WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ช่อง 3 พร้อมเจรจาต่อรองกับ กสท.-เสนอให้เพิ่มระบบอนาล็อกลงกล่องดิจิตอล

    นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ตัวแทนบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวในระหว่างการเสวนาเรื่อง อยู่รอดอย่างรับผิดชอบในยุคทีวีดิจิตอล ว่า ไม่แน่ใจว่าทุกคนหลงทางหรือเปล่า และบอกว่าเราติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ต้น ในฐานะที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดแนวทางโทรทัศน์ในประเทศไทย พร้อมทั้งขอว่าอย่าพูดเรื่องข้อกฎหมาย เพราะอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่พร้อมจะต่อรองกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)

    “มีคำถามว่า ทำไมไม่ยกเลิกระบบอนาล็อก ตอบเลยว่าก็เป็นสิทธิ์ของผม และยืนยันว่าช่อง 3 ไม่เคยคิดไปออกคู่ขนาน ตั้งแต่ต้น ผมเป็นผู้ชาย จะให้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงและทำศัลยกรรมด้วย มีใครจะทำ วันนี้ผมเป็นธุรกิจฟรีทีวี กสทช. มีอำนาจอะไร ให้ผมเปลี่ยนจากฟรีทีวี เป็นเพย์ทีวี ซึ่งผมทำธุรกิจฟรีทีวีมาโดยตลอด ซึ่งการขอเพย์ทีวี แต่ออกเป็นฟรีทีวี นั่นหมายความว่า เป็นการเริ่มธุรกิจใหม่ทั้งหมด ซึ่งผมต้องไปรื้อทุกอย่าง"นายประวิทย์ กล่าว

    ทั้งนี้ แม้ผู้ถือหุ้นจะเป็นคนเดียวกัน แต่การขออนุญาตลิขสิทธิ์ก็ไม่เหมือนกัน เราเคารพผู้ถือหุ้นทุกราย แม้ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นคนเดียวกันแต่เราแจ้งแผนธุรกิจของแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องการออกกฎหมายของกสท. นั้น ฝ่ายกฎหมายของช่อง 3 บอกว่าถ้าหน่วยงานเป็นคนออก ก็สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้

   ส่วนกรณีที่ กสท. ให้ทางเลือกช่อง 3 ไปออกอากาศทีวีดาวเทียม และเคเบิล หรือ คู่ขนานนั้น กลับเป็นการบังคับ พร้อมอ้างว่าจะแจกกล่องไม่ออก ขอเสนอว่า กสท. ควรเพิ่มระบบอนาล็อกลงในกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล (Set Top Box) ซึ่งเพิ่มเงินเพียง 20-30 บาท เท่านั้น/คูปอง ควรจะแจกทั่วประเทศทันที ไม่ใช่แจกแต่ละจังหวัด โครงข่ายไหนที่เข้าถึงประชาชนจะได้รับชมได้ และกสท.ไม่ควรลงมายุ่งทุกเรื่อง เช่น เรื่องการวิจัยเรตติ้ง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเดดร็อก หรือ ตายทั้งระบบ ส่วนเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ ออกมานั้น เช่น มัสต์แฮฟ มัสต์แครี่ ควรจะยุติ ทบทวน หรือยกเลิก

  ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์  กรรมการ กสท. กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ช่อง 3 ยินดีออกคู่ขนาน หลังจากขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนาน แต่ต้องพิจารณาขั้นตอนต่างๆ ที่ช่อง 3 เสนอมา 2 ประเด็น คือ ปัญหาทางเทคนิค และลิขสิทธิ์รายการ ซึ่งถ้าเรื่องนี้หาทางออกร่วมกันได้ ก็จะทำให้การเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลมีทิศทางที่ดีขึ้น

     แต่อย่างไรก็ตาม กสท. ก็ต้องยึดตามมติคำสั่งทางปกครองที่ให้ผู้ประกอบการโครงข่ายยุติการออกอากาศช่อง 3 ภายใน 15 วัน หลังได้รับหนังสือจากสำนักงาน กสทช.

     กรณีการถือหุ้นของช่อง 3 กสท. ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า แม้จะเป็นคนละบริษัทกัน แต่ถ้าตีความตามกฎหมาย อำนาจการตัดสินใจคือคนเดียวกัน และช่อง 3 จะมาอ้างกรณีนี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องบมจ. อสมท (MCOT)ที่เป็นเจ้าของสัมปทานระบบอนาล็อก ก็ไม่ใช่ปัญหา และอยากให้ดูกรณีของช่อง 7 ที่ติดเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์เหมือนกับช่อง 3 ซึ่งช่อง 7 มาขอคำปรึกษาจาก กสท. เหมือนกัน แต่ระหว่างนี้ก็ยินดีออกคู่ขนานไปก่อน ระหว่างที่รอผลตัดสิน

   สำหรับ การแก้กฎกติกาต่างๆ ในระยะยาวสามารถทำได้ แต่ระหว่างนี้ รอให้การเปลี่ยนผ่านระบบผ่านไปก่อน เพราะการออกกฎกติกาทำให้ทุกคนมาอยู่ในลู่วิ่ง ในสนามเดียวกัน โดยเฉพาะกฎมัสต์แครี่

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!