- Details
- Category: กสทช.
- Published: Wednesday, 24 September 2014 23:26
- Hits: 2650
'ประวิทย์'ยืนยันพร้อมออกคู่ขนาน แต่กสท.ต้องเคลียร์กม.ให้ชัดเจน
แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดังรายการ "เจาะข่าวเด่น" ได้เชิญ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และ นายฉัตรชัย เทียมทอง มาพูดคุยในประเด็น "ช่อง 3 จะจอดำบนดาวเทียม - เคเบิ้ล" โดย นายฉัตรชัย กล่าวว่า ผมผิดหวังกับมติ กสท.เรื่องยกเว้นภาษี 4% ให้กับช่องที่มีการออกอากาศคู่ขนาน เพราะเราไม่ได้ติดขัดในเรื่องนี้ แต่เราติดขัดในเรื่องของกฎหมาย จึงขอให้แก้กฎหมายที่สำคัญกว่าเรื่องเยียวยาที่เป็นเรื่องรอง และก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีนโยบายออกอากาศคู่ขนานมาตั้งแต่แรก
ด้านนายประวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่คนหาว่า ช่อง 3 เป็นตัวถ่วงหรือไม่ ว่า ผมยืนยันว่าเราไม่ใช่ตัวถ่วง เพราะทุกวันนี้เราอยู่ในสนามเดียวกันอยู่แล้ว ซึ่งระบบออกอากาศปัจจุบันมีระบบอนาล็อค 30% ที่มีช่องฟรีทีวี 70% อยู่ในดาวเทียมและเคเบิ้ล ที่ดูได้ทั้งฟรีทีวิและดิจิตัล 24 ช่อง เราไม่ได้กลัวการแข่งขันในสนามแข่งขัน ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ตัวกฏหมาย ซึ่งการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลของไทยยังไม่มีความพร้อม ให้ประมูลก่อนที่โครงข่ายจะพร้อม และผู้ประกอบการก็ต้องเริ่มออกอากาศโดยที่ยังไม่มีคนดู
นายประวิทย์ กล่าวย้ำว่า เราพร้อมออกคู่ขนาน แต่ขอให้ กสท.เคลียร์ข้อกฎหมายมาก่อน ช่อง 3 พร้อมออกคู่ขนานกับทีวีดิจิตอลอยู่แล้ว ทั้งนี้ หากช่อง 3 ต้องจอไม่ดำจริงๆ ตัวช่วยสุดท้ายก็อยู่ที่ กสท.หรือไม่ก็ยืนศาลเพื่อคุ้มครองชั่วคราว ว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไร
'ถ้าช่อง 3 จอดำ คนดูที่เราทะนุถนอมมากว่า 40 ปี จะหายไปทันที'
นายประวิทย์ กล่าว ช่อง 3 วอนกสท.หาทางออกคู่ขนานโดยไม่ผิดกฎหมาย ยันหากจอดำจะกระทบคนดู 16 ล้านครัวเรือน
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ ช่อง3 กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารช่อง3 และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่ายังไม่ได้ข้อสรุปอะไร โดยประเด็นใหญ่ที่อยากให้ กสท. ช่วยพิจารณา คือ ทำอย่างไรช่อง3 จึงจะออกอากาศคู่ขนานได้โดยไม่ผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ บริษัท บีอีซีเวิลด์ และ บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย เป็นคนละนิติบุคคล มานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนผู้มีอำนาจและคณะกรรมการเป็นคนละคณะกัน ทั้งนี้ หากช่อง3 ต้องจอดำ ก็สร้างความเสียหายให้กับ 16 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 50 ล้านคนดู ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่มากเกินสมควร ตั้งแต่ตั้งสถานีมา 44 ปี
โดยนายฉัตรชัย กล่าวยอมรับว่า แผนรับมือของช่อง3 ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องทำตามกติกา แต่พยายามมองแง่ดี ว่าเรกูเลเตอร์ คงไม่เอาคนดูมาเป็นตัวประกัน พร้อมกันนี้จะขอผ่อนผันโดยขอขยายเวลาไปอีก ระหว่างที่มีการเจรจากัน ซึ่งแล้วแต่ว่า กสท. จะพิจารณา หรืออีกทางอาจต้องฟ้องศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวให้ช่อง3 ยังสามารถออกอากาศได้ไม่จอดำ แต่หากต้องจอดำ คงต้องคืนค่าโฆษณาให้กับเอเจนซี 70% ซึ่งจะทำให้รายได้ของช่อง3 ลดลงไปเป็นมูลค่ามหาศาลอย่างไรก็ตามยังมีความหวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายในทางที่ดี ซึ่ง กสท. รับปากจะไปดูเรื่องกฎหมายให้