- Details
- Category: ผู้ตรวจการแผ่นดิน
- Published: Thursday, 17 June 2021 15:47
- Hits: 829
สตง. เผยความคืบหน้าการติดตามผลการตรวจสอบกรณีการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง อปท.ทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายผลการตรวจสอบโดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงาน
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยข้อมูล ความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรูปประติมากรรม ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ว่า เกี่ยวกับภารกิจตรวจสอบการใช้จ่ายงบเงินประมาณภาครัฐในการจัดทำโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรูปประติมากรรม ของ อปท.หลายแห่งที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนอยู่ในขณะนี้นั้น ในข้อเท็จจริง สตง.เริ่มตรวจสอบและพบข้อสังเกตรวมถึงปัญหาการดำเนินงานโครงการฯ ลักษณะนี้ มาตั้งแต่ช่วงปี 2555
ในการดำเนินงานโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมรูปสิงห์ พร้อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ที่ใช้งบประมาณ กว่า 722,595 บาท จัดทำเสาไฟฟ้ารูปสิงห์ จำนวน 13 ต้น เฉลี่ยต้นละประมาณ 5.5 หมื่นบาทต่อต้น ซึ่งสูงกว่าเสาไฟฟ้าทั่วไปประมาณต้นละ 1.5 หมื่นบาท นอกจากนั้น ยังพบว่า ใช้งานได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จึงได้แจ้ง อบต.ให้มีการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงทำหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยว่า โครงการติดตั้งเสาไฟฟ้ารูปประติมากรรม กำลังได้รับความสนใจจาก อปท.หลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นกระทรวงมหาดไทย ควรจะต้องกำชับท้องถิ่นให้กำกับดูแลเรื่องการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า และสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง
นายประจักษ์ บุญยัง กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น สตง. ได้กำหนดแผนงานในการเข้าไปติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมของอปท.ทั่วประเทศ ว่ามีพื้นที่ใดบ้าง ที่มีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกันกับ อบต.ดังกล่าว ทั้งในเรื่องของราคา และการติดตั้งเป็นไปตามมาตราฐานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ โดยพิจารณาตามมาตราฐานไฟฟ้าสาธารณะ ปี 2548 ซึ่งออกโดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยเป็นสำคัญ ซึ่งกำหนดมาตรฐานสำคัญไว้หลายส่วนด้วยกัน เช่น มาตรฐานความส่องสว่าง ระยะห่างของจุดติดตั้งฟ้าสาธารณะ รูปแบบของการติดตั้ง กรณีติดตั้งสองฝั่งถนน ติดตั้งกลางถนน เป็นต้น แต่มาตรฐานนี้ ยังไม่มีเรื่องประติมากรรมบนเสาไฟฟ้าแต่อย่างใด
ต่อมาในปี 2560 สตง.ได้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมประติมากรรมรูปกินรี ในส่วนของ อบต.ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และพบว่า มีประเด็นข้อสังเกตหลายประการ เช่น ราคาเสาไฟฟ้าที่จัดซื้อมีราคาสูง การกำหนดราคากลางไม่ถูกต้อง การติดตั้งไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาเรื่องการชำรุด ขาดการดูแล บำรุงรักษา ประกอบกับผลการตรวจสอบในพื้นที่อื่นๆ มีลักษณะเช่นเดียวกัน สตง.จึงวิเคราะห์ในภาพรวม และได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบพร้อมข้อเสนอแนะไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำเนาหนังสือส่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. เรื่องราคาที่สูงมาก รูปแบบความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะติดตั้งกับภูมิทัศน์ของท้องถิ่น 2. การติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมไม่เป็นไปตามมาตราฐานไฟฟ้าสาธารณะที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด เช่น การติดตั้งมีความถี่มากกว่าที่กำหนด 3. การชำรุดเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ขาดการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใหแจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง.หากจะดำเนินโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานโครงการฯ
กรณีการตรวจสอบในส่วนของอบต.ราชเทวะในปี 2560 สตง. ได้ออกหนังสือแจ้งให้ อบต.ราชาเทวะ ดำเนินการให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐ จำนวน 67.29 ล้านบาท ดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นผลการตรวจสอบพบว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการใช้จ่ายเงินมีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ / จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย จึงได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบและส่งเรื่อง พร้อมเอกสาร หลักฐานประกอบ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ตั้งแต่ปี 2561ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561
สำหรับ การตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 ของ อบต.ราชาเทวะ ซึ่งปรากฎเป็นข่าวทางสื่อออนไลน์และสื่อมวลชนกระแสหลักอยู่ในปัจจุบัน สตง.มีแผนงานในการเข้าตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการบูรณาการและประสานงานความร่วมมือกันกับหน่วยงานตรวจสอบแห่งอื่นอีกด้วย ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
จากผลการตรวจสอบและประเด็นปัญหาดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงมีนโยบายในการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เป็นลักษณะไฟไหม้ฟางและเกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต และให้มีมาตรการเชิงระบบในการป้องกันกำกับดูแล เรื่องการใช้จ่ายเงินในโครงการฯ ลักษณะนี้ให้เกิดความคุ้มคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยให้ สตง. ดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเร่งด่วน เพื่อเสนอแนะแนวทางหรือมาตรการในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน รวมไปถึงการเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันพิจารณากำหนดแนวทางหรือมาตรการในการดำเนินการที่ชัดเจนต่อไป
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร โทร. 0 2618 5755
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ