- Details
- Category: ศาลรัฐธรรมนูญ
- Published: Sunday, 10 March 2019 22:56
- Hits: 4060
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ-มติ 6 ต่อ 3 เพิกถอนสิทธิลงเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กรณีที่เสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ในรายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เนื่องจากพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไปย่อมดำรงอยู่เหนือการเมือง
นอกจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติ 6 ต่อ 3 ให้เพิกถอนสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติที่อยู่ในตำแหน่ง ณ วันที่ 8 ก.พ.เป็นเวลา 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเป็นเอกฉันท์ห้ามไม่ให้กรรมการบริหารพรรคชุดดังกล่าวไปจัดตั้งพรรคใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคอื่น หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เป็นเวลา 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญแถลงว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งผลการพิจารณา องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนได้ทำความเห็นส่วนตนเป็นหนังสือพร้อมทั้งแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุม และที่ประชุมได้ปรึกษาหารือร่วมกันแล้วลงมติในประเด็นดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง มีเหตุให้สั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) หรือไม่ ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องได้กระทำการดังกล่าว จึงมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคสอง
ประเด็นที่สอง คณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องจะถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคกาเรมืมองพ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคสองหรือไม่ ศาลมีมติเสียงข้างมาก 6:3 วินิจฉัยว่าให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคของผู้ถูกร้องที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 8 ก.พ.62 ซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง มีกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง
ประเด็นที่สาม ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องและถุกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งจะไปจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีกไม่ได้ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 94 วรรคสอง หรือไม่ ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ถูกยุบและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ทั้งนี้ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 94 วรรคสอง
ทั้งนี้ องค์คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายชัช ชลวร นายปัญญา อุดชาชน นายวรวิทย์ กังศศิเทียม นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ นายนครินทร์ เมฆไตรัตน์ และนายบุญส่ง กุลบุปผา
สำหรับ คณะกรรมการบริหารพรรค 14 คน ประกอบด้วย 1. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคฯ 2. น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคฯ 3. นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคฯ 4. นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคฯ 5. นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคฯ 6. นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรคฯ 7. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคฯ
8. นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคฯ 9. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรคฯ 10. น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรคฯ 11. นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคฯ 12. นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรคฯ 13. นายรุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรคฯ 14. นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรคฯ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายรุ่งเรือง ออกมาประกาศว่า ได้แจ้งลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.62
ปรีชาพล น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. หลังมีมติยุบพรรค ยันมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมเพิกถอนสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเองและกรรมการบริหารพรรคขอยืนยันว่าน้อมรับพระราชโองการเมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ ซึ่งคำวินิจฉัยเป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบแล้ว
การยุบพรรคส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพทางการเมืองขั้นพื้นฐาน อย่างน้อยก็กระทบต่อผู้สมัครของพรรคและประชาชนที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้
"แม้พรรคไทยรักษาชาติจะมีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้นที่เริ่มก่อร่างสร้างตัว แต่ก็ได้รับความเมตตาจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก เราพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อยากเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดี และอยากทำสิ่งดีๆ ให้กับบ้านเมือง โดยมีเจตนาบริสุทธิ์ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา"
"ผมขอขอบคุณผู้สมัครและพี่น้องประชาชนที่เดินเคียงข้างกันมาตลอด ถึงแม้ว่ามันจะไปไม่ถึงสิ่งที่เราปรารถนา แต่ผมก็ขอขอบคุณทุกๆคน ปัญหาบ้านเมืองมีมาก คนที่อยู่ก็ต้องทำงานกันต่อไป สำหรับผมและกรรมการบริหารพรรค ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะอะไรก็ตาม เราจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เราทุกคนปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ไม่มีใครคิดร้าย ผมอยากให้พวกเราทุกๆคนทำหน้าที่ของตนเอง แม้ว่ากรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง ผมเชื่อว่าในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ตาม ในฐานะคนไทยผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณมากๆ สำหรับ กำลังใจ เราคงได้พบกันใหม่เมื่อมีโอกาส"ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
อินโฟเควสท์