- Details
- Category: กสทช.
- Published: Friday, 10 October 2014 21:13
- Hits: 2770
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8717 ข่าวสดรายวัน
วิก3 รอคำสั่งกสท. ยื่นผังรายการ ออกทีวีคู่ขนาน
ช่อง 3 ยื่นผังรายการออกคู่ขนาน รอ'กสท.'มีคำสั่งรองรับกรรมการกสท.เผยพร้อมรับเรื่องนำเข้าหารือทันที แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของมติบอร์ด ขณะที่บิ๊กวิก 3 ระบุน้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง คาดเริ่มออกคู่ขนานแบบเต็มรูปได้ตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยง 10 ต.ค. ส่วนศาลปกครองเลื่อนไต่สวน 6 เคเบิลทีวียื่นฟ้อง กสท.ปมช่อง 3
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ในวันที่ 10 ต.ค. จะประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท. เพื่อพิจารณาอนุมัติผังรายการที่บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด เจ้าของช่องทีวีดิจิตอล 33 เอชดี จะยื่นมา ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด เจ้าของช่องทีวีดิจิตอล 33 เอชดี สามารถนำรายการของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หรือช่อง 3 อนาล็อก ไปออกอากาศแบบคู่ขนานได้เช่นเดียวกับช่อง 7 และช่อง 9 และให้ช่อง 33 เอชดี ส่งผังรายการออกอากาศให้บอร์ดกสท. พิจารณาก่อนเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ต.ค. โดยล่าสุดได้รับการยืนยันว่า บีอีซีจะยื่นส่งผังรายการในเช้าวันที่ 10 ต.ค.
น.ส.สุภิญญา กล่าวอีกว่า สำหรับผังรายการที่บีอีซีจะยื่นมานั้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของมติบอร์ดกสท.เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เรื่องแนวทางดำเนินการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบอนาล็อกตามที่บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ประสงค์จะนำรายการโทรทัศน์ช่อง 3 อนาล็อกของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด มาออกอากาศทางช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล หรือช่องดิจิตอล 33 เอชดี ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของกสท.ที่เปิดช่องให้บริษัท บีอีซี-มีเดีย จำกัด สามารถนำรายการช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศในช่อง 33 เอชดีได้ แต่ต้องรอดูผังรายการที่ยื่นมาก่อน โดยบอร์ดกสท.จะประชุมพิจารณา และจะแถลงข่าวถึงผลการประชุม ซึ่งหากเป็นไปตามเงื่อนไขก็พร้อมให้บีอีซีนำช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศช่อง 33 เอชดี และจะทำให้โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิล สามารถรับชมช่อง 3 ได้ทางเลขช่อง 43
"ต้องรอดูก่อนว่า ผังรายการที่บีอีซียื่นมานั้นเป็นอย่างไร จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมบอร์ดกสท.ในช่วงเย็น เพื่อพิจารณา และแถลงผลเมื่อประชุมเสร็จ ซึ่งการที่ศาลปกครองนัดไปไกล่เกลี่ย ก็ต้องขอบคุณช่อง 3 ที่ตัดสินใจออกคู่ขนานในที่สุด และพร้อมอนุมัติผังรายการของช่อง 33 เอชดี ให้ออกอากาศได้ทันวันที่ 11 ต.ค." น.ส.สุภิญญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 11.00 น. นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ ของช่อง 3 จะเป็นตัวแทนเข้ายื่นผังรายการคู่ขนานช่อง 3 อนาล็อก และช่อง 33 เอชดี ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในส่วนของฝั่งกสท. ที่อาคารเอ็กซิม ถนนพหลโยธิน ด้วยตนเอง
ขณะที่นายสุรินทร์ กฤติยาพงศ์พันธุ์ กล่าวว่า บริษัทพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ที่ไกล่เกลี่ยข้อขัดข้องระหว่างบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และกสท. ด้วยการเข้ายื่นผังรายการต่อกสท. ให้พิจารณาอนุมัติให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 33 เอชดีได้ ขณะที่กสท.จะเรียกประชุมบอร์ด เพื่อพิจารณาอนุมัติผังรายการของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ซึ่งหากอนุมัติผังรายการเรียบร้อย คาดว่าสามารถเริ่มออกอากาศคู่ขนานเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นไป
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หรือช่อง 3 จะติดขัดปัญหาเรื่องของกฎหมาย ซึ่งค่อนข้างเป็นห่วงตรงนี้ คือมีคอนเทนต์ แต่ไม่มีใบอนุญาตของทีวีดิจิตอล ขณะที่บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด มีใบอนุญาตทีวีดิจิตอล แต่ก็ไม่มีคอนเทนต์อย่างที่ทราบกัน วิธีแก้คือต้องมีคำสั่งจากศาลหรือจากกสท. ให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถดำเนินการร่วมกันได้ ซึ่งศาลได้กรุณาเจรจาไกล่เกลี่ยให้กสท. อนุมัติให้บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด กับ บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ สามารถนำรายการของช่อง 3 อนาล็อก มาออกในรายการของช่อง 33 เอชดี ได้แบบเดียวกับช่อง 7 และช่อง 9 โดย กสท. ได้ตกลงกับบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ต่อหน้าศาลแล้ว ซึ่งศาลเองก็มีคำสั่งให้ บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ไปดำเนินการยื่นผังต่อกสท. ในวันที่ 10 ต.ค. ขณะที่กสท.ก็จะเรียกประชุม เพื่ออนุมัติมีคำสั่งให้บางกอกเอ็นเตอร์เทน เม้นต์ และบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด สามารถออกอากาศแบบคู่ขนานได้
วันเดียวกัน ที่ศาลปกครองกลาง นาย รังสิกร อุปพงศ์ ตุลาการเจ้าของสำนวน นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทเคเบิลทีวี 6 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาสารคามเคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ค ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจมส์เคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ค บริษัท ซีทีเอช แบงค์คอก จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคเบิลทีวีบริษัท ไอซีที จำกัด และบริษัท ซีทีเอส เคเบิล ทีวี จำกัด ยื่นฟ้องกสท. ว่าใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้ศาลปกครองกลางพิจารณาเพิกถอนคำสั่งกสท.ที่มีมติให้ผู้บริการดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการเผยแพร่ออกอากาศสัญญาณรายการของช่อง 3 ในระบบอนาล็อกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.เนื่องจากมติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการ ทำให้ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ การไต่สวนฝ่ายผู้ร้อง โดยมีนาย ธีรพล กาญจนากาศ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ พร้อมคณะฝ่ายกฎหมายและนาย เมธินทร์ สมนึก กรรมการและที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด เข้าชี้แจงต่อศาลและขอเลื่อนการไต่สวนไปก่อน เพื่อศึกษารายงานกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองที่ให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานอย่างละเอียด เนื่องจากคดีนี้เป็นกลุ่ม ผู้ประกอบการเคเบิลทีวียื่นฟ้องขอให้เพิกถอนมติกสท. ที่ห้ามเคเบิลและทีวีดาวเทียมนำช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศ คดีจึงมีความเชื่อมโยงกัน ก่อนจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะถอนฟ้องหรือไม่
ขณะที่ทางฝ่ายกสท. ไม่มีใครเดินทางมาให้ข้อมูลต่อศาล เพียงแต่ส่งเจ้าหน้าที่นิติกร กสทช. มาแจ้งต่อศาลว่าไม่สามารถชี้แจงต่อศาลได้ เพราะติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้นตุลาการเจ้าของสำนวน จึงเลื่อนการไต่สวนคดีนี้ และนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 21 ต.ค. เวลา 10.00 น.
บอร์ดกสท.ถกวาระพิเศษผังช่อง3 สแกนยิบสัดส่วนเนื้อหารายการ
แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เข้ายื่นเนื้อหาผังรายการออกอากาศคู่ขนานให้ สำนักงาน กสทช.แล้ว โดยบอร์ดนัดประชุมวาระพิเศษในเวลา 17.00 น. วานนี้ โดย นางสาวประภัสสร มหาวนิช ตัวแทนผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในนาม บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมน และ บีอีซี มัลติมีเดีย เข้ายื่นเอกสารรายละเอียด เกี่ยวกับผังรายการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 ในระบบอนาล็อก ที่จะออกอากาศคู่ขนานในช่องดิจิตอล โดยมี น.ส.มณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการสำนักการอนุญาตประกอบการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. เป็นผู้รับหนังสือ โดยระบุสั้นๆ ว่า ต้องขอตรวจสอบเอกสารก่อน เนื่องจากมีจำนวนมาก โดยการออกอากาศของช่อง 3 แบบคู่ขนานระหว่างระบบอนาล็อค และ ระบบดิจิตอล จะเริ่มต้นตั้งแต่ เวลา 12.00 น.ของวันที่ 11 ตุลาคมนี้ เป็นวันแรก ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกัน หลังจากทั้งฝ่ายผู้บริหาร ฝ่ายกฏหมายของช่อง 3 และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ตกลงกัน ในระหว่างการไต่สวน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม โดยมีตุลาการศาลปกครองกลาง ช่วยไกล่เกลี่ยให้
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า สำหรับการออกอากาศผังคู่ขนาน จะอยู่ในช่องดิจิตอล 33 HD ทางจะทำให้ช่อง 3 ได้สิทธิ์การออกอากาศบนโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี) โดยอัตโนมัติในเลขช่อง 43 และยังมีสิทธิ์ออกโฆษณาเท่าเดิม เช่นเดียวกับช่อง 7 และ ช่อง 9 และประเด็นสำคัญ ที่ช่อง 3 ต้องยื่นผังรายการออกคู่ขนานให้ทันภายในวันนี้ เนื่องจาก จะมีผลต่อการได้ส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียม 4% ของรายได้จากการประกอบกิจการต่อปี ตามที่มติ กสท. กำหนดว่า หากทีวีช่องใดสามารถ ออกอากาศคู่ขนาน ได้ในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นแจกคูปองทีวีดิจิตอล กสท.จะลดค่าธรรมเนียมให้เป็นเวลา 5 ปี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลทั้งระบบ สำหรับเอกสาร ที่ช่อง 3 ยื่นวันนี้ เป็นรายละเอียด เกี่ยวการนำส่งผังรายการ ของช่อง 33 HD ว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง
พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ กสทช. กล่าวว่า เวลา 17 .00 น. ทางบอร์ด กสท. จะประชุมวาระพิเศษ เรื่องผังรายการช่อง 3 ซึ่งหากไม่มีปัญหาก็สามารถออกอากาศคู่ขนานได้ในช่วงเวลาที่กำหนดวันนี้ (11 ต.ค.57) แต่หากมีปัญหา ก็ต้องพิจารณากันใหม่จนกว่า จะได้ข้อสรุป ซึงประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ สัดส่วนเนื้อหารายการว่าถูกต้องตามที่กำหนด
'ช่อง3'ส่งตัวแทนยื่นผังรายการ กสท.จ่อพิจารณา-ย้ำมีมาตรฐาน
แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ศาลปกครอง สามารถไกล่เกลี่ยคู่ความระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ในนามผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้สามารถนำรายการช่อง 3 อนาล็อก มาออกอากาศแบบคู่ขนาน ได้ตามปกติ แต่ช่อง 3 ต้องส่งผังรายการออกอากาศกับ กสท.ภายในวันนี้ ก่อนเวลา 12.00 น.นั้น
ล่าสุด น.ส.ประภัสสร มหาวานิช ตัวแทนของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ได้เข้ายื่นผังการออกอากาศคู่ขนานต่อ น.ส.มณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยสำนักการอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนที่จะออกอากาศแบบคู่ขนานในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) โดย ช่อง 3 ยื่นผังรายการช่อง 3 อนาล็อก ของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และผังรายการทีวีดิจิตอล ช่อง 33 HD ของบริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด
ทั้งนี้ น.ส.ประภัสสร กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารมายื่นผังต่อ กสท.โดยยื่นในนามบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และยื่นตามคำสั่งของศาลที่สั่งให้ยื่นต่อ กสท.เพื่อให้ กสท.ตรวจสอบรายละเอียด ส่วนการปรับผังรายการใหม่ไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บริหาร
ขณะที่ น.ส.มณีรัตน์ กล่าวว่า ผังที่ช่อง 3 ส่งมามีจำนวนมาก และส่งมาทั้งในนามของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และบริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด แต่เท่าที่ดูเอกสารเบื้องต้นคาดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่ต้องรอตรวจสอบอีกครั้งในช่วงบ่าย และจะนำผังที่ช่อง 3 ยื่นมาเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กสท.ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อให้ทันต่อการออกอากาศในวันพรุ่งนี้ โดย กสท.มีมาตรฐานการตรวจสอบที่ละเอียดอยู่แล้ว
กสทช.ยังไม่ลดค่าต๋งทีวีดิจิตอล ช่อง3 ยื่นคู่ขนานรายได้หาย400ล.
ไทยโพสต์ : พหลโยธิน * กสทช.แจงลดค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล แค่หลักการ ต้องรอบอร์ด กสทช.เคาะ พร้อมจับตาช่อง 3 ยื่นผังรายการคู่ขนาน 10 ต.ค.นี้ ขณะที่ความคืบหน้าแจกคูปองดึงผู้ประ กอบการทีวี 24 ช่องหารือประชาสัมพันธ์ก่อนแจกคูปองล็อตแรก
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรม การกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนา คมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือสอบ ถามคณะกรรมการกิจการกระ จายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) การลดค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิ ตอลในอัตรา 4% ซึ่งส่งผลให้รายได้ของแผ่นดินหายไปนั้น กสทช.ขอชี้แจงว่า มติเห็นชอบดังกล่าวยังเป็นหลักการยังไม่นำเข้าที่ประชุม กสทช. โดย กสทช.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากการลดค่าธรรมเนียม ยังอยู่ในกระบวนการศึกษากฎ หมายของคณะอนุกฎหมายและดูรายได้ของรัฐ คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมกรรมการ กสทช. ในวันที่ 15 ต.ค นี้ และหากไม่ทันจะนำ เข้าประมาณปลายเดือน ต.ค.57 ต่อไป
ส่วนกรณีช่อง 3 นั้น จะต้องยื่นผังเนื้อหารายการช่อง 3 อนาล็อก ที่จะนำมาออกอากาศในช่องดิจิตอล 33 เอชดี ก่อนเวลา 12.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.57 นี้ เพื่อกรรมการ กสท.จะได้นำผังรายการมาพิจารณาเพื่ออนุมัติออกอากาศในวันที่ 11 ต.ค.57 โดยประชาชนจะสามารถรับชมช่อง 3 ผ่านกล่องเคเบิล-ดาวเทียมในช่อง 43 และดิจิตอลช่อง 33 เอชดี ส่วนผู้ที่รับชมผ่านหนวดกุ้ง ก้างปลา ยังรับชมช่อง 3 อนาล็อกได้ตามปกติ
ส่วนความคืบหน้าการแจกคูปองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลทีวีนั้น กสทช.ได้เชิญผู้ประกอบการทีวี ดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง ร่วมหารือ การทำประชาสัมพันธ์การเปลี่ยน ผ่าน อาทิ การอธิบายจุดเริ่มต้น ของทีวีดิจิตอล วิธีการรับชมผ่าน กล่องดิจิตอล การรับชมผ่านระบบดาวเทียมและเคเบิล และ เมื่อประชาชนได้รับคูปองไปแล้ว สามารถนำไปแลกอุปกรณ์รับชม ได้อย่างไร โดย กสทช.จะทำ สปอตโฆษณาส่งต่อไปยังผู้ประ กอบการทีวีนำไปประชาสัมพันธ์ในช่องของตนเอง
ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือช่อง 3 กล่าวว่า การที่ช่อง 3 ยอมออกอา กาศในครั้งนี้ มาจากการที่ กสท. อนุมัติให้ช่อง 3 อนาล็อก ได้ออกอากาศคู่ขนานบนทีวีดิจิตอล แบบไซมอนแคส หรือคู่ขนาน เช่นเดียวกับช่อง 7 และช่อง 9 ส่งผลให้ช่อง 3 ไม่ติดขัดเรื่องปัญหานิติบุคคลระหว่างบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และ บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย
ทั้งนี้ ช่อง 3 จะจัดทำผังรายการใหม่ โดยการนำช่อง 3 อนาล็อก ไปใส่ยังช่อง 3 เอช ดี บนทีวีดิจิตอล ซึ่งการจัดทำผังใหม่ ทางช่อง 3 ต้องคำนึงถึงผู้ผลิตรายการที่ปัจจุบันทำให้แก่ช่อง 3 เอชดี หลังต้องยุบผังช่อง 3 เอชดีทั้งหมด โดยช่อง 3 จะดำเนินการเจรจากับผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวเพื่อนำรายการของผู้ประกอบการบางส่วนไปลงช่อง 3 เอสดี และช่อง 3 แฟมิลี่ เพราะจะมีเพียงบางรายเท่านั้น ที่อาจจะได้อยู่บนช่อง 3 เอชดีต่อ ทั้งนี้ การส่งผังรายการคาดว่าสามารถส่งกรรมการ กสท. ได้ก่อน 12.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.57 พร้อมทั้งดำเนินการออก อากาศคู่ขนานในระบบทีวีดิจิ ตอลทันทีหลังเวลา 12.00 น.
นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ในด้านความเสียหายจากการออกอากาศคู่ขนานในส่วนของบางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หรือช่อง 3 อนา ล็อก คาดจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นการยกโฆษณาที่มีอยู่ปัจจุบันไปทั้งหมด แต่ในส่วนของ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ที่บริหารจัดการช่อง 3 บนทีวีดิจิ ตอล อาจได้รับผลกระทบแผนธุรกิจที่เปลี่ยนไป และจากช่องรายการที่ลดลงจาก 3 ช่อง เหลือ 2 ช่อง ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นของ บีซีอี เวิลด์ ที่ต้องรับภาระเอง คาดอยู่ที่ราว 400 ล้านบาท จากปัจจัยช่องรายการลดน้อยลงส่งผลให้สามารถหารายได้ได้น้อยลง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากค่าใบอนุญาตและค่าเช่าโครงข่าย รวมทั้งค่าเยียวยาความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ในส่วนต่างๆ.
