- Details
- Category: กสทช.
- Published: Friday, 07 November 2014 23:02
- Hits: 2861
ห้ามการเมืองเอี่ยวแลกคูปอง เคเบิล-ดาวเทียมค้านเรียงช่อง
ไทยโพสต์ : พหลโยธิน * กสทช.ฟันธงใช้ที่ทำการพรรค-อบต.-อบจ.เป็นจุดรับแลกคูปองทีวีดิจิตอลไม่ได้ พร้อมเชิญบริษัททั้งหมดมารับคำชี้แจงอีกครั้ง เสียงแตกเรียงช่อง ผู้ประกอบการเคเบิล-ดาวเทียมโวย
นางสาวบุญยืน ศิริธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้ม ครองผู้บริโภค ในฐานะกรรม การสอบข้อเท็จจริงกรณี บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด หรือ เอเจ ทำข้อตกลงความร่วมมือ หรือ เอ็มโอยู กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้ที่ ทำการพรรคในแต่ละจังหวัดเป็นจุดรับแลกคูปองว่า กรณีดังกล่าว เอเจแจ้งว่าเป็นเพียง แนวคิด ยังไม่ดำเนินการใดๆ แต่ กรรมการพบข้อมูลว่า นักการเมืองได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวไปดำเนินการเอง โดยวิธีการจัดทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีรูปนักการเมือง และชื่อยี่ห้อ ของกล่องดิจิตอลพร้อมระบุข้อ ความว่า เปิดบริการประชาชนทั่วประเทศแล้ว ศูนย์รับแลกคู ปอง ซึ่งตนมองว่าการแจกคูปอง ต้องไม่เป็นเครื่องมือของพรรค การเมือง ในขณะเดียวกันคณะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้ออกมาพูดแล้วว่า พรรค การเมืองไม่สามารถทำธุรกิจลักษณะนี้ได้
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ กสทช.เปิดเผยว่า ทางเอเจ ชี้แจงว่า มีแนวคิดในการจะทำประชาสัมพันธ์ลักษณะนี้จริง แต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ใดๆ เป็นเพียงการปรึกษากับทีม บริษัทประชาสัมพันธ์เท่านั้น ทั้งนี้ หากบริษัทใดจะดำเนินการเพิ่มจุดรับแลกคูปองจะต้อง แจ้งและมาขออนุญาตที่ กสทช. ก่อนทุกครั้ง ซึ่งเอเจได้ขอเปิดจุดรับแลกคูปองทีวีดิจิตอลไว้ 2 ลักษณะ คือ ร้านของบริษัทและในร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยทาง กสทช.จะเรียกบริษัทที่เข้าร่วมโครงการมาทำความเข้าใจอีกครั้ง
นอกจากนี้ ความคืบหน้าจากการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการแลกคูปองดิจิตอลทีวี และเรื่องร้องเรียนพบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์คูปองแล้ว กว่า 700,000 ราย และมีหลายบริษัทรับแลกคูปองโดยไม่ได้มีการขอเอกสารจากเจ้าบ้านประกอบการแลก ซึ่ง กสทช.ขอเตือนว่า จะต้องมีการตรวจสอบเอกสาร หากไม่ดำเนินการตามกระบวนการ กสทช.ก็จะไม่จ่ายเงินให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.57 เวลา 13.00 น.- 16.00 น. สำนักงานคณะกรรม การกิจการกระจายเสียง กิจ การโทรทัศน์ และกิจการโทรคม นาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดเวทีรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือประชาพิจารณ์ต่อ (ร่าง) ประ กาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ. .ซึ่งเป็นร่างประกาศการจัดเรียงช่องทีวีฉบับใหม่
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า การทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่ายมองถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับด้วย สำหรับผลการรับฟังวันนี้ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการใช้ประกาศฉบับใหม่ แม้จะมีบางส่วนไม่เห็นด้วยเพราะยังมีความสงสัยและไม่เข้าใจอยู่ ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปจะนำผลการรับฟังความคิดเห็นให้สำนักงาน กสทช. รวบรวมและเสนอต่อที่ประชุม กสท.พิจารณา ก่อนส่งให้กรรมการ กสทช.พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าหากกรรมการ กสทช.เห็นด้วยทั้งหมด อาจจะได้ใช้ประกาศฉบับนี้ภายในสิ้น ปีด้านตัวแทนจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมาในฐานะทีวีดิจิตอลช่องวัน (ONE) กล่าวว่า เห็นด้วยกับร่างประกาศฉบับใหม่ดังกล่าว เพราะประชาชนจะได้ไม่สับสนในการจำเลขช่อง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ซึ่งคนดูจะได้เป็นผู้เลือกชมเองว่า ช่องใดน่าสนใจ ช่องทีวีก็จะแข่งขันกันในเนื้อหารายการ
ขณะที่ นางศุภสรณ์ โหรชัยชนะ ตัวแทนจากบริษัท ทรู วิชั่นส์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับร่างประกาศฉบับใหม่ เพราะเลขช่องเป็นเหมือนทรัพย์สินของบริษัทนั้นๆ แต่วันนี้เลขช่องได้กลายไปเป็นทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งก็เหมือนการโดนริบทรัพย์ หรือถูกปล้น มองว่าดาวเทียม-เคเบิลทีวีเสียเปรียบในร่างประกาศนี้
