โค้งสุดท้ายปี 2560 คนกรุงเทพฯ มีแผนท่องเที่ยวในไทยร้อยละ 75.4 ... ปรับกลยุทธ์นำเทคโนโลยีสร้างสีสันการตลาดท่องเที่ยว 4.0
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Friday, 25 May 2018 10:49
- Hits: 1137
โค้งสุดท้ายปี 2560 คนกรุงเทพฯ มีแผนท่องเที่ยวในไทยร้อยละ 75.4 ... ปรับกลยุทธ์นำเทคโนโลยีสร้างสีสันการตลาดท่องเที่ยว 4.0
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จัดทำการสำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2560 พบว่า คนกรุงเทพฯ มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75.4 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่าไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 24.6 ของจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของคนกรุงทพฯ ยังคงเป็น จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากผลสำรวจที่สะท้อนให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯ มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กอปรกับบรรยากาศในประเทศ รวมถึงสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว น่าจะเป็นแรงบวกที่ดีต่อทิศทางการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 นี้ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนกรุงเทพฯ น่าจะก่อให้เกิดรายได้แก่การท่องเที่ยวในประเทศเป็นมูลค่า 46,450 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จัดทำการสำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2560 พบว่า คนกรุงเทพฯ มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75.4 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่าไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 24.6 ของจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของคนกรุงทพฯ ยังคงเป็น จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากผลสำรวจที่สะท้อนให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯ มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กอปรกับบรรยากาศในประเทศ รวมถึงสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว น่าจะเป็นแรงบวกที่ดีต่อทิศทางการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 นี้ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนกรุงเทพฯ น่าจะก่อให้เกิดรายได้แก่การท่องเที่ยวในประเทศเป็นมูลค่า 46,450 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน