มติชนออนไลน์ : วันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวเพื่อชี้แจง กรณีที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการร่วม อสส.-ป.ป.ช. มีมติให้ ส่งฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนข้าว แต่ยังมีความสับสน เนื่องจาก ผู้บริหารระดับสูงทางอัยการสูงสุด ออกมาให้ข่าวในลักษณะว่ายังไม่ทราบเรื่องนั้น

      ล่าสุด อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องยิ่งลักษณ์ตามข้อกล่าวหา และจะยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

    ทั้งนี้ เมื่อเวลา09.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เปิดเผยว่า นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เรื่องละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้

 

   นายสุรศักดิ์ ระบุว่าเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการ และ ป.ป.ช. ได้พิจารณาหลักฐานร่วมกันแล้วมีความเห็นว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วจึงเสนอให้อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งคดี

 

 

ทั้งนี้อัยการสูงสุดพิจารณาพยานหลักฐานที่คณะทำงานอัยการส่งมาประกอบพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดในสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช. แล้วเห็นว่าคดีมีความสมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีอาญานางสาวยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงให้ดำเนินคดีอาญาฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พระราชบัญญัญติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

 

   โดยจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำคำฟ้องตรวจพยานหลักฐานคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงแหน่งทางการเมืองได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้

 

   และในวันฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงแหน่งทางการเมืองไม่มีความจำเป็นต้องนำตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ไปศาลซึ่งอัยการสามารถดำเนินการได้เอง ส่วนการคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ รวมถึงการสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเป็นดุลพินิจของศาล

 

   ขณะที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะมีการลงมติถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ในวันนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เมื่ออัยการมีพยานหลักฐานครบถ้วน ทางอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งในคดี ส่วนกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตุถึงการแถลงข่าวของอัยการว่าเป็นการทิ้งน้ำหนักให้กับ สนช. หรือไม่ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องเพราะอัยการสูงสุดมีภารกิจจึงได้มีความเห็นตั้งแต่ช่วงเช้านี้

 

   ขณะเดียวกัน นายนรวิทย์หล้าแหล่ง ทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ ยื่นหนังสือถึงอัยการเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเห็นว่า ยังมีบางประเด็นที่เคยยื่นขอความเป็นธรรมไปแล้ว อัยการยังไต่สวนไม่ครบถ้วน จึงเห็นว่า ยังไม่ควรมีคำสั่งคดี