- Details
- Category: กสทช.
- Published: Friday, 20 October 2017 23:01
- Hits: 16252
กสทช. เตรียมนำส่งเงินประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz งวด 2 ส่งคลัง 2.16 หมื่นลบ.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. เตรียมนำเงินรายได้ที่เกิดจากประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz งวดที่ 2 ในเดือน ธ.ค. 2560 จำนวน 21,608.12 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นรายได้แผ่นดิน แบ่งเป็นของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ที่จะครบกำหนดการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz งวดที่ 2 ในวันที่ 11 ธ.ค. 2560 อีก 25% จำนวน 10,963.76 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเป็นของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ที่จะครบกำหนดการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz งวดที่ 2 ในวันที่ 19 ธ.ค. 2560 อีก 25% จำนวน 10,644.36 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สำหรับ งวดที่ 3 ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายจะครบกำหนดชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz อีก 25% ที่เหลือ ในเดือน ธ.ค. 2561
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือแจ้งกำหนดชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz งวดที่ 2 พร้อมนำส่งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดที่ 3 ให้กับทั้งสองบริษัทไปแล้ว และเมื่อสำนักงานฯ ได้รับการชำระเงินก็จะรีบนำเงินดังกล่าวส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
อนึ่ง ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในปี 2558 บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ชุดที่ 1 คลื่นความถี่ 1710-1725 MHz คู่กับ 1805-1820 MHz ที่ราคาประมูล 39,792 ล้านบาท และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ฯ ชุดที่ 2 คลื่นความถี่ 1725-1740 MHz คู่กับ 1820-1835 MHz ที่ราคาประมูล 40,986 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ทำรายได้เข้ารัฐ 80,778 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 86,432.47 ล้านบาท) โดยการชำระเงินค่าประมูลจะแบ่งออกเป็น 3 งวด งวดแรกชำระ 50% ของราคาที่ชนะการประมูล งวดที่ 2 ชำระ 25% และงวดที่ 3 ชำระอีก 25% ซึ่งในปี 2558 ทั้งสองบริษัทได้ชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ในงวดที่ 1 จำนวน 50% ของราคาที่ชนะการประมูลมาแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43,216.23 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินไปแล้ว
อินโฟเควสท์
เล็งจ่ายค่างวดไลเซนส์ 1800 รัฐเตรียมรับเละ 21,000 ล้าน
ไทยโพสต์ : พหลโยธิน 8 * กสทช.เล็งนำ เงินค่างวดไลเซนส์คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ส่งคลังกว่า 21,000 ล้านบาท ธ.ค.นี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนัก งานเตรียมนำเงินรายได้ที่เกิดจากประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 21,608.12 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ของงวดที่ 2 ที่จะครบกำหนดให้ผู้ประกอบการมาชำระใน ธ.ค.2560 เพื่อส่งเข้ากระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
โดยเป็นของบริษัท แอด วานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ที่จะครบกำหนดการชำระในวัน ที่ 11 ธ.ค.2560 จำนวน 10,963.76 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และเป็นของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ที่จะครบกำหนดการชำระในวัน ที่ 19 ธ.ค.2560 จำนวน 10,644.36 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2560 สำนักงานได้ส่งหนังสือแจ้งกำหนดชำระเงินดังกล่าว พร้อมกับหนังสือค้ำประกันการชำระเงินงวดที่ 3 ให้กับทั้งสองบริษัทไปแล้ว
สำหรับ การชำระเงินค่าประมูลแบ่งออกเป็น 3 งวด งวด แรกชำระ 50% ของราคาที่ชนะการประมูล งวดที่ 2 ชำระ 25% และงวดที่ 3 ชำระอีก 25% ซึ่งในปี 2558 ทั้งสองบริษัทได้ชำระค่าประมูลในงวดที่ 1 จำ นวน 50% แล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43,216.23 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งสำนักงานได้ นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็น รายได้ของแผ่นดินไปแล้ว และงวดที่ 3 ซึ่งจะเป็นงวดสุดท้ายครบกำหนดชำระเงินในเดือน ธ.ค.2561 อีกจำนวน 21,608.12 ล้านบาท หรือ อีก 25% ที่เหลือ
ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานได้ จัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800MHz ในปี 2558 ที่ผ่านมา บ.ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซลฯ เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจ การโทรคมนาคมคลื่นความถี่ 1800 MHz ชุดที่ 1 ย่านความถี่ 1710-1725 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 1805-1820 เมกะเฮิรตซ์ ที่ราคาประมูล 39,792 ล้านบาท และ บ.แอดวานซ์ ไวร์เลสฯ เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นดัง กล่าวชุดที่ 2 ย่านความถี่ 1725-1740 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 1820-1835 เมกะเฮิรตซ์ ที่ราคาประมูล 40,986 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วทำรายได้เข้ารัฐถึง 80,778 ล้านบาท เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นเงิน 86,432.47 ล้านบาท.