- Details
- Category: ยาเสพติด
- Published: Monday, 01 September 2014 09:53
- Hits: 13140
นที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8678 ข่าวสดรายวัน
ทลาย'49 จุด' เครือข่ายยา พงศพัศ-ปปส.ลุย ยึดทรัพย์ 100 ล้าน
ยึดทรัพย์ - พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ยึดทรัพย์เครือข่ายยาบ้าในจ.เชียงราย อายัดบ้านหรู ที่ดิน และรถยนต์ มูลค่านับ 100 ล้าน โดยสนธิกำลังกับป.ป.ส.ดำเนินการพร้อมกัน 49 จุดทั่วประเทศ |
กวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดครั้งใหญ่ "พงศพัศ"นำทีมตำรวจ-ทหาร-ป.ป.ส.ลุยตรวจ จับยึดที่ดินบ้าน-รถเกือบ 10 คันมูลค่าหลายสิบล้านบาท ขณะที่ตำรวจเพชรบุรี-ทหารจับเครือข่ายเดียวกันยึดที่ดิน-ฟาร์มกว่า 20 ล้านบาท เผยเป็นปฏิบัติการจู่โจมพร้อมกันทั่วประเทศ แฉรับยาจากสปป.ลาว ส่งขายไปทั่ว โดยตร.สกัดจับได้ครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค. ก่อนขยายผลสอบสวนถึงกับตะลึงเพราะมีโยงใยกว้างขวาง ที่ผ่านมาจู่โจมถึง 49 จุด จับผู้ต้องหานับสิบคนของกลางยาบ้า 18.8 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 10 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์ได้กว่าร้อยล้านบาท
ทลายเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต. ภานุเดช บุญเรือง ผบก.บช.ปส, พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผบ.จทบ.ชร. นำกำลังทหาร-ตำรวจ เข้าตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดหลายอำเภอในเขตจังหวัดเชียงราย ตามหมายศาล โดยขยายผลจากคดีจับกุมนายกรทอง สีสายเกิด กับพวกรวม 9 คน ยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ด รถยนต์ 5 คัน เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งขยายผลยึดทรัพย์หลายรายการในหมู่บ้านเอสเอ็มแอล ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยพบว่าเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ พัวพันบุคคลหลายกลุ่มและในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แยกย้ายจู่โจมจับกุม ผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตำรวจใช้เวลาขยายผลแกะรอยนานนับเดือน กว่าจะได้หลักฐานชัดเจนเชื่อได้ว่ากลุ่มผู้สั่งการใหญ่เป็นเครือข่าย ตระกูลแซ่เติน มีนางกอยเจียว เงินอ่อน (แซ่เติน) เชื่อสายม้ง บ้านอยู่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย และเครือญาติอีกนับ 10 คน โยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ยึดทรัพย์ประกอบด้วย ที่ดินกว่า 70 ไร่ ใน อ.ขุนตาล รถไถนา รถแบ๊กโฮ และยังมีญาติมาซื้อบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงราย มีมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์ ฮาร์เลย์ฯ รถยนต์อีก 9 คัน มูลค่าหลายสิบล้านบาท ขบวนการยาเสพติดกลุ่มนี้เชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาต่างประเทศ
ที่ จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วยพล.ต.สมพงษ์ ไทรงาม ผบ.มทบ.15 และนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผวจ.เพชรบุรี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นเครือข่ายเดียวกัน สามารถจับกุมนายธิติพงษ์ หรือบัง โหรชัยยะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 หมู่ 5 ต.ท่ายาง น.ส.สาวิตรี หรือเอ๋ ศรีสวัสดิ์ และ น.ส.แอน ช่วงชู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาจำหน่าย และมีส่วนในการจำหน่ายยาเสพติด พร้อมของกลางเงินสด 96,830 บาท รถยนต์ 5 คัน ทองรูปพรรณ 7 รายการ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม ทรัพย์สินอื่นๆ และอาวุธปืนยาว 4 กระบอก ปืนสั้น 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังขยายผลอายัดที่ดิน 2 ไร่ และหอพักห้องพักประมาณ 50 ห้องของนายธิติพงษ์ ที่ ต.โพไร่หวาน อ.เมืองเพชรบุรี และฟาร์มไก่เนื้อจำนวน 5,000 ตัว และทรัพย์ สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
พล.ต.ต.พุทธิชาตกล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ตำรวจ ปส.ได้สืบทราบว่ามีการนำยาบ้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว เพื่อนำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เป็นเครือข่ายชาวม้ง อ.ภูซาง ร่วมกับชาวม้ง จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่ ลักลอบนำยาบ้าเข้ามาทางชายแดนด้าน อ.ท่าลี่ จ.เลย เจ้าหน้าที่สกัดจับกุมได้เกือบยกแก๊ง
สอบสวนทราบว่าขบวนการนี้กระจาย ยาเสพติดไปทั่วประเทศ เคยขนมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดที่ถูกจับกุมเป็นครั้งที่สี่ สำหรับครั้งแรกขนยาบ้าเข้ามาช่วงเดือนพ.ค.-ธ.ค. 2556 จำนวนยาบ้าประมาณ 1.5 ล้านเม็ด ครั้งที่สองเดือนม.ค. 2557 จำนวนยาบ้าประมาณ 2 ล้านเม็ด ครั้งที่สามวันที่ 20-21 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวนยาบ้ากว่า 2.2 ล้านเม็ด แต่ละครั้งจะมีผู้ว่าจ้างเป็นกลุ่มเดิม เป้าหมายอยู่ที่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในเขต จ.เพชรบุรี นนทบุรี ชัยนาท ปทุมธานี และนครสวรรค์เป็นหลัก
โดยในส่วนของจังหวัดเพชรบุรีมีนายธิติพงษ์เป็นผู้ค้าคนสำคัญ และมีน.ส.สาวิตรี และน.ส.แอน เป็นผู้ร่วมขบวนการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการโอนเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงได้รวบรวมหลักฐาน การซัดทอดจากผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้า และตรวจสอบร่องรอยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และขอหมายศาลอาญาออกหมายจับ และเข้าจับกุมได้ในที่สุด
วันเดียวกัน นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงถึงผลร่วมอำนวยการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงภาคเหนือ รวม 49 เป้าหมาย อายัดทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายโยงใยกันลำเลียงยาเสพติดเป็นทอดๆ แบ่งเป็น 3 ทีม ทีมที่ถูกจับกุมได้เป็นทีมที่สอง โดยทีมแรกขนจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านมาส่งให้กับทีมที่สอง ซึ่งรอรับช่วงต่อในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วลำเลียงมาเก็บพักไว้ในพื้นที่ตอนใน เพื่อรอส่งต่อให้ทีมที่สาม ลำเลียงส่งต่อกลุ่มลูกค้าพื้นที่ชั้นในและจังหวัดใกล้เคียง เช่น กรุงเทพฯ จ.เพชรบุรี จ.ชัยนาท จ.ราชบุรี และ จ.สงขลา โดยกลุ่มลูกค้านอกจากเป็นผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และนักค้ายาเสพติดรายย่อยแล้ว ยังมีนักโทษในเรือนจังหวัดราชบุรีเป็นผู้ติดต่อสั่งการ
"เจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบ ตำรวจ ปส. ร่วมกับสำนักงานป.ป.ส. สืบสวนขยายผลและยึดอายัดทรัพย์สิน เครือข่ายนี้ตามพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 6 และมาตรา 8 รวม 23 คน ทั้งหมด 49 เป้าหมาย ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.อุตรดิตถ์ จ.นครสวรรค์ จ.ตาก จ.ชัยนาท จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และกรุงเทพฯ" นายเพิ่มพงษ์กล่าว
สำหรับ ปฏิบัติการขยายผลจับกุมขบวน การนี้มีพล.ต.อ.พงศพัศเป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการเป้าหมายในพื้นที่ จ.เชียงราย มีตำรวจ ปส.และทหารลงพื้นที่ปฏิบัติการ ในส่วนของสำนักงานป.ป.ส.สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมยึดอายัดทรัพย์สิน และจัดระบบบริหารจัดการทางไกล ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผ่านแอพพลิเคชั่น CLEAR SEA ที่สามารถส่งภาพเคลื่อนไหวผ่านโทรศัพท์มือถือ เข้าสู่ห้องบัญชาการของ ศปก. ป.ป.ส. ทำให้สามารถสั่งการได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งสามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานการปฏิบัติงานอีกด้วย
เลขาธิการป.ป.ส.กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบ ตำรวจ ปส.ที่ร่วมกันปฏิบัติการในวันนี้ โดยตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมาสามารถจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายนี้รวม 13 คดี ของกลางยาบ้า 18.8 ล้านเม็ด และไอซ์อีก 10 กิโลกรัม เป็นเครือข่ายใหญ่มีคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก เส้นทางการลำเลียงตั้งแต่เหนือจรดใต้ และจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ การปูพรมยึดอายัดทรัพย์สินครั้งนี้ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถือเป็นการตัดวงจรทางการเงินของเครือข่ายได้ระดับหนึ่ง