- Details
- Category: กสทช.
- Published: Wednesday, 20 August 2014 22:42
- Hits: 2771
กสทช.เคาะราคาคูปองทีวีดิติอล 690 บาท จัดแจกปลายเดือนก.ย.
กสทช. กำหนดราคาคูปอง 690 บาท แต่เลื่อนแจกจากกำหนดเดิมกลางเดือนกันยายนเป็นปลายเดือน และเริ่มให้ประชาชนแลกได้ราวกลางเดือนตุลาคม
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงคูปองส่วนลดซื้ออุปกรณ์รับชมโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่จะแจกแก่ประชาชนรอบแรก ประมาณ 11 ล้านฉบับ ชัดเจนแล้วว่ามูลค่าอยู่ที่ 690 บาท โดยคาดว่าจะเลื่อนเวลาแจกจากกลางเดือนกันยายน เป็นปลายเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากโครงการแจกคูปองจะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ และได้เร่งผู้ประกอบการกล่องรับสัญญาณดิจิตอลวางขายกล่องให้ประชาชนนำคูปองไป แลกโดยเร็วที่สุด ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้
กสทช.เลื่อนแจกคูปองทีวีดิจิทัล เป็นปลายก.ย.นี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า คูปองส่วนลดซื้ออุปกรณ์รับชมโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่จะแจกแก่ประชาชนรอบแรก ประมาณ 11 ล้านฉบับยังเป็นมูลค่าเดิมที่ 690 บาท คาดว่าจะเลื่อนเวลาแจกจากกลางเดือนกันยายน เป็นปลายเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากโครงการแจกคูปองจะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ พร้อมเร่งผู้ประกอบการกล่องรับสัญญาณดิจิตอลวางขายกล่องให้ประชาชนนำคูปองไป แลกโดยเร็วที่สุดประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ได้ให้กองสลากเป็นผู้จัดพิมพ์คูปอง ต้นทุน 2.75 บาทต่อฉบับ และไปรษณีย์ไทยเป็นผู้จัดส่ง ต้นทุนฉบับละ 13.50 บาท แต่ทางกสทช. จะต่อรองเหลือฉบับละ 10 บาท ตามงบประมาณที่บอร์ดกสทช. ได้เห็นชอบกรอบวงเงินในการจัดพิมพ์และจัดส่งคูปองรวมถึงงบประมาณในการบริหาร จัดการคูปองจำนวน 11.5 ล้านฉบับ วงเงิน 165.5 ล้านบาท แยกเป็นค่าจัดทำคูปอง 32.775 ล้านบาท ค่าจัดส่งคูปองและค่าบริหารจัดการโครงการและการตรวจสอบ 132.725 ล้านบาท
ที่ประชุม กสทช.ยังมีมติกำหนดคุณสมบัติของบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่จะเข้าร่วมโครงการแลกคูปอง กับ กสทช. ต้องเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.ให้จำหน่ายโทรทัศน์ และกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ทุนจดทะเบียนบริษัทไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท วางเงินประกันร้อยละ5 ของมูลค่าคูปองเท่าจำนวนกล่องที่ขอแลกโครงการ และบริษัทต้องให้มีจุดรับบริการรับแลกกล่อง และจุดบริการหลังการขายที่เพียงพอในการให้บริการแก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 4 แห่งต่อหนึ่งจังหวัด ต้องมีบริการสายด่วนเพื่อรับเรื่องร้องเรียนให้บริการแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย