'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2'ก้าวสู่วันที่ 11'ลพบุรี-พระนครศรีอยุธยา' ระยะทาง 97 กิโลเมตร กลุ่มนักปั่นจักรยานลพบุรี 200 คัน ผนึกกำลังช่วยคณะนักปั่นตาบอด ระดมทุนสร้าง'ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนเชียงดาว'

     'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2'วันที่ 11 เริ่มปล่อยตัวจากศาลากลางจังหวัดลพบุรี โดยมี นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายชัยพร พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 6 จังหวัดลพบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตาและนักปั่นจิตอาสา จำนวนกว่า 70 ชีวิต เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิชิตภารกิจระดมทุนสานฝัน ‘ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนเชียงดาว’

       พิธีปล่อยตัวในช่วงเช้าเนืองแน่นไปด้วยกลุ่มและชมรมปั่นจักรยานในจังหวัดลพบุรี เช่น ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดลพบุรี ชมรมจักรยานสกายแล็ป ชมรมจักรยานรบพิเศษ ชมรมครูลพบุรีปั่นเพื่อสุขภาพ ชมรมไบค์สามร้อยยอด ชมรมท่าวุ้งไบค์ฟอร์เฮลท์ ทีมปั่นท่าศาลา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนลพบุรีปัญญานุกูล เป็นต้น รวมจำนวนกว่า 200 คัน จาก 14 กลุ่ม ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ และประชาชน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

      ขณะเดียวกัน คณะนักปั่น No One Left Behind ปี 2 ยังได้รับมอบเงินบริจาคจากชาวจังหวัดลพบุรีเป็นจำนวนเงินกว่า 262,999 บาท (สองแสนหกหมื่นสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท) โดยมี นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นตัวแทนส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ

      นายชัยพร พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 6 จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งใจที่มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการให้ความสำคัญจัดกิจกรรมที่จังหวัดลพบุรี

       "การที่ขบวนปั่นจักรยานของคนตาบอด โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 ผ่านมายังจังหวัดลพบุรี ทำให้พี่น้องประชาชนตื่นตัว และให้ความสนใจ นักปั่นตาบอดได้แสดงศักยภาพของตัวเองให้ชาวเมืองลพบุรีเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็อยากเห็นโครงการนี้จัดขึ้นในทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะได้มีคนบริจาคเงินสมทบทุนสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการเยอะๆ"นายชัยพรกล่าว

     เส้นทางการปั่นจักรยานของวันที่สิบเอ็ด เริ่มเคลื่อนขบวนจากศาลากลางจังหวัดลพบุรี โดยมีคณะโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ปั่นนำกลุ่มจักรยานของชาวจังหวัดลพบุรี ก่อให้เกิดเป็นรูปขบวนจักรยานที่สวยงามและเป็นระเบียบ จำนวนกว่า 300 คัน เรียกความสนใจจากประชาชนตลอดสองข้างทาง โดยมุ่งหน้าไปจุดแรกคือ ที่นี่ลพบุรี สวนสาธารณะและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชื่อดัง จากนั้นปั่นต่อไปยังจุดที่สองคือ ปั๊มน้ำมันปตท.บ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนแวะพักจุดที่สามที่ปั๊มน้ำมันปตท.มหาราช จากนั้นปั่นต่อไปยังจุดที่สี่ ปั๊มแก๊ส LPG เมืองอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นช่วงบ่ายจึงปั่นต่อไปยังจุดที่ห้าคือ วัดมงคลบพิตร และจุดที่หก วัดใหญ่ชัยมงคล โดยคาดว่าจะถึงปลายทางสุดท้ายของวันนี้คือ โรงแรมวรบุรี อโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเวลาประมาณ 16.00 น. รวมระยะทางทั้งสิ้น 97 กิโลเมตร

       บรรยากาศการปั่นวันนี้ คณะนักปั่นตาบอดและนักปั่นจิตอาสามีกำลังใจดีเป็นพิเศษ เนื่องจากได้กลุ่มชมรมปั่นจักรยานจากจังหวัดลพบุรีกว่า 200 คัน มาร่วมปั่นด้วย สภาพเส้นทางเริ่มจากถนนสายชนบท ผ่านทุ่งนา ก่อนวกเข้าถนนสายเอเชีย ซึ่งมีรถราสัญจรหนาแน่น ต้องปั่นชิดซ้ายขอบทางด้วยความระมัดระวัง อากาศยังคงร้อนอบอ้าว และมีลมแรง แต่ได้รับความอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และรถพยาบาลกู้ชีพ คอยดูแลด้านการจราจรตลอดเส้นทางเช่นเคย

      ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ยังคงนำทีมพุ่มผ้าป่า จำนวน 20 คน ตระเวนประชาสัมพันธ์โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย ซึ่งวันนี้ตรงกับวันมาฆบูชา จึงมีพุทธศาสนิกชนร่วมบริจาคเงินทำบุญกันไม่ขาดสาย โดยยอดเงินบริจาคจากช่องทางต่างๆที่ได้รับทั้งสิ้นในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท (ห้าล้านบาท)

       สำหรับ เส้นทางปั่นจักรยานในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ 12 (วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562) จะเริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีจุดหมายที่จังหวัดปทุมธานี ระยะทางทั้งสิ้น 98 กิโลเมตร

     โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ถึงวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี

      และจังหวัดนครปฐม เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่'พ่อ'ทำ ด้วยการเปลี่ยน'ภาระ'ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง'พลัง'ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม

Click Donate Support Web