บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-2-2022
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 10 กุมภาพันธ์ 2565
INVESTMENT STRATEGY
แกว่งขึ้น : เกาะติดเงินเฟ้อ US
วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ในกรอบแนวรับ 1,690 จุด และแนวต้าน 1,710 จุด เน้นหุ้นที่คาดกำไรฟื้นตัวดี โดย ATO Picks แนะนำ “CPALL, ADVANC”
CPALL
ได้ผลบวกชัดเจนจากการเปิดเมืองเนื่องจากเป็นผู้นำตลาดทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีก SSSG ร้านเซเว่นฯ ฟื้นตัว รวมทั้งได้อานิสงส์จากเงินเฟ้อ ส่วนกำไรสุทธิ 4Q64 คาดที่ระดับ 9,062 ล้านบาท เติบโตสูงจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการแลกหุ้น และกำไรหลักฟื้นดี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 68 บาท
ADVANC
แนวโน้มรายได้บริการปีนี้คาดเติบโตดีสอดคล้องกับผู้ใช้บริการ 5G ที่มีทิศทางเร่งตัวขึ้น ซึ่งมีโอกาสจะกลับมาช่วยให้รายได้ค่าบริการต่อเลขหมาย(ARPU) เพิ่มขึ้นในช่วงถัดไป ผสานธุรกิจอื่น เช่น Data center, AISCB ที่จะช่วยหนุนระยะกลาง และอัตราปันผลสูง 4% ต่อปี เพิ่มความน่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 235 บาท
INVESTMENT THEME
เกาะติดเงินเฟ้อ US : วานนี้ SET ปรับขึ้นเด่นทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,700 จุด โดยมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า 4 วันติดต่อกัน (ตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิใน SET ราว 4.37 หมื่นล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิ 8 วันติดต่อกัน ซึ่งมีแรงขายรวมตั้งแต่ต้นปีนี้ที่ 3.41 หมื่นล้านบาท) โดยคืนนี้คงต้องเกาะติดการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งคาดที่ 7.2%YoY เพิ่มขึ้นจาก 7%YoY ซึ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาใกล้เคียง หรือ ต่ำกว่าคาด ก็จะเป็นแรงส่งให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้ง SET มีโอกาสไปต่อ
กนง. คงดอกเบี้ยที่ 0.5% : วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ระดับ 0.5% ตามคาด โดยประเมินเศรษฐกิจปี 64 จะขยายตัวได้ดีกว่าที่ กนง. คาดไว้ และยังฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 65 จากการส่งออกสินค้าที่ปรับสูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเพิ่มมากขึ้น สำหรับการระบาดของโอไมครอนคาดจะสร้างแรงกดดันในวงจำกัด ส่วนด้านเงินเฟ้อทั่วไป มีแนวโน้มเร่งขึ้นในช่วงแรกของปี 65 จากราคาพลังงานและอาหารสดที่ปรับขึ้น ทำให้ตัวเลขทะลุกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 1-3% แต่ประเมินเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น และน่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ดังนั้น กนง. จะยังไม่ปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อขึ้น โดยสรุปเราประเมินผลประชุม กนง. ถือเป็นมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทย
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ปรับขึ้นเด่น ทะลุแนวต้าน 1,700 จุด แรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า เพิ่มแรงบวกต่อหุ้น Big cap โดย SET ปิดที่ 1,703.16 (+18.93 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 1.36 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.5 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 17,416 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 4,299 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Future ที่ 7,615 สัญญา)
EYES ON
10 ก.พ. ดัชนี CPI สหรัฐฯ, ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย,
11 ก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สหรัฐฯ
Ziga Innovation (ZIGA)
ขอก้าวสู่ธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์
BUY
Share Price THB 6.05
12 m Price Target THB 6.90 (+14%)
Previous Price Target THB 6.90
ประเด็นการลงทุน
ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 8% วานนี้ หลังบริษัทเผยพัฒนาการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯถึงการขยายกำลังการขุดอย่างรวดเร็วสู่เฟสที่ 3 ที่ 400 เครื่องภายในเดือน มี.ค. 65 ซึ่งผู้บริหารเผยถึงความพร้อมด้านการเงิน net D/E 0.6x พร้อมวงเงินออกหุ้นกู้ 4 พัน ลบ., สถานที่ และประสบการณ์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าอย่างมั่นใจ ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/64 คาดยังคงแข็งแกร่งอยู่ในประมาณการเดิมของเรา ปัจจุบันยังคงเหลือ upside 15% เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมตามเดิม 6.90 บาท/ หุ้น ส่วน upside จากธุรกิจใหม่ เราอยู่ระหว่างติดตามพัฒนาการ และพิจารณารูปแบบ valuation ที่เหมาะสม
เดินหน้าธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์เต็มตัว
ผู้บริหารเผยได้เริ่มทดลองธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์เมื่อ 25 ธ.ค. 64 เฟสแรก 100 เครื่อง งบลงทุน 50 ลบ. ปรากฏว่าได้พอใจจึงลงทุนในเฟส 2 อีก 100 เครื่อง เริ่มขุดเมื่อ 16 ม.ค. 65 และล่าสุดได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อ 8 ก.พ. 2565 คณะกรรมการบริษัทมีมติสั่งเครื่องขุดอีก 200 เครื่อง คาดติดตั้งเสร็จพร้อมขุดเดือน มี.ค. 65 โดยผู้บริหารเผยว่ากลุ่ม 100 เครื่องขุดจะขุดได้ราว 0.05 บิตคอยน์/ วัน มีต้นทุนหลักเป็นค่าไฟฟ้า และค่าเสื่อมราคาตัดเส้นตรงราว 5 ปี โดย ผบห.คาดจะเริ่มเห็นรายได้อย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1/65 เป็นต้นไปจากเครื่องขุดรวม 400 เครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติวงเงินกู้ 4 พัน ลบ. ไว้แล้วอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งจะนำมาพัฒนาโครงการเหมืองขุดบิตคอยน์ตั้งเป้า 10,000 เครื่องภายในปีนี้
ผบห.คาดหวังคืนทุนได้เร็ว 10-12 เดือน จะกลายร่างเป็น Asset play
จากทิศทางราคาบิตคอยน์ฟื้นตัวนี้ ผู้บริหารคาดหวังจุดคุ้มทุนที่ 10-12 เดือน อย่างไรก็ดีเราประเมินว่าแต่ละไตรมาสจะมีค่าไฟราว 12 ลบ. และ ค่าเสื่อมราคาราว 10 ลบ. ขณะที่รายได้บนงบกำไรขาดทุนจะผันผวนไปตามราคาบิตคอยน์ ณ สิ้นงวด เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จึงยากที่จะประเมิน แต่ทว่าธุรกิจนี้จะทำให้ภาพของ ZIGA จะเปลี่ยนไปเป็น Asset play ตราบที่บิตคอยน์ยังมีมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง
ไตรมาส 4 คาดกำไรปกติฟื้น +30.5% QoQ ภาพปีแกร่งตามคาด +43.6% YoY
ผลการดำเนินงานคาดกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดี คาดกำไรปกติที่ 45 ลบ. ขยายตัว +30.5% QoQ และใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งแม้ว่ารายได้คาดจะขยายตัวได้ดี +55.6% YoY แต่เราประเมินว่าด้วยทิศทางของราคาเหล็กโลก Hot rolled coil ที่อ่อนตัวลงมาเฉลี่ย -6.7% QoQ ทำให้เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงต่อ 170bps เป็น 25.0% อย่างไรก็ดีเมื่อรวมกับกำไรปกติ 9M64 ที่แข็งแกร่ง 125 ลบ. ทำให้ในภาพรวมปี 2564 คาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 170 ลบ. ขยายตัว +43.6% YoY ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้า
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ