- Details
- Category: กสทช.
- Published: Tuesday, 07 April 2015 22:22
- Hits: 1966
ผู้ประกอบการหวั่นกสทช.ถูกชักใย จ่อขอกม.ลูกป้องทีวีดิจิตอล
แนวหน้า : นายสุภาพ คลี่ขจาย ประธานชมรมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการช่องรายการทีวีดิจิตอล ต่างให้ความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ทั้ง 10 ฉบับ ที่กำลังจะออกมาเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีการนำ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ไปเป็นอีก 1 องค์ประกอบคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(บอร์ดดีอี) ที่มี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เนื่องจากรูปแบบของกฎหมายดังกล่าว เปรียบเสมือนให้ กสทช.กลับเข้าไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่มีฝ่ายการเมืองครอบงำอีกชั้นหนึ่ง ส่งผลให้ กสทช.หมดความเป็นองค์กรอิสระอย่างที่ควรจะเป็นตามที่ รัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ. 2540 ระบุไว้
"สิ่งสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ก็คือ การมีอิสรภาพ ซึ่งตั้งแต่เมื่อครั้งประมูลทีวีดิจิตอล เชื่อได้ว่าผู้ประกอบการทุกรายก็หวังจะทำธุรกิจโทรทัศน์ในยุคที่ปราศจากการควบคุมของรัฐโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นการที่รัฐกลับมาควบคุมดูแลอีกครั้ง ก็เหมือนเป็นการให้วงการโทรทัศน์ถอยหลังลงคลอง อีกทั้งใครจะรู้ว่า คนเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นคนดีหรือไม่ดี หากเกิดหมั่นไส้ช่องรายการใด ก็มีอำนาจกระซิบไปยัง กสทช. ที่อยู่ใต้การควบคุมสามารถสั่งปิดได้สบาย" นายสุภาพ กล่าว
นายสุภาพ กล่าวว่า ในด้านการแก้ไขปัญหา เบื้องต้นได้มีการปรึกษากับ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ซึ่ง นายสมเกียรติ ได้แนะนำว่าการที่สื่อจะปราศจากการครอบงำจากที่ฝ่ายการเมืองได้ จะต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนออกมาป้องกัน ทั้งนี้ใน 1-2วันนี้ ทางผู้ประกอบการช่องรายการทีวีดิจิตอลจะมีการหารือกัน เพื่อหาแนวทางดำเนินการเรียกร้องและมาตรการเพื่อนำไปสู่การออกกฎหมายลูกขึ้นมาป้องกันดังกล่าว
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. และ กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ในส่วนของการทำหน้าที่ของ กสทช. ภายใต้กำหมายเศรษฐกิจดิจิตอล ยอมรับว่า อำนาจของ กสทช. จะต้องไปอยู่ภายใต้บอร์ดดีอี จริง เช่น ในตัวกฎหมายระบุไว้ว่าหากบอร์ด กสทช. ไม่สามารถตัดสินใจหรือหาข้อสรุปในประเด็นใดได้ บอร์ดดีอี จะเป็นผู้ตัดสินใจแทนให้ หรือ จะเห็นได้ว่าในขณะนี้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เองสามารถสั่งการมาที่สำนักงาน กสทช.ได้โดยตรงในการอนุมัติให้เพิ่มเงินไขการแลกคูปองทีวีดิจิตอลในส่วนของกล่องที่รับสัญญาณภาคพื้นดินหรือทีวีดาวเทียมได้ในตัว(กล่องไฮบริด)แทนที่จะให้บอร์ด กสทช. เป็นผู้ตัดสินใจ
น.ส.สุภิญญา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จากการที่ล่าสุดได้เห็น ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.... (พ.ร.บ.กสทช.) จากการประชุมกลุ่มย่อยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งส่วนตัวถือว่าเป็นที่วิตกกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องคุณสมบัติ กสทช. ได้แก่ ต้องมีอายุ 45 ปีขึ้นไป มาจากนักวิชาการต้องเป็นระดับรองศาสตราจารย์ขึ้นไป มาจากทหารต้องยศ พล.ท. ขึ้นไป มาจากบริษัทเอกชนต้องเป็นกรรมการในบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และเป็นนักสิทธิมนุษยชน(เอ็นจีโอ)ต้องทำงานมาแล้ว 20 ปีขึ้นไป โดยผู้ศาลหา กสทช. จะต้องเป็นประธานศาลทุกศาล ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากระเบียบคุณสมบัติใหม่ดังกล่าว จะส่งผลให้ตนมีสถานะเป็นผู้ขาดคุณสมบัติทันที