บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 3-3-2020
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 3 มีนาคม 2565
INVESTMENT STRATEGY
แกว่งขึ้น : ถ้อยแถลงโพเวลเป็นเชิงบวก
วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ในกรอบแนวรับ 1,685 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks วันนี้ แนะนำ “PLANB, KBANK”
PLANB
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ ขยายตัว +38%YoY สูงกว่าประมาณการของเราถึง 19% จากแผนการขยายกำลังการให้บริการอีก 20% หลังได้ป้ายของ AQUA ในเดือนเมษายน สูงสุดในประเทศ บนเป้าอัตราการใช้ป้ายไม่ต่ำกว่า 60% (อัตราคุ้มทุน 40%) เราจึงปรับประมาณกำไรและเป้าหมายขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.6 บาท
KBANK
แนวโน้มวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังคงเป็นแรงหนุนการสะสมกลุ่มธนาคาร ผสานการเริ่มกลับมาฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพิ่มจิตวิทยาเชิงบวก โดยยังคงชอบ KBANK มากสุด
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 185 บาท
INVESTMENT THEME
ถ้อยแถลงโพเวลเป็นบวกต่อตลาด : วานนี้นายเจอโรม โพเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร โดยมีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างมาก ผสานกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าอาจจะมีความไม่แน่นอนในระยะสั้นจากหลายปัจจัย เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, ภาวะสงคราม, มาตรการคว่ำบาตร เข้ามากระทบ แต่ยังเชื่อว่า FED จะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป (MST คาด FED จะขึ้น 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคม) ส่วนประเด็นการปรับลดงบดุล คาดว่าจะเกิดภายในปีนี้ ด้วยถ้อยแถลงทั้งหมดของโพเวล ซึ่งไม่ได้มีความรุนแรงต่อการดำเนินนโยบายทางการเงิน ถือเป็นแรงหนุนให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมีแรงซื้อกลับ (Dow +1.79%)
ภาคแรงงานสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง : ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ของ ADP ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าเพิ่มขึ้น 4.57 แสนตำแหน่ง ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.75 แสนตำแหน่ง ส่วนสุดสัปดาห์นี้แนะจับตา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non farm payrolls) ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 4.1 แสนราย โดยข้อมูลเหล่านี้คาดจะเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจในการประชุม FED 15-16 มีนาคมนี้
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัว จากความกังวลสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดย SET ปิดที่ 1,689.81 (-4.47 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.1 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 2,911 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 2,886 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futureที่ 2,890 สัญญา)
EYES ON
3 มี.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, PMI ภาคบริการของ ยูโรโซน และ US, ISM ภาคบริการของ US, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน US, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน US
4 มี.ค. CPI ของไทย, การจ้างงานนอกภาคเกษตร US
Plan B Media (PLANB)
ได้เวลาเดินหน้าเต็มตัว
BUY
Share Price THB 8.15
12 m Price Target THB 9.60 (+19%)
Previous Price Target THB 9.45
ประเด็นการลงทุน
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยนอกจากกำไรปกติ 4Q64 จะสูงกว่าคาด 8.6% แล้ว ผู้บริหารยังให้มุมมองเชิงบวกกว่าสมมติฐานเดิมอย่างน่าสนใจ โดยเป้าอัตราใช้ป้ายที่ไม่ต่ำกว่า 60% นั้น ห่างไกลจากจุดคุ้มทุนที่ราว 40% อย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจได้ว่า PLANB ปิดประตูขาดทุนแล้วในปีนี้ และดึงดูดให้เราปรับประมาณการกำไรขึ้น 26% ในปีนี้ อย่างไรก็ดีด้วย dilution effect ของ RO, PP และ PLANB-W1 (สถานะ In-the-money แล้ว) ผนวกกับ Risk free rate อิงพันธบัตรรัฐบาลไทยที่พุ่งขึ้นเป็น 2.1% ทำให้มูลค่าเหมาะสมอิง DCF จึงเพิ่มไม่ได้มากนัก 2% ปีนี้เป็น 9.60 บาท/ หุ้น (fully diluted) แต่ upside 18% ก็เพียงพอสำหรับซื้อเพื่อเกาะการฟื้นแบบ V-shape แล้วปีนี้
กำไร 4Q21 ดีกว่าคาด มีโครงสร้างต้นทุนที่พร้อมจะฟื้นแรงมากปีนี้
PLANB รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 151 ลบ. พลิกจากขาดทุน 54 ลบ. ในไตรมาสก่อน และ ขยายตัว +7.6% YoY จากปีก่อน โดยกำไรสูงกว่าคาดของเรา 64% เนื่องจากกำไรพิเศษ 52 ลบ. (การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม MACO-W3 และ กำไรจากการยกเลิกสัญญาเช่า) ซึ่งหากไม่รวมรายการเหล่านี้กำไรปกติก็ยังสูงกว่าคาด 8.6% โดยผลของการผ่อนคลายล๊อคดาวน์ทำให้รายได้สื่อดิจิตอลฟื้นแรง 145.2% QoQ ดันให้อัตราการใช้ป้ายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 54.2% จากเพียง 34.9% ในไตรมาสก่อน สอดคล้องกับมุมมองของเราว่า PLANB จะฟื้นตัวได้เร็วมาก เนื่องจากมีต้นทุนคงที่สัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะค่าเสื่อมราคาที่สูงราว 53% ของต้นทุนดำเนินงาน ณ 4Q64 ดังนั้นจากคาดการณ์โดย Nielsen Media ว่าเม็ดเงินโฆษณาปีนี้จะขยายตัว +15% YoY ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่ PLANB จะแสดงกำไรฟื้นตัวที่รุนแรงมาก
ผบห.วางเป้าหมายรายได้โต 38% สูงกว่ามุมมองเราก่อนหน้า
ในการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ผบห.ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 6-6.3 พัน ลบ. ขยายตัว +38.4% YoY สูงกว่าประมาณการของเราถึง 19% จากแผนการขยายกำลังการให้บริการอีก 20% เป็น 9,000 ลบ. หลังได้ป้ายของ AQUA (กำลังการให้บริการ 1,000 ลบ.) ในเดือน เม.ย. สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศ บนเป้าอัตราใช้ป้ายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60% (อัตราคุ้มทุนราว 40%) ผบห.เชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้านควรจะมีสัดส่วน 20-30% ของเม็ดเงินโฆษณาในอนาคต จากปัจจุบันเพียง 10% จากการใช้ชีวิตนอกบ้านของผู้คนที่เพิ่มขึ้นเป็น 10-14 ชั่วโมง/ วัน (ในภาวะปกติ)
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 26%
เราปรับปรุงรายได้รวมขึ้น 18% จากกำลังการให้บริการใหม่ที่เข้ามา และใส่ประโยชน์จากต้นทุน min. guarantee ที่ลดลง 450 ลบ. หลังซื้อป้ายจาก MACO เมื่อ ธ.ค. 64 ส่งผลให้กำไรสุทธิถูกปรับขึ้น 26% เป็น 718 ลบ. พุ่งขึ้น 11 เท่าตัวจากฐานต่ำในปี 2564 อย่างไรก็ดี EPS growth จะขยายตัวต่ำกว่าที่ 9.5 เท่า เนื่องจากจะมีผลกระทบจาก Dilution ของหุ้น RO 7.4% และ PP อีก 2% จากดีล AUQA ที่เกิดขึ้น
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ