- Details
- Category: กสทช.
- Published: Wednesday, 03 September 2014 19:42
- Hits: 3240
คสช.ไฟเขียว'คูปองทีวีดิจิตอล' เริ่มแจก 15 ต.ค.นี้-นำร่อง 4 จังหวัด
แนวหน้า : นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือแจ้งจาก คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบให้ กสทช.ดำเนินการแจกคูปองเงินสดส่วนลดราคา 690 บาท สำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอล ทั้งกล่องดิจิตอล และทีวีดิจิตอล
โดยอนุมัติงบค่าใช้จ่ายจำนวน 16,165.265 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าคูปองมูลค่า 690 บาท จำนวน 22.9 ล้านฉบับ ค่าพิมพ์คูปอง ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง รวมถึงค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ค่าจัดส่งคูปองโดยไปรษณีย์ไทย ค่าธรรมเนียม ค่าระบบบริหารจัดการ และค่าดำเนินการตรวจสอบต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ กสทช.จะเร่งดำเนินการแจกคูปองผ่านไปรษณีย์ เริ่มต้นวันที่ 15 ต.ค.57 ให้กับ 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพฯ นครราชมีมา เชียงใหม่ และระยอง โดยสถานีฐานใน 4 จังหวัดดังกล่าว จะครอบคลุมไปยัง 23 จังหวัด ซึ่งประชาชนสามารถนำไปแลก ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.57 โดยคูปองดังกล่าวจะมีอายุ 6 เดือน หลังจากนั้นจะทยอยแจก ซึ่งภายในสิ้นปีจะสามารถแจกจ่ายคูปองได้ 45 จังหวัด คิดเป็น 52% ของจำนวนประชากร หรือ 11.89 ล้านครัวเรือน และจะดำเนินการกำหนดแจกให้ได้ภายใน 2 ปี
กสทช.คาดเริ่มแจกคูปองทีวีดิจิตอล 15 ต.ค.ผ่านไปรษณีย์,ใช้ได้ 25 ต.ค.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เห็นชอบให้สำนักงาน กสทช.สามารถแจกจ่ายคูปองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล มูลค่าคูปอง 690 บาท/ครัวเรือน ให้แก่ประชาชนราว 22.9 ล้านครัวเรือน และมีการอนุมัติวงเงินค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 16,165.265 ล้านบาท
ทั้งนี้ กสทช.คาดว่าจะเริ่มแจกคูปองผ่านไปรษณีย์ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ให้กับประชาชน 11.45 ล้านครัวเรือนครอบคลุม 45 จังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่โครงข่ายระบบดิจิตอลระยะแรก โดยจะแจกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และสามารถนำคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.เป็นต้นไป
สำหรับ 45 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี เพชรบุรี สระบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน สงขลา พัทลุง ปัตตานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สุราษฎธานี ระยอง จันทบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี ชัยนาท สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองคาย และหนองบัวลำภู
นายฐษกูร กล่าวว่า วงเงินทั้งหมด 16,165.265 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็น 1.ค่าคูปอง 22.9 ล้านฉบับ ฉบับละ 690 บาท รวมทั้งสิ้น 15,801 ล้านบาท, 2.ค่าพิมพ์คูปอง ฉบับละ 2.85 บาท เป็นเงิน 65.265 ล้านบาท, 3.ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ, 4.ค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท จะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ, 5.ค่าจัดส่งคูปองให้ไปรษณีย์ไทย ฉบับละ 10 บาท เป็นเงิน 229 ล้านบาท, 6.ค่าธรรมเนียมธนาคาร ฉบับละ 0.55 บาท เป็นเงิน 12.595 ล้านบาท บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ชำระ, 7.ค่าระบบบริหารจัดการโครงการ จำนวน 50 ล้านบาท, และ 8.ค่าดำเนินการตรวจสอบ จำนวน 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ กสทช.จะทำการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้ามาดูแลการดำเนินการตามโครงการ ได้แก่ คณะกรรมการคัดเลือกบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการฯ, คณะกรรมการพิมพ์คูปอง, คณะกรรมการแจกคูปอง และ คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินโครงการฯ ซึ่งการคัดเลือกบริษัทร่วมโครงการนั้น กสทช.ได้ออกประกาศไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค.57 เพื่อให้ผู้ที่สนใจยื่นรายละเอียดได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.57 เป็นต้นไป และมีการประกาศรายชื่อทุก 15 วัน ชุดแรกวันที่ 15 ก.ย.ขณะที่การกำหนดจุดเพื่อรับแลกคูปองจะขึ้นอยู่กับบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการนั้นๆ จะต้องไปดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อไป
อินโฟเควสท์