- Details
- Category: ปปง.
- Published: Sunday, 08 October 2023 10:47
- Hits: 2320
นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้มีความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม แก่คณะผู้บริหารสำนักงาน ปปง.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการปฏิบัติงานแก่คณะผู้บริหารสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ประธานกรรมการ ปปง.) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงาน ปปง.
ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายแก่คณะผู้บริหารสำนักงาน ปปง. ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านความมั่นคง โดยการใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการตัดวงจร การประกอบอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยสรุปได้ดังนี้
1. เสริมสร้างภาพลักษณ์สำนักงาน ปปง. ให้มีความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรมในการปฏิบัติงาน ผลักดันการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความคาดหวังของประชาชน เช่น การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การปราบปรามยาเสพติดเพื่อคืนลูกหลานให้กับครอบครัว การปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ
2. เร่งรัดดำเนินการเพื่อยกระดับการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทการทำงาน ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะที่เป็นประเทศที่มีการดำเนินงาน ตามมาตรฐานสากลในระดับเดียวกับนานาอารยประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงินของประเทศไทย และสร้างความน่าเชื่อถือด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
3. สร้างภาคีเครือข่ายในการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเครือข่าย ภาคประชาชน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศในรูปแบบความร่วมมือ ปปง. ภาคประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยยึดหลักคุณธรรมและสุจริต
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า ในการขับเคลื่อนนโยบายนั้น สิ่งสำคัญคือ การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนภารกิจงาน จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมฟอกเงินให้หมดสิ้นไป
ซึ่งจะช่วยสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรฟอกเงิน รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสังคมโลกด้วย