- Details
- Category: สภาพัฒน์ฯ สศช.
- Published: Monday, 21 December 2015 09:43
- Hits: 7095
ส่งออกรับอานิสงส์'เฟด'หั่นดบ.แต่ห่วง'ภัยแล้ง'ปัจจัยลบในไตรมาส 2
แนวหน้า : สศช.คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยส่งผลดีต่อการ ส่งออกไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เชื่อว่าจะปรับราคาขึ้น ขณะที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าค่อยๆ ฟื้นห่วงเรื่องภัยแล้ง-การเมือง กระทบ
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวว่า กรณีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในรอบ 10 ปี นับว่าเป็นไปตามที่หลายฝ่าย คาดการณ์ไว้และยังส่งสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกให้ปรับตัวดีขึ้น และจะมีผลโดยตรงต่อการส่งออกไทยให้ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาสินค้าส่งออกของไทยในส่วนของสินค้าเกษตรเชื่อว่าจะปรับราคาสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มั่นใจว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนของไทยมองว่าจะปรับอ่อนค่าลงหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการ ส่งออกไทยโดยรวม โดยปี 2559 มั่นใจว่าการส่งออกจะดีขึ้นกว่าปีนี้ที่คาดว่าการส่งออกจะติดลบถึงร้อยละ 5 ขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ของประเทศปีนี้คาดว่าจะขยายตัว ร้อยละ 2.9 และปีหน้าขยายตัวร้อยละ 3-4 จากการลงทุนภาครัฐที่สามารถเดินหน้าได้เต็มที่
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ตามลำดับจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หากเม็ดเงินเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3 แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ทั้งหนี้ภาคครัวเรือน สถานการณ์ทางการเมือง และภัยแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรมาส 2 ปี 2559 ที่จะเริ่มส่งผลกระทบชัดเจนขึ้น
ส่วนการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มีหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมเน้นย้ำให้รัฐบาลมีการพิจารณาสัญญาการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบคอบและดำเนินนโยบายโดยคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสุขภาพและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มเติบโต ระยะยาว เนื่องจากประเทศไทยมีแนวโน้ม การขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุ ส่วนธุรกิจ เอสเอ็มอีและธุรกิจการเกษตรยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2558 พบว่าหดตัวร้อยละ 4.2 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 โดยสาขาพืช ประมง และบริการทางการเกษตรหดตัวลง ส่วนสาขาพืชหดตัวร้อยละ 5.8 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557
ส่วนแนวโน้มปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่ม จะฟื้นตัว การกระตุ้นทางการเกษตรและการลงทุนภาคเกษตร ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งปัจจัยสนับสนุนด้านนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ เช่น ระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรอินทรีย์ และเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นต้น
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะเริ่มมีการประมูล ปี 2559 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างระยะสั้น แต่รัฐบาล ควรจะรีบผลักดันให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนอย่างจริงจัง รวมถึงชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม อุตสาหกรรมมูลค่าสูง
เผยรายได้เกษตรหล่นตุบสศก.ยันต้นตอพิษภัยธรรมชาติเล่นงานวูบ 4.2%
บ้านเมือง : สศช.คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยส่งผลดีต่อการส่งออกไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเชื่อว่าจะปรับราคาขึ้น ขณะที่ สศก.ชี้รายได้เกษตรหดร้อยละ 4.2 คาดปี 59 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.5-3.5%
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวระหว่างการเปิดงาน ไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 6 ว่า กรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบ 10 ปี นับว่าเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้และยังส่งสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกให้ปรับตัวดีขึ้น และจะมีผลโดยตรงต่อการส่งออกไทยให้ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาสินค้าส่งออกของไทยในส่วนของสินค้าเกษตรเชื่อว่าจะปรับราคาสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มั่นใจว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนของไทยมองว่าจะปรับอ่อนค่าลงหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทยโดยรวม โดยปี 2559 มั่นใจว่าการส่งออกจะดีขึ้นกว่าปีนี้ที่คาดว่าการส่งออกจะติดลบถึงร้อยละ 5 ขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศปีนี้คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.9 และปีหน้าขยายตัวร้อยละ 3-4 จากการลงทุนภาครัฐที่สามารถเดินหน้าได้เต็มที่
สำหรับ การจัดงาน "ไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ กรุงเทพฯ" ณ Sky Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 18 - 20 ธันวาคม 2558 บรรดาสถาบันการเงินร่วมกันออกบูธโปรโมชั่นการเงินการลงทุน เงินฝากดอกเบี้ยสูง กู้ดอกเบี้ยต่ำ โปรโมชั่นบัตรเครดิต หรือการวางแผนทางการลงทุนต่างๆ เช่น การลงทุนในหุ้น ในกองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน คอนโดมิเนียม เอ็นพีเอต่างๆ ที่สถาบันการเงินนำมาลดราคา หรือการให้คำปรึกษาแนะนำการลงทุนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ตลอดจนการทำประกันภัย ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การวางแผนการออมผ่านการทำประกันชีวิต ฯลฯ และการลุ้นรางวัลอีกมากมาย
ขณะที่นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2558 พบว่า หดตัว ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยสาขาพืช สาขาประมง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตพืชไร่และข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลองซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชที่สำคัญของประเทศ
"เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูเพาะปลูก หลายพื้นที่ของประเทศยังคงประสบปัญหา จึงได้ขอเลื่อนการเพาะปลูกข้าวนาปีออกไปในช่วงเดือนกรกฎาคม 2558 อีกทั้งการทำประมงหดตัว เป็นผลมาจากการยกเลิกสัมปทานประมงในน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซีย และการปฏิบัติตามกฎหมายประมงฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงให้ถูกต้องและยั่งยืนตามกรอบไอยูยู" นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5-3.5 ซึ่งปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ภาคเกษตรกลับมาขยายตัวได้ในปี 2559 เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว มีการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภาคเกษตรมากขึ้น เช่น โครงการ motor pool การปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตร และสถานการณ์ ดินฟ้าอากาศที่จะไม่รุนแรงไปกว่าปีนี้
นอกจากนี้ คาดว่า ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ต้นทุนการผลิตไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง รวมทั้งการกำหนดนโยบายด้านการเกษตรต่างๆ ของรัฐบาล ได้แก่ ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เกษตรอินทรีย์ การแก้ปัญหา IUU เขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (National Single Window : NSW) การพัฒนาแหล่งน้ำและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง การจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร การส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน การดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การพัฒนาสหกรณ์ การกำหนดมาตรฐานบัญชีสหกรณ์ และเขตเกษตรเศรษฐกิจ (zoning) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยให้กลับมาฟื้นตัวในทิศทางบวก แต่อาจจะยังมีความเสี่ยงในเรื่องภาวะฝนทิ้งช่วงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูเพาะปลูกปี 2559 รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย
