การพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ในงานสัมมนา "ไทย อีโคโนมิคส์ 

2015:เธอะ เวย์ ฟอร์เวิร์ด" อันสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยเป็นผู้จัด

ที่ว่า

"เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 เพราะการเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย การลงทุนภาครัฐเดินได้ต่อเนื่องและภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น"

เป็น "เนื้อหา" ที่ "เข้าใจ" ได้

1 เพราะ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล พูดในฐานะรองนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับงานด้านเศรษฐกิจ และ 1 เป็นงานของสถาบันส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท

จึง "จำเป็น" ต้องออกมาในแนวนี้ เป็นอื่นไปไม่ได้

กระนั้น เมื่อรับฟังจากที่ นายสนั่น อังอุบลกุล กล่าว จากที่ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 

กล่าว จากที่ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กล่าว

ก็เริ่มไม่แน่ใจ ก็เริ่มไม่มั่นใจ

ยิ่งรับฟังจากที่ นายสมหมาย ภาษี ยืนยัน ยิ่งรับฟังจากที่ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ยืนยัน ยิ่งทำให้บังเกิดอาการวังเวง

ทั้ง "วังเวง" และ "หวังเหวิด"

ข้อสังเกตจาก นายสนั่น อังอุบลกุล 

แย้งกับบทสรุปอันมาจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กล่าวในที่ประชุมสัมมนาอย่างสิ้นเชิง

1 การลงทุนภาคเอกชนคงยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

1 จึงมีความหวังเดียว คือ การลงทุนภาครัฐ แต่กลไกและขั้นตอนต่างๆ ทำให้ไม่สามารถกระจายเงินออกมาได้ตามเป้าหมาย

นายสนั่น อังอุบลกุล เป็นรองประธานหอการค้าไทย

"ราคาน้ำมันที่ลดลงมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้น แต่ต้องติดตามว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลให้การบริโภคในประเทศสูงขึ้นได้แค่ไหน"

เป็นข้อสังเกตจาก นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย

"หากส่งออกไทยโตต่ำการลงทุนภาครัฐก็ชดเชยได้ยากเนื่องจากการลงทุนภาครัฐในปีงบประมาณ 2558 มีวงเงินเพียง 4.5 แสนล้านบาท บวกกับการลงทุนของรัฐที่ค้างมาเดิมในโครงการไทยเข้มแข็งหรือโครงการ

อื่นๆ อีก 5 แสนล้านบาทเท่านั้น"

เป็นข้อสังเกตจาก นายศุภวุฒิ สายเชื้อ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.ภัทร

"ขณะที่จะต้องเร่งรัดการลงทุนภาครัฐไม่ให้ล่าช้าเหมือนไตรมาส 4 ปี 2557 ที่มีการลงทุนเพียง 41,000 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งหมด 450,000 ล้านบาท"

ข้อมูลนี้ "สำคัญ" ข้อมูลนี้ทรง "ความหมาย"

การสะท้อนออกของ "ภาคเอกชน" ไม่ว่าจะมาจากหอการค้าไทย ไม่ว่าจะมาจากสมาคมธนาคารไทย หรือผู้อยู่ในงานสายวิจัยและการลงทุน

เป็นการ "แย้ง" ต่อการนำเสนอของ "รัฐบาล" อย่างแน่นอน

ที่สำคัญคือ เท่ากับบอกให้รู้ว่าข้อมูลอันมาจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ว่า การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย การลงทุนภาครัฐเดินได้ต่อเนื่อง ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น

ไม่น่าจะยืนอยู่บน "ฐาน" อันเป็นจริง

ยิ่ง นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาตอกย้ำ "พยายามเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณของทุกส่วนราชการเพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ"

เท่ากับเป็นการยอมรับในเรื่อง "ความล่าช้า"

เช่นเดียวกับที่ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ "รัฐมนตรีกำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายในระดับท้องถิ่นว่านำเงินไปใช้หรือไม่ หรือฝากไว้ที่ธนาคาร"

เพราะเบิกไปแล้วกว่า 100,000 ล้านบาท

การยืนยันของ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ เท่ากับเป็นการรับรองในความห่วงใยที่ 

นายสมหมาย ภาษี มีต่อสภาพการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่ยังล่าช้า ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

นี่ "แย้งขัด" กับ "รองนายกรัฐมนตรี" เด่นชัด

มีความเข้าใจตรงกันว่าเจตนาแท้จริงในการพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ว่าดำเนินไปอย่างไร

นั่นก็คือ ต้องการสร้างความหวัง สร้างความมั่นใจ แต่เมื่อเป็น "ข้อมูล" ที่มีปัญหา ไม่สอดรับกับความเป็นจริงอัน "จริงแท้" ก็อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต

เป็นปัญหา "ความเชื่อมั่น" เป็นปัญหา "ความไว้วางใจ"...