ขอความเห็นชอบต่อการรับรองร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน (ร่างปฏิญญาฯ) เป็นเอกสารเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ รง. ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในหนังสือสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อรับรองร่างปฏิญญาฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
รง. รายงานว่า
1. ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียนรอบพิเศษเพื่อพัฒนาปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 ได้ให้ความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาฯ พร้อมทั้งเห็นชอบให้นำเรียนรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนพิจารณาให้การรับรองร่างปฏิญญาฯ โดย รง. จะต้องแจ้งยืนยันการรับรองร่างปฏิญญาฯ ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนก่อนการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 27 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (ในเดือนตุลาคม 2565) และส่งต่อสู่ ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 (ราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นประธาน) เพื่อเป็นเอกสารผลลัพธ์ต่อไป
2. ร่างปฏิญญาฯ เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการคงสิทธิและให้ความคุ้มครองด้านประกันสังคมให้กับแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางหรือเคลื่อนย้ายไปทำงานในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศไทยในการดำเนินการตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Global Compact for Safe, Orderly and Regular Migration : GCM) วัตถุประสงค์ที่ 22 เรื่องการจัดตั้งกลไกที่สามารถนำสิทธิประกันสังคมและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับสามารถติดตัวไปได้ ซึ่งมุ่งส่งเสริมให้ผู้โยกย้ายถิ่นฐานทุกคนสามารถเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคมในหลายประเทศปลายทาง และได้รับสิทธิการประกันสังคมและสิทธิที่เกี่ยวข้องเมื่อเดินทางกลับประเทศต้นทางหรือย้ายไปทำงานในอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมรับรอง GCM ในที่ประชุมเต็มคณะของสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 73 เมื่อปี 2561 และอาสาเป็นหนึ่งในประเทศหลักและมีความโดดเด่นที่จะช่วยผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในการนำ GCM ไปปฏิบัติ รวมทั้งสนับสนุนการสร้างงานที่มีคุณค่า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 8 เรื่อง งานที่มีคุณค่าและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ประเด็น/รายละเอียด |
ให้ความสำคัญ/ความสนใจ |
1) ความก้าวหน้าที่สำคัญของประเทศสมาชิกอาเซียนในการบรรลุวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 รวมถึงประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งเป็นประชาคมอาเซียนที่ครอบคลุม ยั่งยืน ยืดหยุ่น และมีพลวัต เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวติและการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น 2) เจตนารมณ์หลักของอาเซียนเพื่อให้ประชาชนอาเซียนได้รับโอกาสในการพัฒนามนุษย์ สวัสดิการสังคม และความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม เพื่อเสริมสร้างความเป็นอยู่และการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคารพ ส่งเสริม ตลอดจนคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรอาเซียน |
สิ่งที่พึงระลึกถึง/ยืนยัน |
1) แรงงานทุกคนรวมทั้งแรงงานต่างด้าวมีสิทธิได้รับประกันสังคมตามที่เน้นย้ำไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติทุกคนและสมาชิกในครอบครัว กรอบพหุภาคีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 2) หลักการชี้นำของปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานข้ามชาติและมติของอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานข้ามชาติ (ฉันทามติอาเซียน) รับรองความรับผิดชอบของรัฐผู้รับและรัฐผู้ส่งแรงงานข้ามชาติของอาเซียน ในการส่งเสริมศักยภาพ ศักดิ์ศรี สิทธิขั้นพื้นฐานและการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อแรงงานข้ามชาติและสมาชิกในครอบครัวอย่างสมดุล 3) ในฉันทามติของอาเซียน รัฐผู้รับจะจัดให้แรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลและสุขภาพที่เหมาะสมตามกฎหมายของประเทศผู้รับ ค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเหมาะสมและผลประโยชน์อื่นๆ การปฏิบัติที่เป็นธรรมในด้านสภาพการทำงาน ค่าตอบแทน ความปลอดภัยในการทำงานและการคุ้มครองสุขภาพ และที่พักที่เพียงพอหรือเหมาะสม เป็นต้น และรัฐผู้ส่งจะรับรองสิทธิของแรงงานข้ามชาติที่ถูกส่งกลับประเทศต้นทาง ในการเข้าถึงบริการสำหรับแรงงานข้ามชาติและสมาชิกในครอบครัว ตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และนโยบายระดับประเทศ 4) อำนาจอธิปไตยของประเทศสมาชิกอาเซียนในการกำหนดนโยบายการย้ายถิ่นที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติ กำหนดการเข้า - ออกจากเขตแดน และแนวปฏิบัติภายใต้เงื่อนไขที่แรงงานข้ามชาติต้องปฏิบัติตาม 5) แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนว่าด้วยการตอบสนองต่อผลกระทบของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ต่อแรงงานและการจ้างงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการอพยพของแรงงานภายในภูมิภาคและส่งผลเสียต่อรายได้ อาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีของแรงงานอาเซียน รวมทั้งแรงงานข้ามชาติที่ถูกเลิกจ้างหรือถูกพักงานจนสูญเสียรายได้และเดินทางกลับประเทศต้นทาง 6) การเคลื่อนย้ายผลประโยชน์ประกันสังคมเป็นความสามารถของสวัสดิการประกันสังคมที่จะถูกโอนและเข้าถึงได้ โดยแรงงานข้ามชาติที่มีสิทธิเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศต้นทาง โดยแรงงานมีสิทธิได้รับตามกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายของประเทศผู้ส่งและผู้รับ 7) ประกันสังคมของประเทศสมาชิกอาเซียนมีความแตกต่างในลักษณะและประเภทของแผน รวมถึงความสามารถในการปฏิบัติงานและการบริหารขององค์กรที่รับผิดชอบ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทรัพยากรของประเทศสมาชิกอาเซียนและลำดับความสำคัญในการพัฒนาประกันสังคมของประเทศ |
การดำเนินการที่สำคัญ |
1) พัฒนานโยบายการย้ายถิ่นฐานที่เหมาะสมและครอบคลุมสำหรับแรงงานข้ามชาติภายในเขตอำนาจศาลของตน รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับคนกลางด้านแรงงาน โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายผลประโยชน์ประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในประเทศสมาชิกอาเซียน 2) อภิปรายขั้นตอนการจัดตั้งและสรุปข้อตกลงทวิภาคีและ/หรือบันทึกความร่วมมือระหว่างประเทศ สมาชิกอาเซียนว่าด้วยการเคลื่อนย้ายผลประโยชน์ประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติ 3) ติดตามผลและข้อเสนอแนะของรายงานการศึกษาเรื่องการเคลื่อนย้ายสิทธิประกันสังคคมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและดำเนินการวิจัยเพิ่มเติม/ศึกษา เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ ประเด็นสำคัญ และขั้นตอนการดำเนินการสำหรับการเคลื่อนย้ายผลประโยชน์ประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในประเทศสมาชิกอาเซียน 4) ใช้เทคโนโลยีในการจัดการและบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการย้ายถิ่นของแรงงานและสวัสดิการประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติ 5) เสริมสร้างความสามารถและผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แรงงานและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านประกันสังคม และปรับปรุงระบบการตอบสนอง การประสานงาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการส่งมอบสวัสดิการสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติให้ดีขึ้น 6) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการเคลื่อนย้ายผลประโยชน์ประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสานงานระหว่างหน่วยงานประกันสังคม เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับนโยบายและระบบประกันสังคมที่เกี่ยวข้อง และแก้ไขปัญหาการบริหารของการโอนผลประโยชน์ประกันสังคมระหว่างประเทศ 7) ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอกของอาเซียน คู่เจรจาอาเซียน สหประชาชาติ หน่วยงาน เช่น องค์การแรงงานระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน และคู่ค้า/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อแบ่งปันความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีตลอดจนการเสริมสร้างขีดความสามารถของแรงงาน |
การมอบหมาย |
1) ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน โดยการสนับสนุนจากการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแรงงานอาเซียนและหน่วยงานระดับรัฐมนตรีรายสาขาของอาเซียนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามความเหมาะสมและประสานงานเพื่อให้เป็นไปตามร่างปฏิญญาฯ ผ่านเอกสารแนวทางและการระดมทรัพยากร ตามกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายของประเทศสมาชิกอาเซียน 2) ให้คณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการดำเนินการตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานข้ามชาติพัฒนาเอกสารสำหรับการรับรองโดยเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแรงงานอาเซียนและที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน และประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เอกสารนี้จะทำหน้าที่เป็นแผนงานของการดำเนินการระดับภูมิภาคสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อปฏิบัติตามแผนขั้นตอนการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2573 |
3. รง. แจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) (กรมอาเซียน) พิจารณาแล้วมีความเห็น ดังนี้
3.1 ไม่มีข้อขัดข้องต่อสารัตถะและถ้อยคำโดยรวมของร่างปฏิญญาฯ หาก รง. ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่องพิจารณาแล้วเห็นว่า มีความเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายและผลประโยชน์ของประเทศไทย สามารถปฏิบัติได้ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งสอดคล้องกับพันธกรณีของประเทศไทยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และสอดคล้องกับเอกสารและปฏิญญาอาเซียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้ไว้แล้ว
3.2 ร่างปฏิญญาฯ ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 5 ตุลาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A10186