- Details
- Category: กสทช.
- Published: Sunday, 14 September 2014 19:12
- Hits: 3379
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14:13 น. ข่าวสดออนไลน์
คำต่อคำ'ประวิทย์'บิ๊กบอส ช่อง 3 ทำไมไม่ออกอากาศคู่ขนาน และทำไมไม่ขอใบอนุญาตเพย์ทีวี
โดย patnews (ปัทม์) ภัทราพร ตั๊นงาม' ที่มา http://patnews.wordpress.com/ 13 กันยายน 2557
“..ผมขออนุญาตออกตัวก่อนว่า ไม่ได้มาในนามช่อง 3 แต่มาในฐานะส่วนตัว ผมอยากเริ่มแบบนี้ว่า ไม่แน่ใจว่าพวกเราทั้งหมดในวงการนี้ เราหลงทางหรือเปล่า เพราะตอนนี้โฟกัสมาอยู่ที่ กสท.กับช่อง 3 เป็นวิวาทะกัน ความจริงมันมีข้อขัดแย้งกันอยู่ เป็นประเด็นกฎหมาย ที่ไม่สามารถชี้ได้ว่าใครผิดใครถูก เพราะฉะนั้นขออนุญาตไปที่ศาล ผมขออนุญาตว่าไม่ให้ความเห็นอะไร แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันมีความขัดแย้งด้านแนวคิดเหมือนกัน ผมขออนุญาตยกแนวคิดของ ผอ.สมชัย (ไทยพีบีเอส) ที่เปรียบเทียบบอกว่า เราขึ้นไปชกมวย ขึ้นเวทีก็ลุยกันเลย ก็หมดแรง แต่จริงๆ คืออะไรรู้มั้ยครับ คนดูยังไม่เข้ามาเลย เราก็ชกกันก่อนหมดแรงกันก่อนไปแล้ว ผมเลยคิดว่าเรื่องแนวคิดนี่สำคัญ
ขอพูดเป็นส่วนตัวว่า เราติดกระดุมเม็ดแรกผิด เริ่มต้นในฐานะที่ กสทช.เป็นผู้กำหนดแนวทางของทีวี โทรทัศน์ในเมืองไทย เริ่มต้นเลย กสท.กำหนดเทคโนโลยีก่อน เอาเป็นว่า การส่งในระดับพื้นดิน คำถามผม คือ ทำไมไม่เป็นแบบดาวเทียมล่ะ ออนไลน์ล่ะ เทคโนฯ มีหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องไปอันใดอันหนึ่ง คุณพัชระ (สปริงส์) ได้พูดเรื่องโครงข่ายล่ม อันนี้จะเป็นปัญหาว่า หากเรามีระบบเดียว อันนั้น 2 สถานีเอง แต่ลองคิดดูว่าถ้าล่มทั้งประเทศ อะไรจะเกิดขึ้น ทำไมไม่ทำให้หลากหลายขึ้นมา
อีกอย่างที่เริ่มต้น ก็ผิด คือ เราเริ่มประมูล และเร่งที่ผู้ประกอบการ คือเร่งคนที่จะทำงานมาแล้วก็ลุยกันเลย คนดูยังไม่มายังไม่เข้าเวทีเลย เพราะว่าโครงข่ายยังไม่ได้ทำ กล่องก็ยังไม่ได้แจกถึงบ้าน แต่ว่าเราทำงานไปก่อนแล้ว ปรากฏว่าเราทำงานไปฟรีแล้วครับ เงินทองเราก็ลงไปเยอะแยะแล้วสูญเปล่าเลย ทีนี้ผมขออนุญาตคิดบวกอย่างนี้ว่า หากเราลองเอาคนดูเป็นตัวตั้ง เอ๊ะทำไมคนดูยังไม่มา ความจริงผมยืนยันว่าวันนี้คนดู หรือพวกเราที่แข่งขันกันอยู่ จะเป็นอะนาล็อก ช่อง 3 หรือ ทีวีดิจิตอล 24 ช่อง อยู่บนแพลมฟอร์มเดียวกันแล้วทั้งดาวเทียม และเคเบิ้ล คนดูก็อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว อันนี้ไม่ทราบว่าจะมีใครโต้แย้งมั้ยครับ
แต่ปัญหาจะเกิด ก็คือว่า กสท.พยายามจะบังคับช่อง 3 ให้ออกจากทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลฯ ให้ผมไปออกคู่ขนาน ถ้าผลที่จะได้ตอนนี้ทันที คือผมกลับไปอยู่ที่เดิม เพียงแต่ว่าไปอยู่ที่ช่อง 43 ในโครงข่ายของดาวเทียมและเคเบิ้ลฯ แต่มันไม่ได้จบอยู่ตรงนั้น ที่จะให้ผมไป คือ บังคับให้ผมอยู่ในกล่องที่ กสท.จะแจกน่ะ เพราะหากผมไม่ไปอยู่ตรงนั้น แจกกล่องไม่ออก นั่นเป็นข้อเท็จจริง มีคนแนะนำผมบอกให้คิดบวกว่า หากจะขจัดปัญหาเรื่องการแจกกล่อง ให้รับอะนาล็อกได้ แต่ว่าตอนนี้ กสท.ไปบอกว่า คูปองที่แจก เอามาเป็นส่วนลดซื้อกล่องเฉพาะกล่องที่กำหนด ที่ไม่มีอะนาล็อค นี่เป็นปัญหาของกสท. เค้าบอกว่าไปเติมตรงนั้น 20-30 บาทเท่านั้นเอง
ประเด็นตอนนี้ กลายเป็นว่า ทุกคนจะมารุมผม แต่ว่าเราลืมสภาพข้อเท็จจริงไปหมด ผมว่าคิดบวกหน่อยได้มั้ยครับ ปัญหาที่เกิดมันมีวิธีแก้เยอะแยะ อย่างเรื่องกล่องที่จะแจกไม่ต้องมาบังคับผม มันมีขั้นตอนเยอะแย บอกได้มั้ยว่า คูปองฯ นำไปแลกกล่องอะไรก็ได้ แล้วให้ผู้ประกอบการเติมอะนาล็อกลงไป อันนี้เป็นแนวคิดนะครับ พอได้มั้ยครับ
ขออนุญาตตอบคำถามว่า ทำไมเราไม่เลิกอะนาล็อก ต้องขอตอบอย่างเห็นแก่ตัวเลยครับว่า เป็นสิทธิ์ของเรา แต่หมอบอกว่าผมจะอยู่ได้อีก 6 ปีอย่างสูง กำลังจะตายเพราะเทคโนฯ เก่า นั่นอย่างมาก แต่ผมจะตายวันตายพรุ่ง ผมไม่รู้ อาจตายก่อนนั้นก็ได้ อย่าไปสนใจอนาล็อกเลยครับ มันค่อยๆ ตายไปเอง จะดูทำยังไงให้คนดูไปอยู่ในแพลทฟอร์มเดียวกับทีวีดิจิตอลได้ และผมยืนยันว่านาทีนี้เราอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ผมเรียนกว่า ถ้าทีวีดิจิตอล ไม่มีอนาคต ไม่ทิ้งคนดู ผมถามว่าเดือนมิถุนายน กับกรกฏาคมที่ผ่านมา อาร์เอสจะเป็นที่หนึ่งได้อย่างไร ก็เป็นที่หนึ่งได้ครับ เพราะมีคนดู เพราะว่ามีฟุตบอลโลก เรื่องนี้ใครเถียงผมครับ และรายการฟุตบอลโลกเค้าอยู่หลังเที่ยงคืนเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป หากฟุตบอลโลกมาอยู่ช่วง 2 ทุ่ม ผมตายเลย มาตีละครยับ ฉะนั้นไม่ใช่ช่อง 3 ที่เป็นปัญหาครับ พวกเราต้องทำคอนเท้นท์ให้ดี
ผมเรียนว่า ช่อง 3 พัฒนามา ปีนี้เข้าปีที่ 45 แล้ว เรามีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปีหนึ่งกว่าหมื่นล้านบาท ผมถามว่าทีวีดิจิตล 24 ช่อง มีช่องไหนที่ลงทุนเกินหมื่นล้านบาทบ้าง ถ้าลงทุนไม่ถึง คุณภาพรายการก็ไม่ถึง ก็เป็นปัญหาอีกว่าลงทุนไปแล้วไม่มีใครซื้อ มันเป็นลักษณะไก่กับไข่ ของผมก็เจอแบบนี้มาเหมือนกัน แรกๆ ก็ลุ่มๆ ดอนๆ ตอนนี้ก็แข็งแรงขึ้น เรื่องปัญหาอะนาล้อกจบนะครับ
ผมขอตอบปัญหาอีก 2 ข้อว่า ทำไมเราไม่ขอใบอนุญาตเป็นเพย์ทีวี ผมเกิดมาเป็นฟรีทีวีตลอดครับ ถึงวันที่ กสท.จะออกกฏไม่ให้ผมเป็นทีวีเพื่อการทั่วไป ผมก็ยังเป็นฟรีทีวีอยู่ โทษทีผมเกิดมาเป็นผู้ชายนะครับ นาทีนี้ กสท.บอกว่า ผมไม่ใช่ผู้ชายแล้ว ให้ผมไปขอเปลี่ยนเป็นผู้หญิง และไปทำศัลยกรรมด้วย ถึงจะขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้ ถามว่ ผมไปขอใบอนุญาตเพย์ทีวีแล้ว ถามว่า ผมเป็นเพย์ทีวีจริงหรือเปล่า เพราะผมไม่ได้เก็บตังค์คนดูนะครับ และกสท.มีอำนาจอะไรที่จะให้ผมไปเปลี่ยนเพศ ไปแปลงเพศซะด้วยซ้ำไป
การที่จะขออนุญาตเป็นเพย์ทีวี จะเป็นธุรกิจใหม่ทันทีเลย ผมมีปัญหาที่ตามคือ ลิขสิทธิ์รายการทั้งหมดที่จะไปออกรายการ ต้องเสียใหม่ บางรายการที่เค้าขายให้เฉพาะเพย์ทีวีที่ช่อง 3 อาจมาออกที่เพย์ไม่ได้ เพราะเพย์ทีวีเค้าขายให้เจ้าอื่นไปแล้ว ผมต้องไปตั้งสถานที่ จัดคนเพื่อดำเนินงานช่องใหม่นี้ เพราะเป็นช่องใหม่เลย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องตามมามหาศาล
อีกคำถามที่ต้องตอบคือ ทำไมเราไม่เปิดคู่ขนาน ขอตอบแบบทุบโต๊ะเลยครับว่า ผิด ผิดกฎเกณฑ์ของ กสท. เพราะกสท.บอกว่า คนที่ประมูลช่องดิจิตอลทีวีมา ต้องประกอบการเอง วันที่ กสท.อนุญาตให้ช่อง 7 และช่อง 9 ขึ้นไปออกอากาศคู่ขนาน ทาง กสท.ให้สัมภาษณ์เองว่า ช่อง 3 เนี่ยะ ไม่มีสิทธิ และไม่มีสิทธิ์อะไรเหมือนที่ช่อง 7 และช่อง 9 ทำ เพราะช่อง 3 กับบริษัทที่ไปประมูลดิจิตอลทีวี คนละนิติบุคคลกัน นาทีนี้ อยากให้ช่อง 3 ขึ้นไปคู่ขนานก็บอกว่าทำไมไม่า ผมไม่เคยคิดว่าจะขึ้นไปคู่ขนานเลยตั้งแต่ต้นนี่เป็นแผนธุรกิจของเรา ช่อง 3 มีแผนธุรกิจของตัวเองที่จะทำอะนาล็อคจนหมดอายุสัมปทาน ขณะที่ช่อง 33 คนที่ประมูลมาก็ต้องการพัฒนารายการของเค้า
แต่ไม่ใช่ว่า จะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปคู่ขนาน แต่ว่ามีขั้นตอนเยอะแยะ เราต้องไปตกลงกันก่อนระหว่างช่อง 3 กับ ช่อง 33 และต้องไปตกลงกับ กสท.ก่อนว่าเป็นไปได้หรือไม่ เงื่อนไขต่างๆ ที่มีต่อกันจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอยากให้ดูด้านค่าใช้จ่ายผม ผมโดน 2 เด้งนะครับถ้าขึ้นคู่ขนาน เพราะต้องจ่ายสัมปทานให้ช่อง 9 ขณะเดียวกันผมต้องจ่ายสัมปทานของช่อง 33 ผมสองเด้ง ขึ้นไปผมก็เสียเปรียบท่านที่เป็นทีวีดิจิตอลแล้ว ที่บ่นว่าผมได้เปรียบ แต่ผมเสียเปรียบ รวมทั้งโครงข่าย (มักซ์) ที่ผมเช่ามา ผมไม่ได้ใช้ประโยชน์เลยถ้าออกคู่ขนาน จะดูแลผมตรงนี้อย่างไร
ช่อง 33 ผมไม่มีแผนธุรกิจเหมือนช่องอื่น เช่น ช่อง 7 เค้าคู่ขนาน ไม่ต้องจ้างคน ไม่ต้องลงทุนสถานที่ ไม่ต้องจ้างคน ไม่ต้องสร้างรายการ แต่ผมมีสถานที่ ผมต้องจ้างคนมา ผมต้องไปผลิตรายการ ตรงนี้เป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งนั้น ผมยกตัวอย่าง ช่อง 33 มีรายการของการ์ละแมร์อยู่ เราจ้างเค้าทำ ทันทีที่เอาสัญญาณของช่อง 3 มาทับ รายการนี้ก็หายไป ผมมีโอาสถูกฟ้องร้องนะครับ เพราะจ้างเค้ามาแล้ว เสร็จแล้วดึงเค้าออกไปทิ้งไว้ไหนครับ เค้าเสียหายเพราะลงทุน เช่าห้องส่งทำรายการ และมีข้อผูกพันกับเอเยนซี่โฆษณาด้วย พวกนี้เราไม่ผิด ผมบอกว่า เป็นไปได้ แต่ต้องกรุณาเคารพสิทธิ์ของเราด้วย และดูว่าเรามีปัญหาอะไรต่อๆไป ไม่ใช่ปิดทางนะครับ เราสามารถพูดคุยกันขอเปลี่ยนแผนงานธุรกิจได้ แต่ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร อยู่กับว่า กสท.จะรับเรื่องนี้ไปอย่างไร
ผมไม่ได้ต้องการให้ผู้ชมจอดำ คิดดูแล้วกัน คนดูสะสมมา 40 กว่าปี อยู่ดีๆ จะเอาเค้าเป็นตัวประกันไปทำร้ายหรือครับ ขอฝากกว่าอะไรก็เป็นไปได้ แต่อย่ามาพูดกันด้านกฎหมาย ถ้าด้านกฎหมายให้เป็นเรื่องของศาล แต่ว่าการต่อรองหรืออะไรกัน เป็นไปได้ถ้ามีโอกาสได้คุยกัน..”
+++++++++++
หมายุเหตุ.. คุณประวิทย์ พูดประเด็นดังกล่าว ในขณะร่วมฟังในเวทีเสวนา “อยู่รอดอย่างรับผิดชอบ ในยุคทีวีดิจิตอล” จัดโดยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ที่ รร.สุโกศล
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:00 น. ข่าวสดออนไลน์
ไม่ใช่การเปลี่ยนผ่าน คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
เครือ ข่าวสด-มติชน จัดกิจกรรมทายผลความสำเร็จของนักกีฬาไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 17 ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นแข่งขันในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว โดยผู้อ่านสามารถตัดคูปองใน น.ส.พ.ข่าวสด มติชน และประชาชาติธุรกิจ แล้วส่งมาชิงรางวัลใหญ่มากมาย เพื่อให้คนไทยได้ร่วมสนุก ร่วมกันเชียร์ทัพนักกีฬาไทย และได้ลุ้นโชคตอบแทนอีกด้วย
แต่พอเห็น ข่าวการถ่ายทอดสดเอเชี่ยนเกมส์ทางทีวี ซึ่งไม่สามารถถ่ายผ่านช่อง 3 อนาล็อกได้ แล้วรู้สึกน่ารำคาญ รู้สึกว่าความสุขสนุกสนานในมหกรรมเกมกีฬาใหญ่กำลังลดลงไป
กสท.กำลังทำอะไร
แล้ว ที่ทำ กระทบต่อสิทธิของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ที่ทุกวันนี้ยังดูทีวีในระบบอนาล็อกอยู่ ยังใช้เสาก้างปลา ใช้หนวดกุ้ง กันมากมายในทั่วประเทศ ที่ กสท.ทำ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการรับข่าวสารและการดูถ่ายทอดกีฬาของประชาชนคนไทยส่วนนี้ซึ่งมีจำนวนมากมาย
ทั้งหลายทั้งปวงเริ่มต้นจากมติ กสท. ซึ่งตัดสินโดยคน 3 คน เหนือกรรมการอีก 2 คน เพื่อจะบีบบังคับให้ช่อง 3 เข้ามาสู่ระบบดิจิตอลเต็มตัว ไม่ใช่ยังออกทั้งอนาล็อกทางหนึ่ง และดิจิตอลอีกทางหนึ่ง
ทั้งที่ สัมปทานระบบอนาล็อกของช่อง 3 เขาก็จ่ายเงินได้มาอย่างถูกกฎหมาย ไปทำอะไรเขาไม่ได้ อีกทั้งตามระบบธุรกิจ เมื่อเขาจ่ายเงินลงทุนไปแล้ว เขาก็ต้องดำเนินการแพร่ภาพผ่านระบบนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดสัญญา
แล้ว กสท.ก็มีมติไปบีบผู้ประกอบการเคเบิลและจานดาวเทียม ให้หยุดแพร่ภาพช่อง 3 อนาล็อก ที่เรียกกันว่าจอดำ
กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคซึ่งดูทีวีผ่านเคเบิลและจาน หลายสิบล้านครัวเรือนแน่ๆ
เท่ากับว่า ถ้ามตินี้ไม่เปลี่ยนแปลง อีกราว 2 สัปดาห์ประชาชนที่ดูเคเบิลและจาน จะเดือดร้อน ไม่ได้ดูช่อง 3 อนาล็อก
แถมอีกไม่กี่วันนี้ ประชาชนที่ดูช่อง 3 ผ่านก้างปลา หนวดกุ้งก็จะเดือดร้อนอีก ไม่ได้ดูเอเชี่ยนเกมส์
สุดยอดจริงๆ กสท.
ในหลายประเทศที่เจริญแล้ว ล้วนใช้เวลาเกือบสิบปี ค่อยๆ เปลี่ยนผ่านระบบทีวีไปสู่ดิจิตอล
เพราะ ต้องค่อยๆ ทำเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับทุกฝ่าย เริ่มต้นจากความพร้อมของประชาชนคนดู ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด สิทธิเสรีภาพของชาวบ้านในการได้ดูโทรทัศน์ ต้องมาก่อน
ผู้ประกอบกิจการและทุกๆ ฝ่าย ก็ต้องไปด้วยกัน ให้การเปลี่ยนผ่านนั้นราบรื่น
แต่ในประเทศไทย โดย กสท.ไม่กี่คน ได้กระทำในสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่าเปลี่ยนผ่าน แต่เป็นการหักดิบ หักหาญ
สงสัยนึกว่าตัวเองเป็น บิ๊กตู่ บิ๊กโด่ง บิ๊กต๊อก หรือไง
จึงจะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเข้าจัดการให้เปลี่ยนอย่างฉับไว
ขณะที่ความเป็นจริงคือ กสทช.ยังไม่ได้เริ่มแจกคูปองแจกกล่องให้ชาวบ้านได้เข้าสู่ดิจิตอลเลย แล้ว กสท.กลับจะมาบังคับโน่นนี่
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ไม่รู้สึกมั่นใจว่า จะเป็นความองอาจกล้าหาญ กล้าชนกับกลุ่มทุนโทรทัศน์ช่อง 3 อะไรสักเท่าไหร่
เพราะอีกฟากก็มีกลุ่มทุนบางเจ้าที่ใกล้จะหมดลมคาระบบดิจิตอล กำลังยกเท้าดันหลังกรรมการในองค์กรของรัฐ เพื่อให้เร่งทุบทีวีอนาล็อกอยู่
ทั้งปั่นหัว เป่าหู เป่าก้น กันอยู่อย่างอลหม่าน
ก็เลยสนุกสนานแข็งกร้าวใช้อำนาจกันใหญ่ โดยไม่อยู่บนความพอเหมาะพอดี และไม่รู้ว่าโลกความเป็นจริงเป็นเช่นไร
เดี๋ยวประชาชนคนดูทีวีจำนวนมากที่ถูกละเมิดสิทธิ เกิดมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง จะวุ่นวายไปกันใหญ่