สตง.พบทุจริตแจกเงินชาวนา เร่งสรุปความผิดในเดือนนี้ จ่อสอบ‘ห้องสมุดอัจฉริยะ’

    แนวหน้า : สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่งทีมตรวจสอบการจ่ายเงินตามมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละพัน ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เข้าหารือรมว.คมนาคม ขอสังเกตการณ์ป้องกันโกงในโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ-รถไฟฟ้า-รถเมล์เอ็นจีวี

    นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2557 ว่า ขณะนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อยู่ระหว่างการกระจายกำลังในการเข้าตรวจสอบการจ่ายเงินตามมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ใน 26 จังหวัดภาคกลาง และภาคตะวันออกตามความรับผิดชอบของ สตง. โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งหมดภายในสิ้นปี 2557 ในเบื้องต้นหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบในบางส่วนมีการพบการทุจริตจากการมาตรการดังกล่าวจริง เฉลี่ยจังหวัดละ 3-4 ราย เช่น เกษตรกรแจ้งพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าที่เพาะปลูกจริง หรือในกรณีเกษตรกรไม่มีพื้นที่เพาะปลูกแต่แจ้งว่ามีพื้นที่เพาะปลูก ฯลฯ

    นอกจากโครงการนี้แล้ว สตง. เตรียมจะเข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณในการก่อสร้างโครงการห้องสมุดอัจฉริยะ (SMART LIBRARY) ด้วย ซึ่งจะมีการใช้งบประมาณในการก่อสร้างเฉลี่ย 2-5 ล้านบาทต่อโครงการ ว่ามีความเหมาะสมและถูกต้องหรือไม่

    ขณะที่ นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้พบปะเกษตรกร เยี่ยมชมการตรวจวัดปริมาณและคุณภาพ และการทำสัญญาเงินกู้ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 ณ บ้านม่วงน้อย อำเภอ โพนทราย จ.ร้อยเอ็ดว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 วงเงิน 25,740 ล้านบาท เพื่อพยุงราคาข้าวตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.)แล้ว

    ส่วน ที่กระทรวงคมนาคม วันเดียวกัน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม

   พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ได้หารือเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินโครงต่างๆ ซึ่งมีการกล่าวใน 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องการดำเนินการตรวจสอบโครงการต่างๆ เพื่อความโปร่งใส นำร่องในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ตั้งแต่ร่าง TOR ขั้นตอนการประมูล ที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร และทางเทคนิค เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลให้สามารถชี้แจงกับประชาชนได้ รวมถึงการตรวจสอบการใช้งบประมาณให้มีความโปร่งใส

   2.ได้มีการลงความเห็นร่วมกันในการจัดทำร่างข้อตกลงคุณธรรมระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ เพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่นและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะมีการพิจารณาใน 2 โครงการได้แก่ โครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน และโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจะเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ตั้งแต่การเริ่มดำเนินการ

   ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ในการหารือร่วมกระทรวงคมนาคมมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาแนวทางการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบทุกขั้นตอน

    “การเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ยืนยันว่าจะไม่ทำให้โครงการล่าช้า หรือหยุดการดำเนินการ ซึ่งจะเข้ามาร่วมให้ข้อเสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และให้มีความเหมาะสมมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปในอนาคต โดยหลังจากนี้ จะนำไปใช้ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ของภาครัฐต่อไป”นายประมนต์ กล่าว