- Details
- Category: สัมภาษณ์พิเศษ
- Published: Monday, 13 October 2014 19:17
- Hits: 7698
สัมภาษณ์พิเศษ : ‘ธนา ไชยประสิทธิ์’ ความไม่เท่าเทียม...ทางการศึกษา... คือปัญหาใหญ่ของเยาวชนไทย...
แนวหน้า : นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด
เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจทั้งประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของอาเซียนและเอเชีย แต่ตัวเลขการพัฒนาและประสิทธิภาพการศึกษาและของนักเรียนไทย กลับอยู่ในอันดับท้ายๆและเกือบท้ายสุดด้วยซ้ำไป เราตามหลังแม้กระทั่งเด็กของหลายประเทศที่มีแรงค์กิ้งทางเศรษฐกิจต่ำกว่ำไทยหลายขุม ปัญหานี้แม้ว่าทางรัฐบาลหลายยุคหลายสมัยจะพยามแก้ปัญหานี้แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าสักเท่าไหร่ แม้ว่าแต่ละปีกระทรวงศึกษาฯจะได้รับงบประมาณสูงที่สุดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการศึกษาไทย และเรามักจะได้ยินข้ออ้างเสมอว่าบุคคลากรไม่เพียงพอ งบประมาณยังขาด
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ยังถือว่าโชคดีที่มีหน่วยภาคเอกชนหลายแห่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พยามยื่นมาเข้ามาช่วยพัฒนาการศึกาของเด็กในรูปแบบต่างๆ ทั้งการให้ทุนการศึกษา การจัดเวทีพัฒนาทักษะการเรียนนอกห้องเรียน และที่สำคัญคือการกระจายความเท่าเทียวของการศษึกาที่มีคุณภาพให้เข้าถึงเด็กไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในภิมิภาคไหนฯลฯ
และหนึ่งในนั้นคือ บริษัท โอสถสภา จำกัด….โดยคุณธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าวกับ”แนวหน้า โลกธุรกิจ“ว่า 'การศึกษา'นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาบุคลากร ดังนั้นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนได้รับพื้นฐานการศึกษาที่ดีเป็นสิ่ง ที่จำเป็น และควรได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต บริษัทฯ จึงจัดโครงการ Osotspa Road to University ขึ้นเป็นปีที่ 7 เพื่อสานฝันเยาวชนไทยสู่รั้วมหาวิทยาลัยขึ้น เพื่อติวเข้มเตรียมสอบแก่นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั่วประเทศ เพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่อไป
เขาบอกีอกว่า กระแสการติวของเด็กนักเรียนมัธยมปลายเพื่อสอบเข้ารั้ว มหาวิทยาลัยในเมืองยังเป็นที่นิยมกันมาก เสาร์-อาทิตย์ เนืองแน่นกันมากทั้งผู้ปกครองและน้องๆที่รอเรียนพิเศษกับอาจาร์ยติวเตอร์ ชื่อดังเพื่อหวังอยากเอ็นทรานเข้ามหาวิมยาลัยชื่อดังทั้งนั้น ขณะที่เด็กต่างจังหวัดหลายคนที่มีความฝันอยากเรียนมหาวิทยาลัยดังๆอาจได้รับ โอกาสน้อยกว่า จากทุนทรัพย์และต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน
ดังนั้น การกระจายความเท่าเทียมทางด้านการศึกษาด้วยรูปแบบการติวเพื่อสานฝันเยาวชน ไทยสู่รั้วมหาวิทยาลัยไปยังเยาวชนต่างจังหวัดเพื่อให้มีโอกาสเท่าเทียมกับ เด็กในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสำคัญมาก...และนี่จึงเป็นที่มาของโครงการ "หนึ่งใจ....ติวให้น้อง Osotspa Road to University” หรือถนนสู่รั้วมหาวิทยาลัย เป็นโครงการเพื่อสานฝันเยาวชนไทยทั่วประเทศเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่รั้ว มหาวิทยาลัย โดย บริษัท โอสถสภา จำกัด ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และสถาบันกวดวิชาชั้นนำ ร่ยวมมือกันดำเนิกนารโครงนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 7 โดยที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากเยาวชนและน้องๆระดับัธยมปลายที่จะเข้าศึกษา ต่อในมหาวิทยาลัยสนใจ เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 3-4แสนคน ปีนี้ประเดิมที่จังหวัดพิษณุโลกและจะไปสิ้นสุดโครงการที่จังหวัดอุบล ลราชธานี เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมถึง วันที่ 11 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา รวมจังหวัดจัดโครงการทั้งสิ้น 7 จังหวัด ประกอบด้วยพิษณุโลก เชียงราย ตราด. นครศรีธรรมราช สกลนคร ราชบุรี อุบลราชธานี
สำหรับ สถาบันกวดวิชาชั้นนำ อาทิ สถาบันกวดวิชาเจี๋ย, โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษ Enconcept ,ครูลิลลี่ ,และอาจารย์ชัย ที่เดินทางมาด้วยตัวเองชนิดใกล้ชิดแบบตัวจริงเสียงจริงพร้อมเทคนิคและวิธี พิชิตข้อสอบจากติวเตอร์มากประสบการณ์ให้แก่น้องๆ ในทุกภูมิภาคของประเทศ ที่ไม่มีโอกาสกวดวิชาจากสถาบันกวดวิชาใดๆมาก่อน ประกอบด้วยรายวิชาคณิตศาสตร์ (อ.เจี๋ย) ภาษาอังกฤษ (ครูพี่แนน) ภาษาไทย(ครูลิลลี่) สังคม (อ.ชัย) เคมี (อ.บิ๊ก)ชีววิทยา (พี่หมอเมศ) ฟิสิกส์ (ครูพี่ผิง) และคอร์สเชื่อมโยง (พี่ทาย์ม) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ด้านติวเตอร์ชื่อดังอย่าง"อิส รา ธนาปกิจ"หรือครูพี่แนน สถาบัน Enconcept กล่าวว่า โครงการในปีนี้มันยิ่งใหญ่มากเลยค่ะ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเด็กๆ รู้จักโครงการมากขึ้น มีการพูดถึงส่งต่อกันจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง น้องๆ ก็ตั้งตารอให้ถึงโครงการเพื่อที่จะมาพบกับติวเตอร์ ทำให้รู้สึกว่าผลการตอบรับดีกว่าทุกปีที่ผ่านๆ มา และความประทับใจที่สุดก็คือ พี่แนนและโอสถสภารู้สึกภูมิใจมากๆ ที่ทำให้น้องๆ ทั้งโครงการในปีนี้ มีความสุขกับการเรียน พี่แนนก็ขอให้น้องๆทุกคน กล้าที่จะฝัน และรับผิดชอบต่อความฝันให้ถึงที่สุด เชื่อว่าน้องๆจากโครงการ OSOTSPA Road to University ในปีนี้ จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ
นายชัยรัตน์ เจษฎารัตติกรหรือ อ.เจี๋ย กล่าวว่า ผมร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่ปีแรกๆ มันมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมาถูกงานแล้ว ผมได้เข้ามาร่วมในโครงการที่ถือได้ว่าเป็นมหากุศล ได้สร้างโอกาสให้เด็กๆ ที่อยู่ในที่ห่างไกลหรือด้อยโอกาสได้เรียนรู้ ซึ่งในหลายพื้นที่ผมได้เห็นภาพเด็กๆเดินทางกันมาจากต่างอำเภอบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง บางโรงเรียนมากันด้วยรถไม้เก่าๆ แต่ก็ตั้งใจตื่นแต่เช้าเดินทางข้ามจังหวัดกันมา มันเป็นภาพที่ดูแล้วมีความสุขมากๆครับ แน่นอนครับว่าผมและทีมงานติวเตอร์ทุกท่าน อยากจะทำโครงการดีๆแบบนี้เพื่อสร้างโอกาสให้กับลูกหลานเยาวชนไทยต่อไป
ขณะ ที่เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการติวอย่างนส.ณัชรินทร์ การุณย์ โรงเรียน เขื่องในพิทยาคาร กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจจากการเข้าร่วมโครงการตลอด 2 วันนี้ คือ ได้รับความรู้และความสนุกจากอาจารย์และพวกพี่ๆทีมงานเป็นกันเองมาก ช่วยเหลือน้องๆเต็มที่ ซึ่งความพิเศษหรือแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนเพราะที่โรงเรียนไม่ได้สอน เจาะลึกเหมือนที่มาติว ซึ่งทำให้เราทำโจทย์ยากๆได้ง่ายขึ้นโดยชอบวิชา ภาษาอังกฤษมากและขอบคุณที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา อยากให้จัดโครงการนี้อีกในปีถัดไปเพื่อจะได้ให้น้องๆมาติวอีกและอยากให้ เพื่อนๆที่อยู่ต่างจังหวัดเข้ามาร่วมโครงการนี้ เพราะเป็นโอกาสให้กับเด็กที่ไม่ได้เรียนพิเศษได้มีโอกาสเข้ามาเรียนกับติว เตอร์ที่มีชื่อเสียง
นายเดชาพล มะโนนำ โรงเรียน แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ กล่าวว่าโครงการนี้ทำให้เราเรียนอย่างเต็มที่ เล่นอย่างเต็มที่ ซึ่งติวเตอร์มีเทคนิคในการสอนไม่ให้เรารู้สึกเครียด ซึ่ง เรียนอย่างเดียวมันจะน่าเบื่อ แตกต่างจากเรียนในห้องเรียนมาก เพราะทำให้เรารู้ว่าการทำข้อสอบมีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งบทความเพื่อทำโจทย์ข้อเดียว มีเทคนิคการสอนที่เยี่ยม และอยากให้มีงานติวแบบนี้อีกในทุกๆ ปี
อนันตเดช พงษ์พันธุ์