- Details
- Category: กสทช.
- Published: Tuesday, 13 May 2014 23:03
- Hits: 4015
กสทช.เคาะราคาคูปอง 1.6 พันบาท
บ้านเมือง : พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในส่วนสำนักงาน กสทช.นั้น หลังจากที่กองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ให้สำนักงาน กสทช.ไปวิเคราะห์ราคากล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือเซตท็อปบ็อกซ์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบพิจารณาในการคิดมูลค่าคูปองเงินสดส่วนลดเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ดิจิตอล คู่ขนานกับคณะกรรมการองค์กรอิสระ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ที่เสนอเข้ามาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้เสนอราคาเฉลี่ยขายปลีกปัจจุบันตามตลาดของกล่องเซตท็อปบ็อกซ์พร้อมเสารับสัญญาณที่ประมาณ 1,670-1,680 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ราคาประมาณ 3,400 บาท รัสเซีย ราคาประมาณ 2,500 บาท และ อังกฤษ ราคาประมาณ 2,700 บาท ส่วนที่ประชุม กสท.ไม่ได้มีวาระพิจารณาเรื่องคูปอง
สำหรับที่ประชุม กสท.ได้พิจารณาอนุญาตโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ดาวเทียมเคเบิล) จำนวน 6 ราย แบ่งเป็นระดับชาติ 5 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยแซทเทิลไลท์ จำกัด, บริษัท ไอที โมบาย จำกัด, บริษัท เซิรทซ์เอ็นเตอร์เทนเม็นต์ จำกัด, บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซด จำกัด และบริษัท ดราโก้ จำกัด ส่วนระดับท้องถิ่น 1 ราย คือ บริษัทเคเบิลเพชรบูรณ์ และได้อนุญาตช่องรายการเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม รายใหม่อายุใบอนุญาต 1 ปี จำนวน 3 ช่องรายการ พร้อมกับต่ออายุใบอนุญาต 2 ปี จำนวน 5 ช่องรายการ รวมทั้งให้คณะอนุกรรมคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณา 4 ช่องรายการ ที่มีการร้องเรียนเข้ามาภายใน 30 วัน เพื่อนำมาเสนอต่อ กสท.อีกครั้ง นอกจากนี้ คณะกรรมการ กสท. เห็นชอบในร่างประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการแบบประยุกต์ ประเภทการสำรวจความนิยม ในกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ พ.ศ. .... หรือใบอนุญาตเรตติ้งแล้ว และเตรียมให้คณะกรรมการ กสทช.พิจารณา เพื่อนำไปประชาพิจารณ์และออกเป็นใบอนุญาตในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งหลักเกณฑ์โดยคร่าวคือ ต้องเป็นบริษัทในประเทศไทย และถ้ามีระบบใบอนุญาตแล้วผู้ใดให้บริการอยู่จะผิดกฎหมายทันที ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ให้บริการวัดเรตติ้งรายเดียวคื
คูปองทีวีดิจิตอลไม่จบ กสทช.เร่งเทียบราคา
ไทยโพสต์ : สายลม * สำนักงาน กสทช. เสนอราคาเฉลี่ยกล่องเซตท็อป บ็อกซ์พร้อมเสารับสัญญาณที่ 1,600 บาท ให้กองทุนฯ ประกอบการพิจารณามูลค่าคูปอง คู่ขนานกับข้อเสนอขององค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในส่วนสำนักงาน กสทช.นั้น หลังจากที่กองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส.ให้สำนักงาน กสทช.ไปวิเคราะห์ราคากล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิตอลหรือเซตท็อปบ็อกซ์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบพิจารณาในการคิดมูลค่าคูปองเงินสดส่วนลดเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ดิจิตอล คู่ขนานกับคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ที่เสนอเข้ามาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้เสนอราคาเฉลี่ยขายปลีกปัจจุบันตามตลาดของกล่องเซตท็อปบ็อกซ์พร้อมเสารับสัญญาณที่ประมาณ 1,670-1,680 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ราคาประมาณ 3,400 บาท รัสเซีย ราคาประมาณ 2,500 บาท และอังกฤษ ราคาประมาณ 2,700 บาท ส่วนที่ประชุม กสท.ไม่ได้มีวาระพิจารณาเรื่องคูปอง
สำหรับที่ประชุม กสท.ได้พิจารณาอนุญาตโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ดาวเทียม เคเบิล) จำนวน 6 ราย แบ่งเป็นระดับชาติ 5 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยแซทเทิลไลท์ จำกัด, บริษัท แชมป์ ไอที โมบาย จำกัด, บริษัท เซิรทซ์เอ็นเตอร์เทนเม็นต์ จำกัด, บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซด จำกัด และบริษัท ดราโก้ จำกัด ส่วนระดับท้องถิ่น 1 ราย คือ บริษัท เคเบิลเพชรบูรณ์ และได้อนุญาตช่องรายการเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม รายใหม่อายุใบอนุญาต 1 ปี จำนวน 3 ช่องรายการ พร้อมกับต่ออายุใบอนุญาต 2 ปี จำนวน 5 ช่องรายการ รวมทั้งให้คณะอนุกรรม การคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณา 4 ช่องรายการ ที่มีการร้องเรียนเข้ามาภายใน 30 วัน เพื่อนำมาเสนอต่อ กสท.อีกครั้ง.
เคาะ'คูปองทีวีดิจิตอล'27 พค.เล็งแจกกค.นี้ราคาไม่เกิน 1 พันบาท
แนวหน้า: 'ฐากร'สรุปราคาคูปอง ทีวีดิจิตอล เดือนนี้ พร้อมแจก ในไตรมาส3 เตรียมงบวางระบบบริหารจัดการ พิมพ์ -แจก ก่อนส่งทางไปรษณีย์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เปิดเผยว่า กทปส.ได้ส่งหนังสือแก่ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว จากนนั้น องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคฯ จะต้องส่งเรื่องให้กับ กทปส.เกี่ยวกับข้อเสนอทั้งหมดในการแจกคูปองเงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (ทีวีดิจิตอล) ภายในวันที่ 27 พ.ค.2557 นี้ เนื่องจากในวันดังกล่าวจะมีการประชุม กทปส.ในประเด็นของมูลค่าคูปอง และประเด็นข้อกฏหมาย ซึ่งรายละเอียดจะสรุปและชัดเจนได้ทั้งหมด ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กสทช.และเห็นชอบต่อไป
ทั้งในเรื่องของการจัดพิมพ์คูปอง,การวางระบบ,การจัดส่งด้วยวิธีการส่งถึงบ้านผ่าน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ตามพื้นที่ ที่โครงข่ายการรับชมทีวีดิจิตอลครอบคลุมไปถึง โดยงบประมาณที่จะใช้สำหรับค่าบริการจัดการรวมทั้งสิ้น 900 ล้านบาท ขณะที่ผลสรุปราคากลางจากคณะกรรมการศึกษาราคากลาง จะต้องสรุปให้แก่ ที่ประชุม กทปส.ภายในวันที่ 27 พ.ค.เช่นกัน
“กระบวนการทั้งหมดถ้าทำได้เร็ว จะนำเข้าสู่บอร์ดใหญ่ กสทช.เพื่อเห็นชอบต่อไป คาดว่าการแจกคูปองให้แก่ประชาชน อย่างช้าที่สุดภายในไตรมาส3/2557 หรือราวปลายเดือน ก.ค. หรือต้นเดือน ส.ค. 57.นี้ แต่จะไม่เกิน ก.ย.อย่างแน่นอน ”
นายฐากร กล่าวว่า เงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์การรับชมทีวีดิจิตอล เพื่อความชัดเจน กทปส.อาจจะมีการแยกให้เห็นอย่างชัดเจน คือ แยกเป็นเงินสนับสนุน ค่ากล่องรับสัญญาณ (เซ็ทท็อบ บ็อกซ์) ซึ่งราคาจะแยกจากเสารับสัญญาณ,ค่าจัดส่ง,ค่าบริหารจัดการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะรวมแล้วไม่เกิน 1,000 บาท
ด้าน นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ในวันจันทร์ 12 พ.ค. 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 18/57 มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ การตอบหนังสือของคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน เรื่อง ขอให้ทบทวนมติการแจกคูปองส่วนลดเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีระบบดิจิตอล ตามที่องค์กรผู้บริโภคได้ยื่นหนังสือถึง กสท. เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ขอให้ทบทวนเรื่องราคาคูปอง ตลอดจนการต่อรองราคาซื้อกล่องให้มีคุณภาพในปริมาณจำนวนมากที่น่าจะเป็นการช่วยให้รัฐลดการใช้งบประมาณของประเทศได้ไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นด้วยว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านรัฐบาลจะบังคับให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเสนอเนื้อหาที่ตนเองเห็นชอบ ไม่ว่าจะใช้กำลังหรือกฎหมายบังคับ เพราะเป็นเหตุในการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อ ซึ่งรัฐธรรมนูญได้ให้การคุ้มครองไว้ตามมาตรา 45 ความว่า ...บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้.... รวมถึงมาตรา 46 และ มาตรา47 ซึ่งตนเห็นว่าทุกฝ่ายทางการเมืองอาจสู้ทางความคิดหรือเห็นต่างกันได้ แต่ทุกฝ่ายต้องเคารพรัฐธรรมนูญ และ สิทธิการทำหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ ถ้าไม่พอใจให้แสดงออกแบบไม่ล้ำเส้นจนกระทบสิทธิของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ในวันที่ 15 พ.ค. นี้ สำนักงาน กสทช. จะเปิดเวทีเสวนาทบทวนเรื่องสิทธิเสรีภาพของสื่อไทย ด้วย
