- Details
- Category: กสทช.
- Published: Thursday, 09 October 2014 10:45
- Hits: 3160
วันที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8716 ข่าวสดรายวัน
ช่อง 3 จอไม่ดำ-ศาลไกล่เกลี่ยออกคู่ขนาน โอด-สูญรายได้ ไม่ต่ำกว่า 400 ล.
ไกล่เกลี่ย - ศาลปกครองกลางนัดตัวแทนช่อง 3 และกสท.ไต่สวนเพิ่มเติม ก่อนไกล่เกลี่ยทั้งคู่สำเร็จ โดยให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานอนาล็อก-ดิจิตอล เพื่อแก้ไขปัญหาจอดำในระบบดาวเทียมและเคเบิล เมื่อวันที่ 8 ต.ค. |
ศาลปกครองจัดเจรจาไกล่เกลี่ยลงตัวระหว่างกสท.-ช่อง 3 ระบุสามารถย้ายอนาล็อกไปออกคู่ขนานช่อง 33 เอชดีระบบดิจิตอลและช่อง 43 ระบบดาวเทียมได้ ด้านช่อง 3 ยอมรับกระทบผังรายการและผลประกอบการเสียหายประมาณ 400 ล้านบาท เผยอาจออกคู่ขนานได้บางรายการเท่านั้น เนื่องจากช่องเอชดีที่จะนำออนแอร์คู่ขนานก็มีรายการของตัวเองอยู่แล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ต.ค. คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายดนัย ศรีโมรา ตุลาการเจ้าของสำนวนออกนั่งบัลลังก์เริ่มไต่สวนในคดีที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กรณี กสท. มีมติให้โครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมต้องระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 อนาล็อกตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ช่อง 3 จอดำในโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม ซึ่งการไต่สวนครั้งนี้ผู้บริหารและทีมกฎหมายของช่อง 3 ชุดเดิม ที่ประกอบด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้เข้าให้ข้อมูลต่อศาลเช่นเดิม ขณะที่ฝ่าย กสท.กรรมการ 3 คนประกอบด้วย พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่เป็นเสียงข้างมากของมติ กสท.ดังกล่าวเข้าให้ถ้อยคำด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการไต่สวนเพิ่มเติมครั้งนี้ เป็นการไต่สวนหลังจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ตามมติกสท. ที่ให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 ในระบบอนาล็อกตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ออกไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. เพื่อให้คู่กรณีสองฝ่ายได้เจรจากันในการนำสัญญาณของช่อง 3 ในระบบอนาล็อกไปออกคู่ขนานในระบบดิจิตอล แต่จนกระทั่งวันที่ 6 ต.ค. ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ และกสท.มีมติให้ยึดตามมติกสท.วันที่ 29 ก.ย.ที่ระบุว่า แนวทางการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 โดยให้บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตช่องดิจิตอล ยื่นผังรายการออกอากาศของ ช่อง 3 ระบบอนาล็อกมาให้กสท. พิจารณา หากช่อง 3 มีปัญหาข้อสงสัยเพิ่มเติมให้หารือกับสำนักงาน กสทช. และให้พิจารณาตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตดิจิตอล โดยกสท.จะไม่หารือกับช่อง 3 อีก ส่งผลให้ช่อง 3 ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลเพิ่มเติม โดยระบุว่าการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ จึงขอยืดเวลาให้ออกอากาศระบบอนาล็อกบนโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิลต่อไปก่อน จากเดิมที่ศาลมีคำสั่งทุเลาคำสั่งของ กสท.ใน วันที่ 11 ต.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือที่ศาลปกครองมีถึงกสท.เพื่อให้เข้าให้ข้อมูลในวันนี้ ได้ขอให้กสท.เตรียมข้อมูลใน 4 ประเด็นประกอบด้วย 1.วัตถุประสงค์ในการออกประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค.55 2.ตามที่กสท.มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2557 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เห็นชอบให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงฯ สิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการฟรีทีวี นับตั้งแต่วันเริ่มต้นแพร่ภาพออกอกาศในระบบดิจิตอลแล้ว 30 วัน มีผลทำให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ประเภทใด
3.ตามที่กสท.มีมติในการประชุมวันที่ 8 ก.ย. และมีคำสั่งตามหนังสือของคณะกรรมการกสทช. ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มิให้ผู้รับใบอนุญาตให้บริการในโครงข่ายกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบอนาล็อก ที่กสท.มีมติให้สิ้นสุด การทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ตามประกาศกสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป 2555 ออกอากาศผ่านโครงการข่ายกิจการโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช่คลื่นความถี่ของผู้รับอนุญาตภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งดังกล่าวเป็นการมีมติ และมีคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติกฎหมายฉบับใด และ 4.ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งทุเลา การบังคับตาม คำสั่งทางปกครองพิพาทเป็นอุปสรรคแก่ การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะอย่างไร
ต่อมาเวลา 19.00 น. หลังการไต่สวนนานกว่า 5 ชั่วโมง มีรายงานกระบวนการพิจารณาชั้นไต่สวนของศาลปกครองระบุว่า ศาลได้เจรจาไกล่เกลี่ยในประเด็นที่เป็นปัญหา โดยคู่กรณีได้ตกลงกันได้ว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ และกสท. ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ปฏิบัติต่อผู้ประกอบการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกทุกราย กสท.จึงเห็นด้วยที่จะพิจารณาอนุมัติให้บริษัทบีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ร่วมกับบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด นำรายการช่อง 3 ระบบอนาล็อกไปออกอากาศแบบคู่ขนาน (Simulcast) ในช่อง 33 เอชดี แบบช่อง 7 และช่อง 9 ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำข้อตกลงนี้ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายในวันที่ 10 ต.ค. นี้ ทั้งนี้ บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จะต้องปฏิบัติตามระเบียบภายในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 12.00 น.
จากนั้น พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นาย ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสท. พร้อมด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้แถลงร่วมกันถึงผลการหารือต่อหน้าคณะตุลาการ
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ในวันที่ 10 ต.ค. ทางช่อง 3 จะต้องยื่นรายละเอียดของผังรายการในระบบอนาล็อกที่จะนำไปออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดีให้กับทางกสท.พิจารณา เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาลดค่าธรรมเนียม 4 เปอร์เซ็นต์ จากราคาการประมูลอย่างเช่นที่ช่องอื่นได้ทำก่อนหน้านี้ ส่วนการออกอากาศคู่ขนานอย่างช้าก็น่าจะเป็นไม่เกิน 12.00 น. วันเสาร์ที่ 11 ต.ค. ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ถือว่าเป็นการจบลงด้วยดี โดยศาลก็ได้ให้ทั้งสองฝ่ายคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณะ ซึ่งในส่วนของช่อง 3 ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าไม่สามารถออกคู่ขนานได้ เพราะมีปัญหาเรื่องนิติบุคคล และกฎหมาย ศาลก็ช่วยไกล่เกลี่ยจนจบลงได้
"พูดง่ายๆ ให้เข้าใจว่ายังเป็นไปตามคำสั่งกสท. ที่เมื่อถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.00 น. คนที่ดูช่อง 3 ในเคเบิลและดาวเทียม จะจอดำ แต่เพื่อหาทางออกให้กับผู้ชมคนที่ติดกล่องดิจิตอลก็ย้ายไปดูอนาล็อกได้ในช่อง 33 เอชดี ส่วนคนที่ติดดาวเทียมก็ไปดูอนาล็อกที่ช่อง 43 แต่คนที่บ้านยังใช้หนวดกุ้งก็ยังสามารถดูช่อง 3 อนาล็อกได้ตามปกติ" น.ส.สุภิญญากล่าว
น.ส.สุภิญญา อ้างว่าในส่วนของคดีที่ช่อง 3 ฟ้องกสท. นั้นก็มีแนวโน้มว่าช่อง 3 จะยื่นถอนฟ้อง แต่เบื้องต้นยังถือว่าคดียังมีอยู่ ส่วนที่ศาลจะเรียกไต่สวนคดีที่บริษัทเคเบิล ฟ้องกสท.ไว้ในกรณีเดียวกันวันที่ 9 ต.ค. นั้น ศาลได้แจ้งว่าจะแจ้งคู่กรณีทราบถึงผลการเจรจาของวันเดียวกันนี้และคงไม่มีการไต่สวน
ด้านนายสุรินทร์ กล่าวว่า จากนี้ทาง ผู้บริหารก็จะไปหารือถึงผังรายการที่จะต้องไปจัดใหม่ ซึ่งก็อยากนำผังของระบบอนาล็อกไปใส่ในช่อง 33 เอชดีทั้งหมด แต่อาจทำไม่ได้ คงต้องเป็นบางรายการ เพราะช่อง 33 เอชดี ก็มีรายการเดิมอยู่แล้ว ซึ่งการออกคู่ขนานมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) แต่จะมีผลเท่าไรไม่อยากพูด ซึ่งคาดว่าประมาณ 400 ล้านบาท อยากให้มองเป็นเรื่องการคำนึงถึง ผู้ชม เพราะช่อง 3 ก็มีนโยบายสนับสนุนการดำเนินการสนับสนุนนโยบายของรัฐในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศในระบบอนาล็อกไปสู่ดิจิตอลอยู่แล้ว ส่วนการถอนฟ้องคดีก็น่าจะมีการดำเนินการได้ต่อไป
ช่อง 3 รับกระทบกำไรระยะสั้น หลังออกอากาศคู่ขนานช่อง HD-เล็งปรับแผนธุรกิจ
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัทย่อยของบมจ.บีอีซีเวิล์ด(BEC) กล่าวว่า ช่อง 3 พร้อมออกคู่ขนานกับช่อง 33 HD หลังจากไม่มีข้อกังวลเกี่ยวกับป้ญหาลิขสิทธิ์ และนิติบุคคลจากที่ศาลปกครองได้ไกล่เกลี่ย โดยการดำเนินการออกอากาศแบบคู่ขนาน
และยอมรับว่า BEC ได้รับผลกระทบกับกำไรในระยะสั้น เพราะบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย บริษัทย่อยของ BEC ยังต้องจ่ายค่าใบอนุญาตและค่าโครงข่าย ปีละ 400 ล้านบาทสำหรับช่อง HD โดยจากนี้ช่อง HD ไม่สามารถนำดำเนินธุรกิจได้หลังจากนำไปออกอากาศคู่ขนานโดยใช้ผังรายการช่อง 3 อนาล็อก และบริษัทก็ต้องปรับแผนธุรกิจากเดิมที่จะมีการประกอบธุรกิจ 4 ช่อง จากนี้เหลือ 3 ช่อง รวมทั้งบริษัทจะพูดคุยกับผู้ทำรายการในช่อง 33 HD ให้เข้าใจตามที่ศาลได้ไกล่เกลี่ย และอาจย้ายไปออกอากาศช่องอื่นที่บริษัทยังมีอีก 2 ช่อง คือ ช่อง 3 Family และช่อง3SD
"เรื่องปัญหาลิขสิทธิก็จบไปก็ใช้เกณฑ์ Simulcast แบบช่อง 7 ช่อง 9 ขณะนี้มีคำสั่งชัดเจนแล้ว เหลือแต่ปัญหาทางธุรกิจ เราก็ต้องวิ่งสู้ฟัด เรามั่นใจว่าทำรายการให้ดีๆ และช่อง HD ก็เป็นต่ออยู่แล้ว เราอาจจะมีคนดูมากขึ้น ธุรกิจโทรทัศน์แปรผันไปตามคนดู "นายสุรินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความมั่นใจว่าจะพลิกฟื้นกลับมาดีได้ในระยะกลางระยะยาว เพราะอายุใบอนุญาตทีวีระบบดิจิตอลนาน 15 ปี ส่วนช่อง 3 อนาล็อก คาดว่ารายได้ในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนซึ่งเติบโต 9%
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ศาลได้เจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารช่อง 3 อนาล็อก และสำนักงานกสทช.และกับพวกรวม 3 คน กรณีการเปลี่ยนผ่านระบทีวีจากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล โดยคู่กรณีที่ตกลงกันได้ว่านโยบายของรัฐและคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตตอลเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ปฏิบัติต่อผู้ประกอบการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกทุกราย กสท.จึงเห็นด้วยที่จะพิจารณาอนุมัติให้บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ร่วมกับ บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นำรายการช่อง 3 ระบบอนาล็อก ไปออกอากาศแบบคู่ขนาน(Simulcast) ในช่อง 33 HD แบบช่อง 7และช่อง 9 ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องโดยจะนำข้อตกลงนี้ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายในวันที่ 10 ต.ค.57 ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดีจะต้องปฏิบัติตามระเบียบภายในวันที่ 10 ต.ค. 57 เวลา 12.00 น.
"บีอีซี มัลติมีเดีย จะยื่นผังรายการของช่อง 3 อนาล็อกเข้ามาให้กสท.ก่อนเที่ยงวันที่ 10 ต.ค. เพื่อให้ออกอากาศคู่ขนาน และในช่วงบ่าย กสท.จะประชุมพิจารณาเรื่องนี้ น่าจะออกอากาศได้ในวันที่ 11 ต.ค.หลัง 16.30 น. ในช่อง 43 ที่ออกอากาศผ่านเคเบิลทีวี และจานดาวเทียม"นางสาวสุภิญญา กล่าว
อินโฟเควสท์