- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Monday, 26 January 2015 23:56
- Hits: 3129
ธุรกิจโรงแรมปีแพะเงินสะพัด 5.27 แสนล้านผู้ให้บริการหืดจับแข่งขันรุนแรงนักเที่ยวยุโรปหด
บ้านเมือง : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ คาดปี 58 โรงแรมฟื้นตัวโต 7.1-10.0% จะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรม ประมาณ 513,000-527,000 ล้านบาท แต่ยังต้องจับตาภาวะนักท่องเที่ยวรัสเซียและยุโรปชะลอตัว เป็นปัจจัยกดดันธุรกิจโรงแรมรวมถึงการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการที่รุนแรง
ประเด็นน่าจับตามอง
ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเผชิญความท้าทายจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของรัสเซีย และยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก นอกจากนี้ การขยายธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมยังส่งผลให้การแข่งขันในปี 2558 รุนแรงขึ้น อาจนำมาสู่ภาวะการแข่งขันทางด้านราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมระดับสามดาว
หากสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยมีความสงบเรียบร้อยดังเช่นปัจจุบัน รวมทั้งภาพรวมในตลาดโลกไม่มีปัจจัยร้ายแรงมากระทบบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ประมาณ 513,000-527,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1-10.0 จากปี 2557 โดยการเปิด AEC และมาตรการให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวและสัมมนามาหักลดหย่อนภาษีได้ เป็นปัจจัยหนุน
ปี 57 ธุรกิจโรงแรมลำบาก
สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในปี 2557 ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยลดลง สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยก็ได้รับผลกระทบจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยพบว่า รายได้ของโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเดือนมกราคม
ถึงกันยายนของปี 2557 ส่วนใหญ่ลดลงเกินกว่าร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2556 ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จาก การเข้าพัก และรายได้จากการเป็นผู้ให้บริการสถานที่จัดงานระดับนานาชาติจากตลาด MICE ต่างชาติ
โดยคาดว่า ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมที่เหลือของปี 2557 ผลประกอบการน่าจะกลับมาขยายตัวจากในช่วงเดียวกันของปี 2556 ได้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและการจัดงานขององค์กรต่างๆ แต่การขยายตัวของผลประกอบการดังกล่าว จะยังไม่สามารถชดเชยผลประกอบการที่ลดลงในช่วงเก้าเดือนแรกของปีได้ ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในภาพรวมของปี 2557 น่าจะยังคงเติบโตอย่างติดลบ ถึงแม้ว่าโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บางราย ได้มีการลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจผ่านการกระจายการลงทุนธุรกิจโรงแรมไปยังต่างประเทศในปี 2557 แล้วก็ตาม
ธุรกิจโรงแรมปี'58 ท้าทาย
จับตาธุรกิจโรงแรมปี'58 เศรษฐกิจของประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยชะลอตัวลงและการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการที่รุนแรงมากขึ้น เป็นความท้าทาย
สำหรับในปี 2558 นี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทยในภาพรวมน่าจะฟื้นตัวจากปี 2557 แต่ก็ยังมีแรงกดดันธุรกิจโรงแรมจากเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยชะลอตัวลง รวมถึงการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการจำนวนมาก ยังส่งผลให้การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ธุรกิจโรงแรมเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยชะลอตัวลงในปี 2558 นี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของต่างประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
รัสเซีย และยุโรป ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวลดลง ซึ่งนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปเป็นกลุ่มที่มีงบประมาณในการเดินทางท่องเที่ยวต่อคนต่อ วันอยู่ในระดับสูง และมีระยะเวลาท่องเที่ยวในประเทศไทยยาวนาน อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมระดับกลางขึ้นไปที่มีรายได้จากการให้บริการนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปเป็นหลัก ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมที่ไม่ได้พึ่งพารายได้จากการให้บริการนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปเป็นหลักอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
โดยพบว่า แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลที่สำคัญ ได้แก่ พื้นที่พัทยา มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปประมาณร้อยละ 54 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุยเกาะพงัน และเกาะเต่า) มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปประมาณร้อยละ 51 ของจำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด และ จ.ภูเก็ต มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปประมาณ ร้อยละ 40 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด จึงกล่าวได้ว่า ธุรกิจโรงแรมที่มีสถานประกอบการกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวรัสเซีย และยุโรปจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโรงแรมพื้นที่พัทยา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) และภูเก็ต อาจได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการลดลงของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะสามารถชดเชยการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปได้บางส่วน แต่ก็พบว่า นักท่องเที่ยวจีนยังมีงบประมาณในการเดินทางท่องเที่ยวต่อคนต่อวันไม่สูงมากนัก ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต้องเตรียมพร้อมรับมือต่อการลดลงของรายได้ที่อาจเกิดขึ้น
ฟื้นตัวช้าแข่งรุนแรง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าในปี 2558 นี้ การท่องเที่ยวในประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า เนื่องจากต้องรอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวไปอีกระยะ การท่องเที่ยวในประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงน่าจะกลับมาคึกคักได้ดังเดิมการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการจำนวนมาก อาจนำมาสู่การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และเกิดภาวะการแข่งขันทางด้านราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมระดับสามดาว
การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในปี 2558 นี้ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยนอกจากจะมีการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรายเดิมในตลาดครอบคลุมตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาวไปจนถึงโรงแรมระดับสามดาวแล้ว ยังมีการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรายใหม่ และการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่หันมาขยายธุรกิจสู่ธุรกิจโรงแรมมากขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแรมยังต้องจับตามองทางเลือกในการใช้บริการที่พักที่หลากหลายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ความนิยมซื้อคอนโดมิเนียมและบ้านพักในแหล่งท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยวคนไทย ความนิยมเช่าคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การปล่อยให้เช่าคอนโดมิเนียมและบ้านพักโดยตรงจากเจ้าของผ่านเว็บไซต์ที่เป็นศูนย์กลาง เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าพักโรงแรม ประกอบกับนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มนิยมจองห้องพักผ่านอินเตอร์เน็ตในนาทีสุดท้ายเพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด
สถานการณ์ดังกล่าว นำมาซึ่งการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่รุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้อาจเกิดภาวะห้องพักล้นตลาดในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และยังอาจนำมาสู่ภาวะการแข่งขันทางด้านราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมระดับสามดาว ซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะการแข่งขันทางด้านราคาระหว่างผู้ประกอบการในระดับสูงกว่าโรงแรมในระดับสี่ดาวขึ้นไป ท่ามกลางแนวโน้มที่เชนโรงแรมขนาดใหญ่ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มโรงแรมระดับสามดาวมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนและเตรียมพร้อมรองรับการเพิ่มขึ้นของฐานนักท่องเที่ยวระดับกลาง นำมาซึ่งความจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในการเตรียมปรับตัวรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมขนาดกลางและเล็ก ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแข่งขันจากโรงแรมระดับสามดาวที่มาจากการขยายธุรกิจของเชนโรงแรมขนาดใหญ่
ปัจจัยหนุนจากการเปิด AEC
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2558 ยังมีปัจจัยหนุนธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ทั้งจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมาตรการให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวและสัมมนามาหักลดหย่อนภาษีได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ธุรกิจโรงแรมมีโอกาสจากการเปิด AEC ในช่วงของการนับถอยหลังสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางสัญชาติอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดหลักของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยอยู่แล้ว เดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น ทั้งแหล่งท่องเที่ยว พื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ และพื้นที่ชายแดน รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนยังเอื้ออำนวยให้การลงทุนธุรกิจโรงแรม โดยผู้ลงทุนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นไปได้สะดวกขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายในการลงทุนธุรกิจโรงแรมที่สำคัญของภูมิภาค
เมื่อพิจารณาถึงการขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรม ก็พบว่า เชนโรงแรมขนาดใหญ่ได้มีการขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีศักยภาพอยู่แล้ว เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ในขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและเล็กอาจใช้โอกาสจากการที่ภาคส่วนต่างๆ มีความพยายามในการสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านผลักดันให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างเชื่อมโยงภายในภูมิภาคอาเซียน ขยายโอกาสทางธุรกิจเพื่อให้บริการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคอาเซียน ยกตัวอย่างเช่น การสร้างเครือข่ายโรงแรมขนาดกลางและเล็กในอาเซียนด้วยกัน การจัดแพ็กเกจการท่องเที่ยวร่วมกันกับโรงแรมขนาดกลางและเล็กในอาเซียน เป็นต้น
ตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะเป็นตัวช่วยหนุนธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ได้สำหรับรายได้จากการเข้าพักจากนักท่องเที่ยวคนไทยนั้น แม้ว่าภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังธุรกิจโรงแรมอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ แต่ในปี 2558 นี้ ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำน่าจะมีการกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก อีกทั้งการประกาศใช้มาตรการให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวและสัมมนามาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่กระตุ้นตลาดธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ได้ ทั้งจากการท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวทั่วไป และนักท่องเที่ยวกลุ่มองค์กร จึงกล่าวได้ว่า ท่ามกลางภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัสเซีย และยุโรป ที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย รวมถึงการจัดงานระดับนานาชาติจากตลาด MICE ต่างชาติที่ยังไม่ฟื้นตัว ตลาดภายในประเทศไทยเองน่าจะเป็นตัวช่วยหนุนธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ได้
ดังนั้น หากสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยมีความสงบเรียบร้อยดังเช่นปัจจุบัน รวมทั้งภาพรวมในตลาดโลกไม่มีปัจจัยร้ายแรงมากระทบบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ประมาณ 513,000-527,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1-10.0 จากปี 2557 ที่คิดเป็นมูลค่า 479,000 ล้านบาท โดยเป็นเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 344,000-353,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9-7.6 จากปี 2557 ที่คิดเป็นมูลค่า 328,000 ล้านบาท และเป็นเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมจากนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณ 169,000-174,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9-15.2 จากปี 2557 ที่คิดเป็นมูลค่า 151,000 ล้านบาท
การเติบโตของเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมในปี 2558 ดังกล่าว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการฟื้นตัวจากปี 2557 ที่เม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมหดตัวลงร้อยละ 2.6 ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง และภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมระวังความเสี่ยงจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป และการแข่งขันด้านราคา การส่งเสริมจากภาครัฐสะท้อนโอกาสของโรงแรมในหัวเมืองรอง
ท้าทายฝีมือการบริหาร
โดยสรุป ในปี 2558 จะเป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับธุรกิจโรงแรม ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต้องจับตามองสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของต่างประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยเป็นปัจจัยกดดันธุรกิจโรงแรม
ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจที่มีการพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป ที่อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการในกรณีที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักลดลง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแหล่งท่องเที่ยว พื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ และพื้นที่ชายแดน สามารถลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป ผ่านการขยายตลาดไปยังนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางระหว่างประเทศสัญชาติอาเซียนที่มีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมอาจให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้จากตลาดภายในประเทศ ทั้งรายได้จากการเข้าพัก และรายได้จากการเป็นผู้ให้บริการสถานที่จัดงานต่างๆ
อีกทั้ง ยังมีความเสี่ยงสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต้องระมัดระวังในปี 2558 นี้ ได้แก่ ภาวะการแข่งขันทางด้านราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงแรมระดับสามดาว ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมจำนวนมากอย่างต่อเนื่องมาจากในปี 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมระดับสามดาวอาจชูจุดขายโดยกำหนดตำแหน่งการแข่งขันในด้านการเป็นโรงแรมที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ยกตัวอย่างเช่น อยู่ในทำเล ที่เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการอย่างครบครัน เป็นต้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในด้านความคุ้มค่าในสายตาของนักท่องเที่ยว ที่จะส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างความแตกต่างจากโรงแรมระดับสามดาวทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีภาพลักษณ์ในด้านการเป็นที่พักในระดับราคาปานกลางเท่านั้น
นอกจากนี้ การที่นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการใช้บริการที่พักที่หลากหลายขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต้องชูจุดขายผ่านการนำเสนอกิจกรรมที่สอดคล้องกับรูปแบบการท่องเที่ยวของนัก ท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะเป็นการสร้างความแตกต่างจากการเข้าพักในคอนโดมิเนียม บ้านพัก และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่ไม่มีการนำเสนอกิจกรรมในระหว่างเข้าพัก
แม้ว่า การแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมจะมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักและพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ แต่จากการที่ภาครัฐส่งเสริมให้ปี 2558 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย ที่จะมีการสนับสนุนให้เกิดการกระ จายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดที่เป็นหัวเมืองรองมากขึ้น ได้แก่ ลำปาง เพชรบูรณ์ เลย บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี ชุมพร ตรัง สมุทรสงคราม และราชบุรี ที่นักท่องเที่ยวจะมีการกระจายการท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยวหลักและพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ มาสู่จังหวัดที่เป็น หัวเมืองรองมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ดังกล่าวที่จะให้บริการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ