- Details
- Category: กสทช.
- Published: Sunday, 25 June 2017 09:21
- Hits: 3817
กสทช.เปิดขายซองประมูลโครงการเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน เคาะราคา ก.ค.เริ่มให้บริการ ธ.ค.60
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า(20 มิ.ย.) เป็นวันแรกของการเปิดขายซองประกวดราคาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน โดยสำนักงาน กสทช. จะเปิดขายซองประกวดราคาไปจนถึงวันที่ 29 มิ.ย.60 จากนั้นจะจัดให้มีการประกวดราคาใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในเดือน ก.ค. จากนั้นคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ในเดือน ส.ค.60 เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.60 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของหมู่บ้านเป้าหมาย และจะให้บริการครบทั้ง 3,920 หมู่บ้านภายในเดือน ก.ค.61
โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบนี้ ใช้งบประมาณในการดำเนินงาน 13,614.62 ล้านบาท เพื่อให้มีการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) และให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) ในพื้นที่เป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาก 3,920 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 5 พื้นที่ดำเนินการ ได้แก่ 1.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จำนวน 1,013 หมู่บ้าน 2.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด จำนวน 1,014 หมู่บ้าน 3.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 1,085 หมู่บ้าน 4.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคกลางและภาคใต้ 24 จังหวัด จำนวน 752 หมู่บ้าน และ 5.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) จำนวน 56 หมู่บ้าน
นายฐากร กล่าวว่า เมื่อโครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชายขอบจะได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะมีการติดตั้งจุดกระจายสัญญาณรวมทั้งสิ้น 4,916 จุด รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 30 Mbps โดยการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะมีการเชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fiber Optic Cable) ไปยังหมู่บ้านเป้าหมาย ระยะทางประมาณ 8,500 กิโลเมตร รวมถึงมีการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะUSO Free WiFi ประชารัฐ ให้บริการฟรี ในทุกหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 5,229 จุด และมีการสร้างศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) พร้อมผู้ดูแลศูนย์แห่งละ 1 คน เปิดให้บริการฟรีจำนวน 763 แห่ง โดยแต่ละศูนย์สามารถรองรับการเข้าถึงและการใช้งานของประชาชนจาก 2-4 หมู่บ้าน นอกจากนั้นโครงการนี้ยังจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังหน่วยงานของรัฐ 1,317 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน 1,210 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลอีก 107 แห่ง ให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้ฟรีตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งหมดนี้สำนักงาน กสทช. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานให้บริการและบำรุงรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
เมื่อเปิดใช้บริการจะมีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบ้านที่ราคาถูกกว่าราคาตลาดให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการฯ ได้ใช้งาน โดยแพ็คเกจปกติความเร็ว 30/10 Mbps ที่ให้บริการอยู่ในตลาดราคา 599 บาท ประชาชนในโครงการจะสามารถใช้งานความเร็วระดับนี้ได้ในราคาที่ถูกกว่า นอกจากนั้น ยังมี USO แพ็คเกจ เน็ตประชารัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อยและมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วต่ำกว่า 30 Mbps อีก 3 แพ็คเกจให้เลือกใช้บริการ ได้แก่ 1. USO แพ็คเกจ รุ่นจิ๋ว ความเร็ว 10 Mbps ราคาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน 2. USO แพ็คเกจ รุ่นเล็ก ความเร็ว 15 Mbps ราคาไม่เกิน 150 บาทต่อเดือน และ 3. USO แพ็คเกจ รุ่นกลาง ความเร็ว 20 Mbps ราคาไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน
อินโฟเควสท์
กสทช. เปิดขายซองประมูลโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่-อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (20 มิ.ย. 2560) เป็นวันแรกของการเปิดขายซองประกวดราคาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน โดยสำนักงาน กสทช. จะเปิดขายซองประกวดราคาตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 29 มิ.ย. 2560 จากนั้นจะจัดให้มีการประกวดราคาในเดือน ก.ค. 2560 โดยใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Auction โดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2543 เพื่อให้การดำเนินโครงการมีค่าใช้จ่ายที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน จากนั้นคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ในเดือน ส.ค. 2560 เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2560 ไม่น้อยกว่า 15% ของหมู่บ้านเป้าหมาย และจะให้บริการครบทั้ง 3,920 หมู่บ้านภายในเดือน ก.ค. 2561
โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบนี้ ใช้งบประมาณในการดำเนินงาน 13,614.62 ล้านบาท เพื่อให้มีการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) และให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) ในพื้นที่เป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาก 3,920 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 5 พื้นที่ดำเนินการ ได้แก่ 1.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จำนวน 1,013 หมู่บ้าน 2.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด จำนวน 1,014 หมู่บ้าน 3.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด จำนวน 1,085 หมู่บ้าน 4.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบภาคกลางและภาคใต้ 24 จังหวัด จำนวน 752 หมู่บ้าน และ 5.กลุ่มหมู่บ้านพื้นที่ชายขอบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) จำนวน 56 หมู่บ้าน
นายฐากร กล่าวว่า เมื่อโครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชายขอบจะได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะมีการติดตั้งจุดกระจายสัญญาณรวมทั้งสิ้น 4,916 จุด รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 30 Mbps โดยการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะมีการเชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fiber Optic Cable) ไปยังหมู่บ้านเป้าหมาย ระยะทางประมาณ 8,500 กิโลเมตร รวมถึงมีการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ USO Free WiFi ประชารัฐ ให้บริการฟรีในทุกหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 5,229 จุด และมีการสร้างศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) พร้อมผู้ดูแลศูนย์แห่งละ 1 คน เปิดให้บริการฟรีจำนวน 763 แห่ง โดยแต่ละศูนย์สามารถรองรับการเข้าถึงและการใช้งานของประชาชนจาก 2-4 หมู่บ้าน นอกจากนั้นโครงการนี้ยังจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังหน่วยงานของรัฐ 1,317 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน 1,210 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลอีก 107 แห่ง ให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้ฟรีตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งหมดนี้สำนักงาน กสทช. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานให้บริการและบำรุงรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ เมื่อเปิดใช้บริการจะมีแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบ้านที่ราคาถูกกว่าราคาตลาดให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการฯ ได้ใช้งาน โดยแพ็คเกจปกติความเร็ว 30/10 Mbps ที่ให้บริการอยู่ในตลาดราคา 599 บาท ประชาชนในโครงการจะสามารถใช้งานความเร็วระดับนี้ได้ในราคาที่ถูกกว่า นอกจากนั้น ยังมี USO แพ็คเกจเน็ตประชารัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อยและมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วต่ำกว่า 30 Mbps อีก 3 แพ็คเกจให้เลือกใช้บริการ ได้แก่ 1. USO แพ็คเกจ รุ่นจิ๋ว ความเร็ว 10 Mbps ราคาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน 2. USO แพ็คเกจ รุ่นเล็ก ความเร็ว 15 Mbps ราคาไม่เกิน 150 บาทต่อเดือน และ 3. USO แพ็คเกจ รุ่นกลาง ความเร็ว 20 Mbps ราคาไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน
กสท.ยุติส่งสัญญาณทีวีแอนะล็อกของช่อง 7 - สั่งปรับ Amarin TV HD 250,000 บ.หลังเปิดคลิปเสียงคดีหั่นศพส่อเรื่องเพศ
กสท.ประกาศ ยุติการรับส่งสัญญาณทีวีแอนะล็อกของช่อง 7 แบ่งเป็น 3 เฟส พร้อมสั่งปรับ Amarin TV HD เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท หลังเปิดคลิปเสียงของผู้ต้องหาหั่นศพที่ส่อไปในเรื่องเพศ
ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันที่ 19 มิ.ย. 2560 ได้อนุมัติแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อกของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แบ่งเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 ยุติภายในวันที่ 1 ส.ค. 2560 ได้แก่ เขตพื้นที่ให้บริการ จ.ชุมพร สงขลา สุโขทัย และพังงา
เฟสที่ 2 ยุติภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ได้แก่ เขตพื้นที่ให้บริการ อ.ปาย และอ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จ.ลำปาง กาญจนบุรี ยะลา ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ ระนอง แพร่ สตูล และบุรีรัมย์
และเฟสที่ 3 ยุติภายในวันที่ 16 มิ.ย. 2561 เป็นการยุติพร้อมกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้แก่ เขตพื้นที่ให้บริการ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี สกลนคร อุบลราชธานี เชียงราย มุกดาหาร ตาก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เลย ระยอง ขอนแก่น เชียงใหม่ นครราชสีมา มหาสารคาม หนองคาย สระแก้ว ตรัง และกรุงเทพมหานคร
ผศ.ภักดี กล่าวว่า กสท. ยังได้มีมติปรับทางปกครองช่อง Amarin TV HD เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท หลังจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา รายการ ‘ทุบโต๊ะข่าว’ ได้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับคดี ฆ่าหั่นศพที่เขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น โดยรายการได้เปิดคลิปเสียงของผู้ต้องหาที่ส่อไปในเรื่องเพศ การเสนอเนื้อหาดังกล่าวส่งผลต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551
นอกจากนี้ที่ประชุม กสท. ยังเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแก้ไขรายการ 'คุยข่าว'ตามที่ผู้รับใบอนุญาตช่องรายการ People TV ซึ่งเป็นผู้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรทัศน์แบบไม่ใช้คลื่นความถี่ ได้เสนอหลังยอมรับมีการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยช่องเสนอสั่งพักรายการที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลา 30 วัน พร้อมทั้งเรียกผู้จัดรายการมาพูดคุยทำความเข้าใจในการนำเสนอรายการ และให้ผู้จัดงดจัดรายการเป็นเวลา 30 วัน และได้เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงรายการของ
ช่อง 24TV ซึ่งเป็นผู้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรทัศน์แบบไม่ใช้คลื่นความถี่ เสนอมาหลังมีการร้องเรียน โดยช่องจะปรับปรุงแนวทางการนำเสนอเนื้อหารายการ ให้เน้นไปที่ประเด็นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจัดให้มีคณะทำงานที่จะตรวจสอบเนื้อหารายการตามขั้นตอนที่เข้มงวดมากขึ้น และจะเพิ่มความรอบคอบในการเชิญแหล่งข่าวมาสัมภาษณ์ในรายการ และการนำเสนอข้อมูลจากสื่อออนไลน์ ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย