื่อปี 1985 ในทัวร์นาเมนต์ 4 เส้าที่เม็กซิโก โดยเป็นเกาหลีใต้ที่ชนะไป 2-0
เข็น"โด้"ลง-ฟาดแข้งสหรัฐ
คู่สุดท้ายเตะกัน 05.00 น. หลังเที่ยงคืน วันที่ 22 มิ.ย. ต่อเช้าวันที่ 23 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามอารีน่า ดา อมาโซเนีย เมืองมาเนาส์ เป็นคู่ในกลุ่มจี "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา จากโซนคอนคาเคฟ เจอกับ "ฝอยทอง"โปรตุเกส
นัดแรกสหรัฐอเมริกาเฉือนชนะกานา 2-1 นัดนี้ไม่มี โจซี่ อัลติดอร์ ที่บาดเจ็บ ขณะที่ คลินต์ เดมพ์ซีย์, แมตต์ เบสเลอร์ ต้องเช็กความฟิต แต่น่าจะลงสนามได้ทั้งคู่ โดยวางหมาก 4-4-1-1 ทิม ฮาวเวิร์ด ลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฟาเบียน จอห์นสัน, เจฟฟ์ คาเมรอน, แมตต์ เบสเลอร์, ดามาร์คัส บีสลีย์ กองกลางมี อเลฮานโดร เบโดยา, ไมเคิล แบรดลีย์, เจอร์เมน โจนส์, เกรแฮม ซูซี่ ส่วนในแดนหน้า คลินต์ เดมพ์ซีย์ จะเป็นหน้าต่ำคอยหนุนหัวหอกอย่าง อารอน โยฮันส์สัน
ส่วนโปรตุเกสเกมแรกพ่ายเยอรมนี 0-4 แถมนัดนี้สภาพทีมย่ำแย่ไม่สามารถใช้งาน ฮูโก้ อัลเมด้า, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา ที่บาดเจ็บ เปเป้ ติดโทษแบน และต้องเช็กความฟิต คริสเตียโน่ โรนัลโด้, รุย ปาตริซิโอ โดยจะใช้ระบบ 4-3-3 รุย ปาตริซิโอ น่าลงป้องกันประตูไหว กองหลังจากขวาไปซ้าย เจา เปเรร่า, บรูโน่ อัลเวส, ริคาร์โด้ คอสต้า, อังเดร อัลเมด้า กองกลางมี มิเกล เวโลโซ่, วิลเลียม คาร์วัลโญ่, เจา มูตินโญ่ ส่วนแดนหน้า นานี่ทำเกมริมเส้นฝั่งขวา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนฝั่งซ้าย โดยมี เฮลเดอร์ ปอสติก้า เป็นหัวหอกตรงกลาง
คู่นี้เคยเจอกันมา 5 ครั้ง ผลัดกันเอาชนะไปฝั่งละ 2 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง หนล่าสุดที่เจอกันเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 2002 รอบแบ่งกลุ่ม สหรัฐอเมริกาชนะ 3-2 ซึ่งในเกมนั้นมี เปาโล เบนโต้ กุนซือโปรตุเกสคนปัจจุบัน เป็นนักเตะในทีมชาติ และได้โอกาสลงสนามในครึ่งหลังด้วย
คอสตาริกาลั่นโลก-ล้มอิตาลี
ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดประจำวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา นัดที่ 2 กลุ่มดี "ขุนพลอัซซูรี่"อิตาลี พบ "กล้วยหอม"คอสตาริกา ที่สนามอิตาปาว่า อารีน่า แปร์นัมบูกู เมือง เรซิเฟ่ ประเทศบราซิล เริ่มเกมเป็นไปอย่างสูสีมีลุ้นได้เสียพอกันทั้ง 2 ทีม ผ่านไปครึ่งชั่วโมงอิตาลีมีโอกาสน่าได้ประตู จากจังหวะอันเดรีย ปิร์โล่ จอมทัพอิตาลีโยนบอลยาวให้บาโลเตลลี่ หัวหอกอัซซูรี่หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนจับบอลหนึ่งจังหวะและกระดกข้ามหัว ผู้รักษาประตูคอสตาริกา แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ ถัดมานาที 44 คอสตาริกาได้ประตูขึ้นนำเมื่อจูเนียร์ ดิอาซ ลากบอลขึ้นกราบซ้าย ก่อนโยนไปเสาสอง ไบรอัน รุยซ์ โหม่งบอลกระแทกคานกระดอนลงพื้น กลายเป็นประตูให้คอสตาริกาขึ้นนำ 1-0 และจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังอิตาลีปรับทัพ เปลี่ยนติอาโก้ ม็อตต้า ออก ส่งอันโตนิโอ คาสซาโน่ ดาวยิงตัวเก๋าลงแทน นาที 52 อันเดรีย ปิร์โล่ รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกแฉลบข้ามกำแพงสุดสวย แต่ผู้รักษาประตูคอสตาริกายังเหินปัดบอลออกข้างไปอย่างงดงาม จากนั้นผู้เล่นคอสตาริกายิ่งเล่นยิ่งได้ใจ กล้าเคาะบอลตามช่องหลอกล่อนักเตะอิตาลีแบบไม่กลัวเสียบอล แต่จากนั้นทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมคอสตาริกาเฉือนชนะอิตาลี 1-0 ผ่านเข้ารอบสองเป็นที่แน่นอน ด้วยผลงาน 2 นัดชนะรวดมี 6 คะแนน ขณะที่อิตาลีต้องลุ้นเข้ารอบกับอุรุกวัยในนัดสุดท้าย และจากผลการแข่งขันเกมนี้ทำให้อังกฤษที่เพิ่งแพ้อุรุกวัย 1-2 ตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว
โค้ชอัซซูรี่ขอโทษแฟนสิงโต
หลังเกมอิตาลีพ่ายคอสตาริกา เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือทีมชาติอิตาลีระบุการที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าตัวเก่งยิงพลาดในจังหวะหลุดในเขตโทษ ก่อนจะกระดกบอลข้ามผู้รักษาประตูคอสตาริกา แต่ไม่เข้ากรอบนั้น ส่งผลทำให้อิตาลีแพ้
"ความพ่ายแพ้นัดนี้คงไม่สามารถโทษใครได้ สำหรับมาริโอเล่นดีในครึ่งแรก และมีโอกาสทำประตูได้ 2 ครั้ง หากเป็นประตูเกมก็คงจะแตกต่างออกไป เกมนี้เราเล่นกันช้าไป ขณะที่คอสตาริกาเล่นเกมรับได้ดี และเข้าแย่งบอลเร็ว เข้าทำเกมเร็ว และแย่งบอลทุกจังหวะ"
ขณะเดียวกัน ปรันเดลลี่ยังขอโทษแฟนบอลอังกฤษที่ฝากความหวังให้อิตาลีชนะคอสตาริกา จะทำให้ "สิงโตคำราม" มีโอกาสลุ้นเข้ารอบ
"ผมขอแสดงความเสียใจด้วย ไม่เพียงแต่แฟนบอลอังกฤษ แต่รวมถึงแฟนของเราด้วยที่หวังให้ทีมชนะ ตอนนี้เราจะต้องเล่นให้ดีในเกมเจอกับอุรุกวัยในนัดสุดท้าย เพื่อเข้ารอบสองให้ได้" กุนซืออิตาลีกล่าว
ด้านฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ ผู้จัดการทีมคอสตาริกา กล่าวยกย่องลูกทีมที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับประกาศพาทีมคว้าชัยชนะนัดที่สามในเกมพบกับอังกฤษ
ตรวจโด๊ป7นักเตะกล้วยหอม
สื่อในอิตาลีรายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าทำการตรวจโด๊ปนักเตะคอสตาริกา 7 คน หลังเกมที่คอสตาริกาชนะอิตาลี 1-0 โดยการเรียกนักเตะจากแดนกล้วยหอมไปตรวจหาสารกระตุ้นมากถึง 7 คนครั้งนี้ ทำให้นักเตะไม่ค่อยพอใจ เพราะปกติจะตรวจเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่าออกมาอธิบายเหตุผลว่า 2 คนเรียกมาตรวจหลังเกมตามปกติ ส่วนอีก 5 คนนั้นเรียกมาตรวจเพราะยังไม่เคยตรวจเลยในฟุตบอลโลกครั้งนี้
"ตราไก่"ฉิว-ลุยยำสวิสเละ
คู่ต่อมาที่สนามอาเรน่า ฟอนเต้ โนวา เมืองซัลวาดอร์ ประเทศบราซิล นัดที่ 2 กลุ่มอี "แดนนาฬิกา"สวิตเซอร์แลนด์ ลงฟาดแข้งกับ "ตราไก่"ฝรั่งเศส เกมในช่วงแรกเป็นไปอย่างคู่คี่และอยู่ในแดนกลางของสนาม ก่อนฝรั่งเศสเดินเกมรุกหนักและได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 โดยโอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าฝรั่งเศสโขกบอลผ่านมือผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ไปอย่างงดงาม และถือเป็นประตูที่ 100 ของทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก
ถัดมาฝรั่งเศสได้ประตูที่สองอย่างรวดเร็ว จากจังหวะผิดพลาดของสวิตเซอร์แลนด์ที่เขี่ยบอลกลับหลัง แต่ถูกเบนเซม่า ศูนย์หน้าฝรั่งเศศฉกบอลและผ่านให้แบลส มาตุยดี้ ลากเข้าไปยิงยัดเสาแรกขึ้นนำ 2-0 จากนั้นฝรั่งเศสได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะเบนเซม่าถูกโยฮัน ฌูรู กองหลังสวิตเซอร์แลนด์ทำฟาวล์ โดยเบนเซม่ารับหน้าที่สังหารเอง ทว่าเบนากลิโอ ผู้รักษาประตูล้มตัวเซฟไว้ได้และบอลกระดอนออกมาให้โยฮัน กาบาย เข้าชาร์จชนคานกระดอนออกไปอย่างเหลือเชื่อ จังหวะต่อมาฝรั่งเศสผ่านบอลเข้ากลางและมาติเยอ วัลบูเอน่า ยิงให้ทิ้งห่าง 3-0 และจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังนาที 67 กองเชียร์ตราไก่ได้เฮอีกครั้ง เมื่อป๊อกบาโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษให้เบนเซม่าพลิกตัวยิงบอลลอดขาผู้รักษา ประตูสวิตเซอร์แลนด์เข้าไปตุงตาข่ายนำห่าง 4-0 ก่อนนาที 73 ฝรั่งเศสได้ประตูที่ 5 จากการยิงโล่งๆ ของมุสซ่า ซิสโซโก้ แต่แล้วนาที 81 จังหวะสวิตเซอร์แลนด์ได้ลูกฟรีคิก เบลริม เซไมลี่ หวดบอลเรียดลอดขากำแพงเข้าไปตุงตาข่าย กลายเป็นลูกตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-5 จากนั้นนาที 87 สวิตเซอร์แลนด์ยิงเพิ่มอีกลูกจากกรานิต ชาคา จบเกมฝรั่งเศสถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 5-2 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบสอง
เดส์ชองส์ยกย่องลูกทีม
หลังเกมการแข่งขัน ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส กล่าวยกย่องฟอร์มการเล่นของนักเตะทุกคนที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
"ผมไม่ต้องการจะเบรกความกระหายของนักเตะ ผมพอใจฟอร์มการเล่นของนักเตะทั้งทีม แต่คงจะพอใจอยู่แค่นี้ไม่ได้ พวกเราไม่ควรคิดว่าเป็นสิ่งสวยงามมากกว่าที่เราควรจะเป็น สำหรับคาริม เบนเซม่า นั้นเป็นนักเตะที่ฟอร์มดีเอามากๆ ความสุขของเขาคือการได้ฉลองชัยชนะ ตอนนี้เบนเซม่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของโลก และเรามีนักเตะคุณภาพเช่นนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากกับการแข่งขันระดับนี้"
ด้านอ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า "มันเป็นวันแห่งความเศร้าอย่างแท้จริง คงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก แต่ทีมของเราคงจะต้องผนึกกำลังกันสู้ต่อไป ฝรั่งเศสเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมทีมหนึ่ง และน่าจะไปได้ไกลในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาดีกว่าอังกฤษหรืออิตาลี"
สื่อแดนน้ำหอมแห่ชื่นชม
ด้านสื่อของฝรั่งเศสยกย่องฟอร์มการเล่นของนักเตะตราไก่ ที่ไล่ถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 5-2 ทำสถิติยิงถล่มทลาย 2 นัดติด ซึ่งถือเป็นฟอร์มการเล่นที่น่าทึ่ง เหนือความคาดหมายของแฟนบอลแดนน้ำหอม
โดยน.ส.พ.เลอ กิ๊ป ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส พาดหัวข่าวว่า "ฟอร์มมหัศจรรย์" พร้อมระบุว่าอาวุธของฝรั่งเศสกลายเป็นหนึ่งในยอดทีมของฟุตบอลโลกครั้งนี้
การออกสตาร์ตที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ลบฝันร้ายจากฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่แอฟริกาใต้ ที่ตกรอบแรก ท่ามกลางปัญหาวุ่นวายภายในทีม
ด้านบิเซนเต้ ลิซาราซู ตำนานกองหลังฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 1998 ทวีตข้อความชื่นชมฟอร์มการเล่นของนักเตะรุ่นน้องว่า ฟอร์มมหัศจรรย์จากทีมชาติฝรั่งเศส
เอกวาดอร์เฉือน-ลุ้นนัดท้าย
คู่ปิดท้ายนัดที่ 2 กลุ่มอี ที่สนามอารีน่า ดา ไบซาดา ประเทศบราซิล ฮอนดูรัสปะทะเอกวาดอร์ เริ่มเกมไม่กี่นาที เอกวาดอร์เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากการเปิดเกมรุกทำเร็วของเจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ แต่บอลโดนสกัดออกมา จนถึงนาที 31 จังหวะโต้กลับเร็ว คาร์โล คอสต์ลีย์ กองหน้าฮอนดูรัสได้บอลโยนยาวจากแดนหลังตัวเอง ก่อนหลุดเข้าไปตวัดยิงเป็นสกอร์ให้ฮอนดูรัสขึ้นนำ 1-0 ซึ่งคอสต์ลีย์รายนี้จะมาค้าแข้งในไทยลีกให้ทีมชลบุรี เอฟซี หลังจบฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย
แต่กองเชียร์ฮอนดูรัสดีใจได้แค่ 3 นาที เอกวาดอร์ไล่ตีเสมอได้สำเร็จจากการเติมเกมทางกราบขวาของฮวน ปาเรเดส กระชากบอลและจ่ายให้เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย จิ้มบอลเข้าประตูกลายเป็นลูกตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลังนาที 65 แฟนบอลเอกวาดอร์ได้เฮกันลั่น จากวอลเตอร์ อาโยวี่ ปั่นลูกฟรีคิกโยนเข้ามาหน้าประตูให้เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย คนเดิมโขกพังประตูเป็นสกอร์ให้เอกวาดอร์ขึ้นนำบ้าง 2-1 เป็นประตูที่สองให้ตัวเองในเกมนี้ จากนั้นทั้ง 2 ทีมผลัดกันรุกและรับ แต่ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมเอกวาดอร์เอาชนะฮอนดูรัส 2-1 ส่งผลให้เอกวาดอร์มีโอกาสลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย