- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 August 2021 16:30
- Hits: 4447
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 6-8-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 6 สิงหาคม 2564
INVESTMENT STRATEGY
Sideways :
แรงงาน US ยังฟื้นตัว
วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,515 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด เน้นหุ้นกำไร 2Q64 ดี และดีต่อในครึ่งหลัง โดย ATO Picks แนะนำ “SMT, EPG”
SMT
รายงานกำไร 2Q64 ที่ 56 ล้านบาท (+8%QoQ, +52%YoY) ตามการเติบโตของกลุ่ม Optics, PCBA, IC และอัตราการทำกำไรเพิ่มขึ้น +170bps QoQ สู่ระดับ 20.2% จาก Product mix ที่ดีขึ้น และอัตราการใช้กำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยคาดแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 8.0 บาท
EPG
คาดกำไรช่วง เม.ย-มิ.ย 64 เติบโตดีสู่ระดับ 415 ล้านบาท (+3%QoQ, +449%YoY) แรงหนุนจากทั้งธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์, ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น และด้านอัตรากำไรขั้นต้นก็จะดีขึนสู่ 32.5% จากการปรับราคาขายขึ้น และต้นทุนปิโตรเคมีที่เริ่มปรับตัวลดลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.5 บาท
INVESTMENT THEME
ภาคแรงงาน US ยังฟื้นตัว
อังกฤษคงดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์ : การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% ตามคาด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งยังคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อพยุงภาพรวมเศรษฐกิจจากแรงกดดันของ COVID-19
ภาคแรงงานสหรัฐฯฟื้นตัว : เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ที่ระดับ 3.85 แสนราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 4 แสนราย ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ใกล้เคียงกับที่ตลาดประเมินไว้ที่ 3.83 แสนราย กลับมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 4 แสนรายได้อีกครั้ง สะท้อนภาคแรงงานสหรัฐฯ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยสำหรับวันนี้แนะติดตามเพิ่มเติม คือ การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งตลาดคาดที่ 8.7 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.5 แสนตำแหน่ง นอกจากนี้ยังแนะจับตาอัตราการว่างงาน ซึ่งตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 5.7% จากเดือนมิถุนายนที่ 5.9% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนว่าภาคแรงงานสหรัฐฯมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัวลง ตอบรับความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มอ่อนแอ จากสถานการณ์ COVID ยืดเยื้อโดย SET ปิดที่ 1,527.66 (-18.20 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.1 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.7 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 5,047 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 217 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 28,264 สัญญา)
EYES ON
6 ส.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร US, อัตราการว่างงาน US
Indorama Ventures (IVL TB)
โตฉลุย
BUY
Share Price THB 40.25
12 m Price Target THB 56.00 (+39%)
Previous Price Target THB 56.00
ผลประกอบการ 2Q64 โตเด่น
IVL รายงาน NPAT หลัก 2Q64 ที่ 6.6 พันล้านบาท (72% QoQ 134% YoY) ดีกว่าตลาดคาด 11% และประมาณการของเรา 13% ขณะที่ EBITDA หลักเพิ่มขึ้นเป็น 477 ล้านเหรียญสหรัฐ (30% QoQ, 60% YoY นำโดยกลุ่มธุรกิจ PET และ IOD เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสแล้ว PET มี EBITDA เพิ่มขึ้น 22% เป็น 319 ล้านเหรียญสหรัฐ (สเปรดเพิ่มขึ้น 25%) IOD เพิ่มขึ้น 182% (สเปรดเพิ่มขึ้น 156% ปริมาณเพิ่มขึ้น 20%) กลุ่มไฟเบอร์ลดลง 10% (ปริมาณลดลง 20% จากโควิด-19 ระลอกใหม่ในเอเชีย) ปริมาณ 2Q64 ทรงตัวที่ 3.6MT Core ROCE เพิ่มขึ้นเป็น 13% เทียบกับ 9% ในไตรมาส 1/64 อัตราส่วน D/E สุทธิทรงตัวที่ 1.27 เท่า เนื่องจากกระแสเงินสดแตะ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์ 281 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปัจจัยหนุนเปลี่ยน + Texas rPET M&A)
บูรณาการธุรกิจ + ห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคมาแรง
IVL ทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยมในกลุ่มธุรกิจ PET ดีกว่าตลาดคาด แม้ว่าสเปรด Integrated PET ในเอเชียจะลดลง 4% QoQ เนื่องจาก 1) ซีกโลกตะวันตกคิดเป็น 70% ของธุรกิจ PET ของ IVL 2) ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทำให้อัตราค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 4 เท่า ส่งผลให้ราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 3) IVL ได้อานิสงส์จากการขาดแคลนวัตถุดิบในฝั่งตะวันตก (PTA, Acetic acid) เนื่องจากรูปแบบธุรกิจแบบบูรณาการและวัตถุดิบที่หาได้ในประเทศซึ่งคู่แข่งไม่สามารถเข้าถึงได้ โดย Core EBITDA ของพอร์ตประเทศตะวันตก (รวม 70%) เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับ 15% ในเอเชีย IVL หวังว่าจะปรับปรุงราคาตามสัญญา (เจรจาใหม่ในปี 2565 กับลูกค้าในตะวันตก) โดยสามารถคงความน่าเชื่อถือด้านอุปทานได้ แม้จะหยุดชะงักในปี 2563/64 เราจะเห็นความชัดเจนในการเจรจามากขึ้นในไตรมาส 3/64
ดีล Oxiteno เป็นไปได้สูง
ผู้บริหารมั่นใจในข้อตกลงกับ Oxiteno โดยคาดอัตราส่วน D/E สุทธิจะสูงสุดที่ 1.5 เท่า (2x พันธสัญญา) และเชื่อมั่นในแนวโน้มรายได้ในปี 65 เราคงมุมมองเชิงบวก (การเติบโตในระยะยาว มีเสถียรภาพ อัตรากำไรสูง) และการเข้าซื้อกิจการที่น่าดึงดูดใจ (7-9 เท่า) อย่างไรก็ตาม เราตระหนักดีว่าความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโควิด-19 และความผันผวนยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะมีการเร่งฉีดวัคซีนอยู่ก็ตาม กรณีที่เลวร้ายที่สุด ภาระหนี้อาจยังคงเพิ่มสูงขึ้นไปอีกนาน กดดันความสามารถในการทำกำไร โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจสารลดแรงตึงผิวแบบบูรณาการและ PO มีความยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพ (ปริมาณและส่วนต่าง) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 15% ของ EBITDA หากเรารวม Oxiteno ซึ่งคิดเป็น 27% ของพอร์ตโฟลิโอก็จะมีเสถียรภาพสูง
ดาวน์ไซด์เรื่องมูลค่าต่ำ กำไรครึ่งปีหลังดี
EBITDA หลักในครึ่งปีแรกคิดเป็น 54% ของประมาณการปี 64 ของเรา ราคาปัจจุบันสะท้อน EV/EBITDA ที่ 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 9.6 เท่า ภาพรวมมหภาคยังคงเป็นบวกจากมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในฝั่งตะวันตก (คาดเอเชียด้วย) และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น กำไรครึ่งปีหลังจะแข็งแกร่งเท่ากับหรือดีกว่าครึ่งปีแรก 64 ผู้บริหารคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้น 7-9% HoH อัตรากำไรขั้นต้นของ PET ทางซีกตะวันตกคาดจะอ่อนแอ (ข้อจำกัดด้านการขนส่งที่ผ่อนคลาย) จะถูกชดเชยด้วย IOD ที่แข็งแกร่งขึ้นและการฟื้นตัวของปริมาณในภูมิภาคเอเชีย (Fiber+PET) IVL จะได้รับประโยชน์จากการเริ่มดำเนินงานของ Lake Charles Cracker อีกครั้งในเดือนสิงหาคม ผู้บริหารประเมินว่าแคร็กเกอร์ออฟไลน์มีค่าใช้จ่าย 90 ล้านเหรียญสหรัฐใน EBITDA (1H64) คงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 56 บาท (EV/EBITDA ปี 64 ที่ 10.5 เท่า)
Kaushal Ladha, CFA
(66) 2658 5000 ext 1392
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ