- Details
- Category: ปปช.
- Published: Sunday, 29 June 2014 19:19
- Hits: 3665
ป.ป.ช.ลุยสอบทรัพย์สิน 100 บริษัท! โยงทุจริตจำนำข้าว
แนวหน้า : ป.ป.ช.ลุยสอบทรัพย์สิน 100 บริษัท! โยงทุจริตจำนำข้าว คาดชี้มูล‘ปู’กันยานี้
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายวิชา มหาคุณกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงเรื่องการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ว่า ในการดำเนินการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น ทาง ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ เนื่องจากพบว่ามีบริษัทกว่า 100 แห่ง ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
“ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทที่ได้มีการเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวด้วย ซึ่งมีกว่า 100 แห่ง โดยต้องขยายผลการสอบสวน เพื่อหาจำนวนเงินในที่ใช้ในการซื้อขายว่าไปอยู่ที่ใด และมีจำนวนเงินที่จ่ายออกตรงตามบัญชีหรือไม่ มีกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช.ยังได้แจ้งยุติการสอบสวนพยานเพิ่มเติม 8 ปากในคดีจำนำข้าวไปยังคณะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ยื่นขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมแล้ว และคาดว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลคดีอาญาทั้งหมดเสร็จสิ้นในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จเสียก่อน
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างๆตามโครงการรับจำนำข้าวแล้วพบว่ามีข้าวหายไปจากโกดัง ว่า เป็นการส่งทหารลงไปตรวจตามขั้นตอน อย่าไปกังวล ไม่ได้มีการเจาะจง หรือต้องการขยายความแตกแยก และไม่ใช่การไล่ล่า คสช.ทำงานตามปกติ เมื่อมีการสำรวจและจัดทำบัญชี ก็จะมีคณะกรรมการที่ลงไปตรวจสอบตามบัญชี หากเจอสิ่งไม่ถูกต้องก็รายงาน คสช.
วันเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย ได้เป็นประธานการประชุมบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับ 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมเจ้าท่า สำนักนโยบายละบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ และกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อสรุปผลการพิจารณาแผนงานน้ำปี 57 และแนวทางการดำเนินการปี 58 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน
พล.อ.ฉัตรชัย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ได้มีการหารือถึงงบประมาณปี 57 ที่จะใช้ในการบริหารจัดการน้ำ จำนวน 17,000 ล้านบาท ซึ่งได้ตรวจสอบว่าจะใช้งบประมาณของ 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 13,000 ล้านบาท และจะเหลือ 3,000 กว่าล้านบาทที่ขอกันไว้เพื่อใช้ในการทำแผนงานในโครงการปี 58 เพื่อให้สอดคล้องเชื่อมโยงกันทุกหน่วยงานและป้องกันการทับซ้อน และต่อไประบบการบริหารจัดการน้ำจะพิจารณาร่วมกันโดยคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำที่มีตนเป็นประธาน ซึ่งแผนงานโครงการทั้งหมดจะนำเสนอต่อสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนที่จะเสนอให้ คสช.พิจารณาต่อไป
“ในขณะที่ยังไม่มีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ แผนงานในงบประมาณปี 57 ก็ต้องดำเนินการไปก่อนทั้งที่ทำไปแล้ว และกำลังจะทำอยู่ ที่ผ่านมาแผนบริหารจัดการน้ำของแต่ละหน่วยงานต่างฝ่ายต่างดำเนินการไม่เชื่อมโยงกัน ผมก็จะรวบรวมบูรณาการให้เป็นแนวทางเดียวกัน โดยคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จะคิดเรื่องน้ำทั้งระบบเพื่อบูรณาการแผนงานที่วางกรอบไว้ว่าจะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ระบุว่า สำหรับการแก้ไขและบริหารจัดการน้ำตามงบประมาณที่มีอยู่จะมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ขุดลอกคูคลองทั่วประเทศ ปรับปรุงประตูระบายน้ำของกรมชลประทาน เพื่อให้เก็บน้ำได้มากขึ้นเตรียมไว้ใช้ในฤดูแล้ง เป็นต้น ซึ่งภายหลังการประชุมจะให้ทั้ง 7 หน่วยงานกลับไปดำเนินการตามแผนงานให้แล้วเสร็จในช่วง 3 - 4 เดือน ซึ่งโครงการที่จะดำเนินการหลังจากนี้เป็นการใช้งบประมาณปี 57 ส่วนงบประมาณปี58 ยังไม่ได้ดำเนินการ จะต้องตั้งเรื่องขึ้นมาก่อนโดยให้สำนักงบประมาณเข้ามาดูแล โดยระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจะทำแผนปี 58 เพื่อเสนอ คสช.อีกครั้ง
“ส่วนแผนงานต่างๆจะป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้หรือไม่นั้น ทางรองปลัด กทม.ยืนยันว่า กทม.มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่จะให้ตอบว่าเงิน 13,000 ล้านบาท จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก และเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ไม่ได้มีความเป็นห่วง เพราะเรามีความตั้งใจอยู่บนพื้นฐานหลักวิชาการ” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว