กดไลน์-แชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ระดมความคิดเครือข่ายภาคี เสนอฉันทามติ 7 ข้อเสนอ ดันคอร์รัปชัน ให้เป็นวาระแห่งชาติ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จับมือภาคีภาคสังคมกว่า 26 องค์กรที่ขับเคลื่อนงานต่อต้ านคอร์รัปชัน สร้างฉันทามติร่วม ว่าด้วยการปฏิรูปการต่อต้านคอร์ รัปชันฉบับประชาชน เตรียมนำ'7 ข้อเสนอสำคัญที่ไม่ทำไม่ได้'เสนอต่อกลไกปฎิรูป
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคสังคม จัดงานเสวนาโต๊ะกลมหัวข้อ'ฉันทามติเพื่อการขับเคลื่ อนการปฏิรูปการต่อต้านคอร์รัปชั น'แลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้ามเครื อข่ายประเด็น'การปฏิรูปการป้องกั นและปราบปรามคอร์รัปชัน'ที่นำไปสู่ข้อเสนอที่เป็นฉั นทามติร่วมฉบับประชาชน(National Consensus) เตรียมนำเสนอต่อกลไกการปฏิรู ปภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นสภานิติบัญญัติแห่ งชาติ (สนช.) หรือสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หรือ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่ งชาติ (คสช.) แม้กระทั่งคณะรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่ อนการปฏิรูปภาคประชาชนคู่ขนานกั นไปกับภาคปฏิรูปโดยกลไกภาครัฐ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การประชุมหารือสร้างฉันทามติร่ วมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่ างดียิ่ง โดยที่ประชุมมีฉันทามติร่วม 7 ข้อเสนอ ได้แก่
(1 )แก้ไขกฏหมาย ให้คอร์รัปชันเป็นอาชญากรรมร้ ายแรง ต้องลงโทษโดยไม่มีการรอลงอาญา และกำหนดมาตรการสำคัญ เช่น อายุความการติดตามตัวผู้ร้ายข้ ามแดน การยึดทรัพย์สินคืน การเอาผิดผู้จ่ายสินบนให้มากขึ้ น การใช้มาตรการตรวจสอบด้านการเงิ น บัญชีและการเสียภาษีเพื่อจับผิ ดคนโกง ฯลฯ
(2) ป้องกันคอร์รัปชั นและการแทรกแซงสื่อ ด้วยการออกกฏหมายควบคุมการใช้ งบประมาณเพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ของรัฐ (3) สร้างการมีส่วนร่ วมภาคประชาชนในการตรวจสอบการการ ลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ โดยการนำ “ข้อตกลงคุณธรรม” (Integrity Pact) มาใช้ (4) สร้างความโปร่งใสในภาครัฐ โดยเร่งปรับปรุง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 (5) ให้รัฐวิสาหกิจต้องบริหารจั ดการโดยยึดมาตรฐานบรรษัทภิบาล เทียบเท่าบริษัทจดทะเบี ยนในตลาดหลักทรัพย์และห้ามบุ คคลในกระบวนการยุติธรรม เป็นคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจ (6) รัฐต้องเร่งสร้างวัฒนธรรมการต่ อต้านคอร์รัปชันอย่างชัดเจน ต่อเนื่อง ด้วยการทุ่มงบประมาณเพื่ อการรณรงค์อย่างมียุทธศาสตร์ และต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี (7) จัดตั้งกองทุนส่งเสริมธรรมาภิ บาลและต่อต้านคอร์รัปชัน ภาคประชาชน
คุณประมนต์ กล่าวเสริม ว่า "ผู้นำทางการเมืองจะต้องสร้ างมาตรฐานความโปร่งใส และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสั งคม เริ่มต้นจากการแสดงบัญชีทรัพย์ สิน หนี้สิน รายได้ และการเสียภาษี ต่อสาธารณะ โดยคาดหวังว่าสภาปฎิรูปแห่งชาติ ที่จัดตั้งขึ้นจะกำหนดให้การป้ องกันและปราบปรามคอร์รัปชัน เป็นวาระแห่งชาติ และผลักดันให้การปฎิรูปเห็ นผลเป็นรูปธรรมได้ภายใน 1 ปี ซึ่งถ้าทำได้ เชื่อมั่นว่าคอร์รัปชั นจะหมดไปจากประเทศไทยในที่สุด"
อนึ่ง ภาคีเครือข่ายที่ร่วมประชุมเพื่ อสร้างฉันทามติร่วมครั้งนี้ ประกอบด้วย เครือข่ายเดินหน้าปฎิรูป (RNN) สภาพัฒนาการเมือง (สพม.), สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI), สถาบันพระปกเกล้า, สถาบันต่อต้านการทุจริตคอร์รั ปชันแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA), เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.), สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ, สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่ งประเทศไทย, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ ไทย, โครงการภาคีพัฒนาประเทศไทย, องค์กรเพื่อความโปร่ งใสประเทศไทย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้ างเสริมสุขภาพ (สสส.), มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด, กลุ่มวิชาการลดทุจริต, มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ฯลฯ