- Details
- Category: กสทช.
- Published: Sunday, 03 August 2014 22:49
- Hits: 3534
เตือนตกเขียวกล่องทีวีดิจิตอล กสทช.ยันพร้อมตัดสิทธิ์ร้องคสช.ขึ้นมูลค่าคูปอง
ไทยโพสต์ * 'สุภิญญา' เตือนผู้ประกอบการอ้างชื่อ กสทช. ในการนำคูปองมาแลกเพื่อเก็บบัตรประชาชน มีความผิดถึงขั้นตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเหมือนวินเนอร์-การศึกษาก้าวไกล ด้านสมา คมวิชาชีพโทรทัศน์ยื่น คสช.ทบทวนมูลค่าคูปอง 690 บาท น้อยเกินไป
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนา คมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังหารือกับผู้ประกอบการที่มีการเรียกเก็บสำเนาบัตรประชาชน เพื่อรับกล่องสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ว่า หลังจากที่ทาง กสทช.มีมติในเรื่องของข้อกำหนดต่างๆ แล้วจะเรียกผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนกับทาง กสทช.เข้าพบเพื่อแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นทางผู้ประกอบการถึงจะสามารถเริ่มทำตลาดโดยการอ้าง กสทช.ในการแจกคูปองได้
"ในขณะนี้ที่ทาง กสทช. ยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการถ้ามี ผู้ประกอบการนำชื่อ กสทช.ไปอ้างในการแจกคูปองก็จะมีการตักเตือน และเรียกมาชี้แจง พร้อมให้หาทางแก้ไข ซึ่งถ้าไม่ทำตามก็อาจจะตัด สิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมโครงการแลกคูปองทีวีดิจิตอลได้"
เบื้องต้น ทางสำนักงาน กสทช.ได้มีการตัดสิทธิ์ บริษัท วินเนอร์ ดิจิตอล จำกัด และ บริษัท การศึกษาก้าวไกล จำกัด ไปแล้ว และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกตัวแทนจากทางบริษัท โซกู๊ดโกบอล จำกัด เข้ามาหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ทางโซกู๊ดทำหนังสือชี้แจงวิธีการเยียวยาแก้ไขเข้ามาให้ทาง กสทช. เพื่อที่จะไม่ถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
นางสาวสุภิญญากล่าวว่า กรณีที่บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตกล่องให้แก่วิน เนอร์ และการศึกษาก้าวไกล เข้ามาชี้แจงว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในวิธีการทำตลาดนั้น ให้ทางแฟมิลี่เข้าไปพูดคุยกับทั้ง 2 บริษัทให้รู้เรื่อง และทำหนังสือชี้แจงกับทาง กสทช. รวมถึงปริมาณกล่องที่จำหน่ายให้แก่ทั้ง 2 บริษัท เพื่อความชัดเจนด้วย
ด้านนางสาวสารี อ๋องสม หวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวเสริมว่า การที่ผู้ประกอบการเก็บสำเนาบัตรประชาชนผู้บริโภคไว้ก็ไม่ปลอดภัยแล้ว ส่วนในเรื่องของมูลค่าคูปองที่ตอนแรกจะแจก 1,000 บาท และลดลงมาเหลือ 690 บาท ก็ถือว่าได้ช่วยคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติแล้วในระดับหนึ่ง ที่เหลือต้องดูกันว่าหลักประกันของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประมูล ทั้งในแง่ของการรับประกันและบริ การหลังการขายต้องดีด้วย
นางจำนรรค์ ศิริตัน นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระ จายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทผู้ประมูลช่องดิ จิตอลทีวีชั้นนำ บีอีซี-มัลติมีเดีย, ช่อง 7, แกรมมี่, อาร์เอส, ทรูวิชั่น, ไทยรัฐทีวี, New TV, พีพีทีวี และตัวแทนผู้จัด ได้มีมติเตรียมเปิดแถลง การณ์ และยื่นจดหมายร้องเรียนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากแนวทางการทำงานของ กสทช.โดยตรง โดยเฉพาะการประกาศกลับมายืนราคา 690 บาท ของคูปองแลกกล่องทีวี ดิจิตอล ทั้งที่ผลประชาพิจารณ์ทั่ว ประเทศชัดเจนว่าประชาชนต้อง การราคา 1,000 บาท เพื่อได้อุป กรณ์การรับชมที่มีคุณภาพดีที่สุด และเป็นราคาที่สมเหตุผลกับเทคโน โลยีความคมชัดแบบ HD สุดท้ายหากราคาคูปองไม่สอดคล้องกับกล ไกตลาด ผู้บริโภคจะเดือดร้อนต้องเพิ่มเงินส่วนต่าง จะส่งผลทำให้ประ ชาชนเมินใช้คูปองแลกกล่อง สุดท้ายธุรกิจทีวีก็จะสะดุดทั้งอุตสาหกรรม.
ห้ามผู้ค้ากล่องทีวีเก็บบัตร ปชช.
บ้านเมือง : น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตัวแทนผู้บริโภค เรียกประชุมผู้ประกอบการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล เพื่อชี้แจงนโยบายของ กสทช.ที่ไม่ต้องการให้มีการเรียกเก็บสำเนาบัตรประชาชนจากชาวบ้าน โดยมีตัวแทนจากบริษัทอื่นๆ เข้าร่วมฟังนโยบายของ กสทช.ด้วย หลังมีข่าวว่าบริษัท โซกู้ดโกบอล จำกัด เรียกเก็บบัตรประชาชนจากชาวบ้าน จนชาวบ้านบางส่วนเกรงว่าอาจถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ด้านประธาน บริษัท โซกู้ดโกบอล จำกัด ยืนยันว่า บริษัทไม่เคยเก็บสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น เพียงประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านการรับชมโทรทัศน์ระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิตอลเพียงต้องการรักษาผลประโยชน์ของชาวบ้าน โดยเปิดโครงการให้ชาวบ้านสามารถรับกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบอนาล็อกราคา 690 บาทเท่ากับจำนวนเงินในคูปองที่ กสทช.จะแจกให้กับชาวบ้าน
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า หลังได้ฟังการชี้แจงจาก บริษัท โซกู้ดโกบอล จำกัด แล้ว จึงขอให้บริษัทหยุดโครงการ ส่วนการเก็บสำเนาบัตรประชาชนจริงหรือไม่ จะต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่ขอให้หยุดการทำกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องการให้บริษัทขนาดเล็กมีโอกาสจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล เพราะขณะนี้มีแนวโน้มว่า กสทช.ต้องการให้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 250 ล้านบาทขึ้นไป จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำหน่าย เพราะน่าเชื่อถือกว่าบริษัทขนาดเล็ก และยังขอให้ตัวแทน บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กลับไปทำหนังสือแจงการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่บริษัทผลิตให้กับ บริษัท วินเนอร์ ดิจิตอล จำกัด และขอให้ช่วยกลับไปชี้แจงนโยบายของ กสทช.ต่อบริษัทวินเนอร์ฯ ด้วย