- Details
- Category: กสทช.
- Published: Wednesday, 13 August 2014 00:00
- Hits: 2790
จ่อเรียก กสทช.แจงคูปองทีวี
บ้านเมือง : รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 8 ส.ค.คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามาชี้แจงเรื่องราคาคูปองทีวีดิจิตอล ภายหลังจากสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พร้อมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ยื่นหนังสือคัดค้านราคาคูปอง 690 บาท เป็น 1,000 บาท ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า รายละเอียดที่ชี้แจง คตร. ได้แก่ ราคาคูปองเดิม 690 บาท ขั้นตอนและวิธีการแจก รวมทั้งการป้องกันการทุจริต นอกจากนี้ ยังสอบถามว่าทำไมไม่ใช้วิธีการแจกกล่องโดยตรง ซึ่งเลขาธิการ กสทช. ได้ตอบไปว่า การแจกคูปองจะเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้มากกว่า โดยใช้เวลาประมาณ 1.40 ชั่วโมง สำหรับเบื้องต้น คตร. มีความเข้าใจชัดเจนมากขึ้น โดยจะนำข้อสรุปที่ได้ส่งให้ คสช. และหากมีข้อสงสัยก็จะเรียก กสทช.เข้าไปสอบถามอีก พร้อมย้ำว่าการแจกต้องให้ถึงมือประชาชนตามกรอบเดิมคือเดือนกันยายนนี้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าราคาคูปองจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คสช.
ขณะที่นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ คณะกรรมการ กสทช. เปิดเผยผลการดำเนินงานของ กสทช.เขต 5 จันทบุรี ที่ตรวจสอบคลื่นสัญญาณความถี่โทรศัพท์ของแต่ละค่าย เป็นไปตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตที่ต้องให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ภายใน 2 ปี
ลุ้นคสช.แจกคูปอง 1 พันบาท 'สามารถ'ปรับยอดขายกล่องทีวีหลังแผนกสทช.ล่าช้า
ไทยโพสต์ : เทเวศร์ *ลุ้นคูปองทีวีดิจิตอล 1,000 บาท หลัง กสทช.เข้าชี้แจง คตร. กลุ่มสามารถปรับเป้าขายกล่องทีวีดิจิตอลลง เหตุแจกคูปองล่าช้า พร้อมเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2557 โกยรายได้รวมกว่า 6 พันล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะ กรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้า มาชี้แจงเรื่องมูลค่าคูปองส่วน ลดแลกซื้ออุปกรณ์ทีวีดิจิตอล จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.57 สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พร้อมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ยื่นหนังสือคัดค้านมูลค่าคูปอง 690 บาท และต้องการให้ปรับเปลี่ยนมูลค่าเป็น 1,000 บาท ตามผลประชาพิจารณ์ ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า รายละเอียดที่ชี้แจงต่อ คตร. ได้ แก่ มูลค่าคูปอง 690 บาท ขั้นตอนและวิธีการแจก รวมทั้งการป้องกันการทุจริต นอกจากนี้ คตร.ได้สอบถามว่า ทำไมไม่ใช้วิธีการแจกกล่องโดยตรง ซึ่งได้ตอบไปว่า การแจกคูปองจะเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้มากกว่า โดยใช้เวลาชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที โดยเบื้องต้น คตร.มีความเข้าใจชัดเจนมากขึ้น และจะนำข้อสรุปที่ได้ส่งให้ คสช. และหากมีข้อสงสัยก็จะเรียก กสทช.เข้าไปสอบถามอีก แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามูลค่าคูปองจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คสช.
ทั้งนี้ กสทช.เห็นว่าราคาคูปองดังกล่าวสามารถนำไปซื้อกล่องรับสัญญาณระบบดิจิตอลได้ แต่หากต้องปรับเพิ่มมูลค่าคูปองเป็น 1,000 บาท ก็จะได้คุณภาพกล่องที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาความเห็นของฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน กสทช.ยืนยันว่ามูลค่าคูปองสามารถปรับเป็น 1,000 บาทได้เช่นกัน
ด้านนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหา ชน) เปิดเผยว่า บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสสร้างรายได้จากการ จำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล และเสารับสัญญาณทีวีดิจิตอล ที่คาดว่าจะมีปริมาณความ ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทันทีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการแจกคูปอง โดยตั้งเป้าสิ้นปีจะขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่มาจากการแลกคูปองได้ ราว 1-1.5 ล้านกล่อง หรือคิดเป็นรายได้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับเป้าลดลงมาจากต้นปี ที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านกล่อง หรือมูลค่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากการแจกคูปองมีการแจกช้ากว่ากำหนดเดิมที่ตั้งไว้ในช่วงกลางปี ทั้งนี้ กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่จะนำมาร่วมโครงการแลกคูปองกับทาง กสทช. จะเป็นคนละรุ่นกับที่วางขายในท้องตลาดปัจจุบัน เนื่องจากเมื่อราคาลดลงมาที่ 690 บาท จึงต้องมีการตัดคุณสมบัติบางส่วนทิ้งไป
อีกทั้งภายในช่วง 2-3 เดือน นี้ บริษัทจะออกพันธบัตร (บอนด์) มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำมาชำระหนี้และนำไปซื้อกิจการบริษัทใหม่ ซึ่งกำลังพิจารณาประเภทของธุรกิจอยู่ จากที่เคยเข้าไปซื้อกิจการเทด้า ธุรกิจศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ธุรกิจด้านระบบสายส่งไฟฟ้า
ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถในไตรมาส 2 ปี 2557 มีรายได้รวมที่ 6,562 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% โดยสามารถไอโมบาย (SIM) มีรายได้และกำไรโดดเด่นที่สุดอยู่ที่ 3,492 ล้านบาท เติบโต 32% และมีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% สำหรับยอดขายมือถือในไตรมาส 2/2557 มีจำนวน 1.3 ล้านเครื่อง รวมครึ่งปีแรกจำหน่ายไปแล้ว กว่า 2.3 ล้านเครื่อง.
