- Details
- Category: กทม.
- Published: Sunday, 03 July 2022 13:32
- Hits: 9664
ขสมก. ชี้แจงกรณี นายกรัฐมนตรีให้ชะลอโครงการจ้างเหมาวิ่งรถเมล์ EV จำนวน ๒๒๔ คัน
ตามที่สื่อมวลชน (ฐานเศรษฐกิจดิจิตัล) ได้รายงานข่าว เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ กรณี นายกฯ เบรก ขสมก. หลังถก คนร. ครั้งล่าสุด ตามติดแผนฟื้นฟูกิจการแก้ปัญหาหนี้สะสมแสนล้าน เจอติงโครงการจ้างเหมาวิ่งรถเมล์ EV นำร่อง ๒๒๔ คัน มูลค่า ๙๕๓ ล้าน อาจเลี่ยงปมไม่ผ่านบอร์ดสภาพัฒน์ตรวจสอบ สั่งด่วนไปคุย สศช. เช็คเข้าช่ายเป็นงบลงทุนที่เสนอบอร์ดหรือไม่
ขสมก. ขอชี้แจงว่าปัจจุบัน ขสมก. มีรถโดยสารประจำทางอยู่ ๒,๘๘๕ คัน และมีเส้นทางให้บริการ จำนวน ๑๐๗ เส้นทาง และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เนื่องจากที่ผ่านมา ขสมก. ประสบปัญหาการขาดทุนจากต้นทุนการให้บริการไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับทำให้ มีภาระหนี้สินผูกพันต่อเนื่อง ประมาณ ๑๒๔,๐๐๐ ล้านบาท และรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. ที่มีอยู่ มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาจำนวนมาก ประมาณ ๑,๖๐๐ ล้านบาทต่อปี
ประกอบกับตามหลักเกณฑ์การบรรจุรถโดยสารประจำทางเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการจากกรมการขนส่งทางบกนั้นกำหนดให้ต้องนำรถใหม่หรือรถที่จดทะเบียนไว้ไม่เกิน ๒ ปี เพื่อบรรจุในใบอนุญาตดังกล่าวภายในระยะเวลา ๑ ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการ ส่งผลให้ ขสมก. มีความจำเป็นต้องจัดหารถโดยสารประจำทางอย่างเร่งด่วน เพราะไม่มีรถใหม่บรรจุตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับหากไม่สามารถนำรถไปบรรจุได้ทันภายในระยะเวลากำหนดอาจส่งผลให้ ขสมก. เสียสิทธิการเป็นผู้ประกอบกิจการเดินรถอันเป็นภารกิจหลักขององค์การ
รวมทั้งไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเท่าเทียมทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.
ในเรื่องของการจัดหารถโดยสารในวิธีการจ้างเหมาบริการ แทนที่จะเป็นการซื้อ หรือการเช่ารถโดยสารประจำทางนั้น ขสมก. ขอชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การจ้างเหมาบริการ (เอกชนจัดหารถโดยสารและพนักงานขับรถ) เป็นการใช้งบดำเนินงานจากค่าโดยสาร ส่วนต่างของต้นทุนด้านเชื้อเพลิง (จากน้ำมันดีเซล เป็น ระบบไฟฟ้า) ส่วนต่างของค่าเหมาซ่อมที่ลดลง รวมทั้งต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเดินรถ โดยไม่ใช้งบลงทุนเพิ่มในการดำเนินการ ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม และไม่เป็นภาระผูกพันในระยะยาว เนื่องจากเป็นการทำแผนงานระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นวิกฤตของ ขสมก.
โดยเป็นสัญญาระยะสั้น ในช่วงที่รอให้แผนฟื้นฟูได้รับความเห็นชอบให้ดำเนินการ โดยแนวทางการจัดหารถโดยสารด้วยวิธีการจ้างเหมาบริการนั้น ขสมก. อ้างอิงตามหลักการจำแนกงบประมาณรายจ่ายตามงบประมาณในหมวดค่าใช้สอย ที่หมายถึงรายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ (ค่าจ้างเหมาบริการ เพื่อให้ผู้รับจ้างทำการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง แต่มิใช่เป็นการประกอบ ดัดแปลง ต่อเติมหรือปรับปรุง ครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) ตามหนังสือของสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๐๔/ว ๓๓ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓
อย่างไรก็ดี ภายใต้ขอบเขตของการดำเนินงานในโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถและลดมลภาวะในเขตเมืองรวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของ ขสมก. ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ซึ่งมีความต้องการรถโดยสารประจำทาง ประมาณ ๒๐๐ คัน โดยไม่ใช้งบลงทุน เพราะไม่เป็นรายจ่ายเพื่อให้เกิดสินทรัพย์ถาวร จึงไม่เข้าข่ายดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.๒๕๖๓ ประกอบกับ มาตรา ๗ (๕) แห่ง พ.ร.บ. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑
อย่างไรก็ตาม จากการประชุม คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายนที่ผ่านมา ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ได้สั่งการให้ ขสมก. เร่งรัดการดำเนินการตามมติการประชุม คนร. และทุกข้อสังเกตในที่ประชุม ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการกับประชาชนให้มีประสิทธิภาพและให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด ทั้งในประเด็นการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการขอคำปรึกษาหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้มีความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ต่อไป