ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 08 November 2022 22:29
- Hits: 1219
ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ สสส. เสนอว่า
1. โดยที่ มาตรา 63/15 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้ในกรณีที่มีการบังคับให้ชำระเงินและคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงินเป็นที่สิ้นสุดแล้ว หากหน่วยงานของรัฐที่ออกคำสั่งให้ชำระเงินประสงค์ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีในสังกัดกรมบังคับคดีดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ให้ยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลภายในสิบปีนับแต่วันที่คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงินเป็นที่สุด เพื่อให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งทางปกครองนั้น โดยระบุจำนวนเงินที่ผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองยังมิได้ชำระตามคำสั่งทางปกครอง ทั้งนี้ ไม่ว่าหน่วยงานของรัฐยังไม่ได้บังคับทางปกครองหรือได้ดำเนินการบังคับทางปกครองแล้ว แต่ยังไม่ได้รับชำระเงินหรือได้รับชำระเงินไม่ครบถ้วน ประกอบกับมาตรา 63/15 วรรคหก บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐตามมาตรานี้ หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้น หากจะนำมาตรา 63/15 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการฯ ไปใช้บังคับ แก่หน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ใช่กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น จะต้องกำหนดเป็นกฎกระทรวง
2. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตามมาตรา 5 วรรคสอง และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มิได้มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวงตามบทบัญญัติมาตรา 63/15 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการฯ ประกอบกับปัจจุบัน สสส. ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาช่วยปฏิบัติงานให้แก่กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงิน แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาชำระเงินแล้วไม่มีการชำระเงินโดยถูกต้องครบถ้วน และเมื่อได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระเงินแล้วก็ยังคงเพิกเฉยจึงมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน และขายทอดตลาดทรัพย์สินเพื่อกำหนดให้ชำระเงินได้ครบถ้วน แต่เนื่องจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพไม่มีบุคลากรที่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในการยึด การอายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ส่งผลให้ไม่สามารถบังคับตามคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการบังคับตามคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงินของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามมาตรา 63/15 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติราชการฯ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
กำหนดให้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้ เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองได้ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 พฤศจิกายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11399