- Details
- Category: บทวิเคราะห์สังคม
- Published: Sunday, 24 May 2015 18:11
- Hits: 7916
'สมเกียรติ'ระบุสื่อทำตัวเป็นดารา ขาดศรัทธา-มุ่งพัฒนาเป็นธุรกิจ
แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ, สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยรังสิต จัดประชุมใหญ่วิชาการและวิชาชีพสื่อมวลชน ประจำปี 2558 ยุทธศาสตร์เพื่ออนาคตวารสารศาสตร์ ครั้งที่ 10 เรื่อง ปฏิวัติคนข่าว ทุน-อุดมการณ์ การปรับตัวของนักนิเทศศาสตร์ยุคดิจิทัล ณ โรงภาพยนตร์ อาคารดิจิทัล มัลติมีเดีย คอมเพล็กซ์ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมี นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อมวลชน ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ‘ทุน-อุดมการณ์สื่อยุคดิจิทัล’
นายสมเกียรติ กล่าวตอนหนึ่งว่า งานสื่อสารมวลชนผ่านการเปลี่ยนแปลง เผชิญแรงกดดัน ต้านอำนาจท้าทาย หลงใหลในพลังเย้ายวนหลายหลาก จนปัจจุบันมีเทคโนโลยีข่าวสารรวดเร็ว ล้ำสมัย ไกลเกินจินตนาการ งานสื่อสารมวลชนจึงเป็นงานที่ไร้ขอบเขตหรือข้อจำกัดคำนิยามใดๆ งานสื่อสารมวลชนเป็นทั้งธุรกิจและมากกว่าธุรกิจ สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่เผชิญหน้าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนักหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรืออินเตอร์เน็ต
การเข้าสู่ระบบธุรกิจและการลงทุนเป็นปัญหาใหญ่ เพราะหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ ต้องทำรายได้ตามที่เจ้าของกิจการและผู้ถือหุ้นต้องการ พนักงานข่าวและพนักงานอื่นๆ และผู้ทำหน้าที่สื่อสารมวลชนทั้งหลายเริ่มคิดว่า เงินคือผลตอบแทนสำคัญในอาชีพ จรรยาบรรณยอมเสียเงินและค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพื่อความจริง กลายเป็นการขายเนื้อที่โฆษณาและข่าวประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าและสินค้าที่ยืมข่าวเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์
“นักสื่อสารมวลชนเกือบทั้งหมดเกิดและอยู่ในบรรยากาศแบบบริษัทธุรกิจ ซึ่งเป็นการจำกัดกรอบงานและทรงอิทธิพลต่อการทำงานของสื่อมวลชน การที่สื่อมวลชนห่วงใยผู้ถือหุ้น กังวลผลกำไรขาดทุนเจ้าของกิจการ ทำให้เหล่าบรรณาธิการข่าวหันเหความสนใจไปจากงานของสื่อมวลชนที่เคยยึดเป้าหมายการทำหน้าที่พลเมืองดีต่อสังคมไป เป็นการทำลายความจงรักภักดีที่สื่อมวลชนเคยมีต่อผู้อ่าน และทำลายความมั่นคงเติบโตของธุรกิจสื่อสารมวลชนในระยะยาว”
นายสมเกียรติ กล่าวถึงความเสื่อมของนักสื่อสารมวลชน ทั้งนักหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ว่า สื่อมวลชนทำตัวเป็นดารา ค่าตัวแพง ผู้ประกาศข่าวกลายเป็นดาราที่แสดงเพียงบทอ่านข่าว ส่วนผู้สื่อข่าวที่ทำงานหนักจริงจังกลับมีรายได้น้อย แทบเลี้ยงครอบครัวไม่รอด ผู้สื่อข่าวสงครามบาดเจ็บล้มตายมากมาย ส่วนดาราอ่านข่าวหน้ากล้องเข้าสังคมหรูหรา นักข่าวรุ่นใหม่เด็กเกินไป งานมากเกินกว่าจะเข้าถึงความจริงได้ ประสบการณ์น้อยจนตกเป็นเครื่องมือของนักประชาสัมพันธ์ ทั้งยังมีนักข่าวที่ร่วมมือกับนักการเมืองไม่น้อย ทำให้มุมมองความจริงเรื่องประชาธิปไตยเปลี่ยนไป
“งานสื่อสารมวลชนมีความสำคัญมากกว่าการเป็นธุรกิจ คือ การค้นหาความจริงและรายงานให้ถูกต้อง ไว้ใจได้ หากสื่อมวลชนไม่เป็นที่ไว้วางใจแล้ว ก็จะไม่มีใครเชื่อ ใครเคารพ ขณะนี้โลกสื่อมวลชนกำลังกลายเป็นธุรกิจ สาธารณชนกำลังลดความเชื่อถือสื่อมวลชนไปอย่างมาก จึงเป็นปัญหาใหญ่ของสื่อมวลชนโลก”
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า สื่อมวลชนในโลกตะวันตกมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความตื่นตัวก็ตาม” นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนกล่าว และว่า วิธีแก้ไข คือ ทำตัวเองให้ดีขึ้น ประชาชนก็จะกลับมาเสพสื่อเหมือนเดิม ส่วนสื่อมวลชนไทยมีภูมิทัศน์สื่อเช่นเดียวกับโลกตะวันตก แต่สถานการณ์ในเมืองไทยวิกฤตหนักกว่า จนมองไม่เห็นทางแก้ไข หากนักธุรกิจสื่อสารมวลชนและนักสื่อสารมวลชนไม่จัดระบบการทำงานหรือการศึกษาของตนเองใหม่ รวมถึงไม่คำนึงถึงบทบาทหน้าที่ตามวิชาชีพ ทั้งในด้านคุณภาพและการสร้างสรรค์ผลงาน ตลอดจนปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีมากขึ้น
สื่อสารมวลชนไทยต้องไม่ยอมปรับตัวตามสถานการณ์ความเสื่อมทรามทางการเมือง ซึ่งเป็นความเสื่อมทรามในประเทศ นับวันจะไปด้วยกันไม่ได้กับหลักการพื้นฐานด้านสื่อสารมวลชน วิกฤตสื่อสารมวลชนเป็นวิกฤตสากล มีทุกแห่ง ทุกทวีป ทุกประเทศ และทุกวัฒนธรรม แต่เรามักไม่เรียนรู้จากวิกฤตที่เคยเกิดขึ้นในโลกตะวันตก อยากปฏิรูปสื่อด้วยการร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง ๆ ที่การปฏิรูปสื่อขึ้นอยู่กับองค์กรธุรกิจสื่อ สำนักงาน และตัวเรา ไม่มีกฎหมายฉบับใดจะปฏิรูปช่วยให้ดีขึ้นได้