WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'พาณิชย์'ปฏิรูปการตลาดข้าวลดบทบาทอคส.-อตก.หลังจำนำข้าวเจ๊ง

      แนวหน้า : หอการค้าไทย แนะ'คสช.'จัดระเบียบการปลูกข้าวใหม่ ลดพื้นที่นาดอนให้ไปปลูกพืชอื่นที่มีรายได้สูงกว่าขณะที่ พาณิชย์ประกาศปรับแผนยุทธศาสตร์จัดการข้าวใหม่ มุ่งรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

     นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ต้องการเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาจัดระเบียบพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 70 ล้านไร่ในไทยใหม่เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร โดยส่งเสริมให้ชาวนาเปลี่ยนการปลูกข้าวในพื้นที่นาดอนประมาณ 27 ล้านไร่มาปลูกสินค้าเกษตรประเภทอื่น เช่น อ้อย, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด และยางพาราแทน เนื่องจากที่ผ่านมาชาวนาที่ปลูกข้าวบริเวณดังกล่าวแทบไม่มีกำไร หรือมีรายได้ในระดับเพียง 4,000 -4,500 บาทต่อไร่ เพราะมีต้นทุนสูง และผลผลิตต่อไร่ต่ำเฉลี่ยไม่เกิน 250- 300 กก.ต่อไร่

     ทั้งนี้ มีการประเมินว่า มีที่นาในการเพาะปลูกข้าวประมาณ 70 ล้านไร่ แต่เป็นพื้นที่เหมาะสมน้อยหรือไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวถึง 26-27 ล้านไร่ ในส่วนนี้ผู้ที่ปลูกข้าวแทบไม่ได้กำไรเลยหรือไม่ก็ขาดทุน เนื่องจากมีผลผลิตต่ำไม่ถึง 300 กก.ต่อไร่ หากเป็นพื้นที่นาในเขตชลประทานในบางพื้นที่อาจมีผลผลิต 600-800 กก.ต่อไร่ ดังนั้น หากมีการส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่นก็จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น หากเปลี่ยนมาปลูกอ้อยอาจมีรายได้สูงถึง 14,000 บาทต่อไร่ หากหักลบต้นทุนก็จะมีกำไรประมาณ 5,000 บาทต่อไร่ หรือ ปลูกมันสำปะหลัง จะมีรายได้ประมาณ 8,000 -10,000 บาทต่อไร่ และมีกำไร 2,000 -3,000 บาทต่อไร่

    มีรายงานข่าวจาก กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะทบทวนบทบาทการตลาดข่าวใหม่ หลังจากที่ผ่านมา โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนอย่างหนัก โดยจะมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ โดยจะเน้นให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพด้านการพาณิชย์ให้มากขึ้น ในส่วนของกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) อาจจะมีการลดบทบาทเรื่องการระบายข้าวลง จากที่เคยเป็นผู้ดูแลจัดการระบายข้าวโดยตรง มาทำหน้าที่ในการดูแลกลไก สนับสนุนส่งเสริมภาคเอกชนในการขับเคลื่อนเป็นผู้ปฎิบัติมากขึ้นโดยเฉพาะในต่างประเทศ กำหนดยุทธศาสตร์การระบายข้าว ดูแลความสัมพันธ์ระดับรัฐบาล เน้นการเป็นผู้เจรจาภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ) สำหรับรัฐวิสาหกิจ ทั้ง องค์การคลังสินค้า(อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) จะดูแลดุลยภาพตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

     อีกทั้งกรมการค้าต่างประเทศจะมีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพด้านราคาข้าวมากขึ้น หลังจากเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะไม่มีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก หรือโครงการประกันรายได้ชาวนาแล้ว เพราะพาณิชย์ก็ยังมีข้าวที่ยังค้างอยู่ในสต็อกรัฐบาลส่วนหนึ่งที่ยังต้องบริหารจัดการ ทำให้การดูแลรักษาเสถียรภาพราคาข้าวจะต้องยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและมีกลไกใหม่เข้ามาเสริม ส่วนข้าวจากฤดูการผลิตใหม่ การบริหารจัดการก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น และจะมีการเข้ามาดูแลสินค้าตัวอื่นมากขึ้นด้วย

     “ส่วนมาตรการลดปัจจัยการผลิตที่มีแผนออกมาชัดเจน ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ใหม่ เพราะนอกจากจะช่วยชาวนาในการชดต้นทุนการผลิตแล้ว ยังจะส่งผลดีเกี่ยวเนื่องไปยังข้าวในระบบ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในด้านราคา และอาจรวมถึงคุณภาพด้วย

     ขณะเดียวกัน เมื่อกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้บริหารจัดการสต็อกข้าว ในส่วนบทบาทหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจอย่าง อคส. ก็จะมุ่งหารายได้ในเชิงพาณิชย์ หลังจากไม่มีโครงการจำนำข้าวแล้ว โดยจะเน้นการหารายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมเป็นหลัก มีการจัดระเบียนการทำงานหมุนเวียนในองค์กร กำกับดูแลในส่วนของภาคเอกชน ดูแลเสถียรภาพ ดุลภาพในต่างประเทศ ถ่วงดุลการค้าในประเทศ

    นอกจากนี้ ในส่วนของการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) จากการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการระบายข้าวครั้งล่าสุด ได้มีการอนุญาตให้การระบายข้าวกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของจีน อย่างคอฟโก สามารถดำเนินการได้ตามปกติ หลังมีการตรวจสอบแล้ว โดยล็อตแรก 1 แสนตัน จากสัญญาซื้อขาย 1 ล้านตัน คาดว่ามีปริมาณที่รอการส่งมอบไม่เหลือไม่มากนัก

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!