WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1บกโดงรบ

บิ๊กโด่งรับ มีค่าหัวคิวราชภักดิ์ แต่ให้บริจาคคืน ถือว่าเรื่องจบแล้ว ปัดพูดถึงพ.อ.โจ้ ทัพภาค 3 ชงปลด ถอดยศคชาชาต

       'บิ๊กโด่ง' รับมีจริง-ค่าหัวคิวอุทยานราช ภักดิ์ แต่เข้าไปจัดการแล้ว โดยโรงหล่อนำเงินบริจาคให้กองทัพ ทุกอย่างจบด้วยความเรียบร้อย-สะอาดบริสุทธิ์ ยันไม่หนักใจพร้อมชี้แจงเรื่องเงินบริจาค ปัดพูดถึงพ.อ.คชาชาต ด้าน'บิ๊กตู่' สั่งสอบทุจริตอุทยานราชภักดิ์-ไม่สนยศใหญ่แค่ไหน เผยรับรายงานหมอหยองตายแล้ว ขณะที่ 'บิ๊กป้อม'เผยคุยกับบิ๊กโด่งแล้ว แนะให้เตรียมหลักฐานชี้แจง ยืนยันไม่ปกป้องใคร รับถ้ามีทุจริตจริงกองทัพก็เสียชื่อ ไม่รู้โยงพล.ต.พัวพันแอบอ้างเบื้องสูง ทัพภาค 3 ชงปลดพ.อ.คชาชาตออกจากราชการ-เสนอถอดยศด้วย 'บิ๊กต๊อก'สั่งพาเลขาฯหมอหยองไปตรวจร่างกาย-หวั่นป่วยอีก ส่วน 'จักรทิพย์' ถกชุดคลี่คลายคดี เผยหมอหยอง-ส.ว.เอี๊ยดตายไม่กระทบ ชี้สำนวนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว-รอสรุปส่งอัยการ ตร.เร่งคุ้ยปมอุทยาน ราชภักดิ์ เค้นผู้รับเหมา-โรงหล่อ

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9114 ข่าวสดรายวัน

ราชภักดิ์ - พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ชี้แจงโครงการอุทยานราชภักดิ์ ยอมรับมีเรื่องเก็บค่าหัวคิวจากโรงหล่อจริง แต่แก้ปัญหาโดยเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค เรื่องจึงจบไปแล้ว

 

      จากกรณีเจ้าหน้าที่ออกหมายจับและคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงไปเรียกรับผลประโยชน์ โดยอ้างโครงการสำคัญ นำโดยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ก่อนคุมตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) แต่หมอหยองมีอาการป่วยและ เสียชีวิต โดยกรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ระบุสาเหตุจากติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะที่ศาลทหารออกหมายจับพ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 ฐานแอบอ้างเบื้องสูงเรียก รับผลประโยชน์ ส่วนราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศให้ถอดยศทหาร-เรียกคืนเครื่องราชฯ จากพล.ต.พิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา นอกจากนี้ยังพบข้อมูลเชื่อมโยงถึงพล.ต. เกี่ยวข้องด้วย ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

บิ๊กโด่งพร้อมแจงปมราชภักดิ์

     สำหรับ ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีตผบ.ทบ. และประธานมูลนิธิ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงการตรวจสอบความผิดปกติในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า เจตนาในการดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ตั้งแต่ต้นเป็นเจตนาบริสุทธิ์ มีความตั้งใจดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ การดำเนินการเป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการ เพราะเป็นโครงการใหญ่ มีคณะกรรมการ มีคณะอำนวยการที่มีพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน นอกจากนี้ ยังตั้งคณะอนุกรรมการซึ่งทำงานแตกต่างกันออกไป

     พล.อ.อุดมเดชกล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์จริงๆ แต่อาจมีบางเรื่องราวที่มีปัญหา โดยคณะทำงานพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์หมดแล้ว การดำเนินการต่างๆ จนถึงขณะนี้คณะกรรมการและคณะทำงานทุกชุดพร้อมที่จะชี้แจง หากมีการสอบถามมาจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็พร้อมชี้แจง ซึ่งความจริงการชี้แจงเป็นสิ่งที่ดีที่ประชาชนจะได้ทราบในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ข่าวที่ออกมาเท่าที่ดูออกมาเป็นท่อนๆ ซึ่งไม่มีท่อนจบว่าออกมาด้วยดีอย่างไรและคณะกรรมการทำอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการพร้อมชี้แจง

     พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า ขอเรียนว่าการดำเนินการในเรื่องนี้สมัยที่เป็นผบ.ทบ. ส่วนใหญ่เป็นกำลังพลของกองทัพบกที่เข้ามาดำเนินการและแต่งตั้งลงไป แต่ในส่วนของมูลนิธิได้จัดตั้งภายหลังในช่วงท้ายของปีงบ ประมาณ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อแบ่งเบาภาระของกองทัพบก ไม่ให้การทำงานอุทยานฯ ไปเกี่ยวข้องกับงานอื่นแบบทาบทับกัน จึงจำเป็นต้องตั้งมูลนิธิขึ้นมา โดยมูลนิธินี้ผบ.ทบ.เป็นประธานโดยตำแหน่ง ในช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งเปลี่ยนผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วจะต้องมอบให้ผบ.ทบ.คนปัจจุบันและคนอื่นๆ ในอนาคตต่อไปเข้ามาดำเนินการเป็นประธานมูลนิธิโดยไม่จบสิ้น และจะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบ ถือเป็นการแบ่งเบาภาระเฉพาะเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องงบประมาณที่เกิดขึ้นก็ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว ควรแยกเป็นการเฉพาะสำหรับมูลนิธิขึ้นมา นี่คือการบริหารงาน แต่ตอนนี้อุทยานถือว่าดำเนินการมาเสร็จสิ้นส่วนหนึ่ง ประชาชนมีความศรัทธา บูชากราบไหว้ ตนก็มีความดีใจที่เป็นสมบัติของชาติที่มีความสำคัญ

รับมีแอบอ้างเก็บหัวคิวจริง

    รมช.กลาโหมกล่าวด้วยว่า ส่วนงานที่เหลือตั้งใจว่าจะให้คณะกรรมการที่จัดตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเป็นคนดำเนินการ แต่เท่าที่ดูงานที่เหลือก็ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการหรือการควบคุมงานต่างๆ ต้องมีหน่วยใหญ่ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการ จึงอยากให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันที่มีกองทัพบกดูแลเป็นคนเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้พูดคุยกันแล้วระดับหนึ่งว่าจะให้ผบ.ทบ.แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน โดยงานที่เหลือยังมีห้องประวัติศาสตร์หัวใจสำคัญที่จะให้ประชาชนและต่างชาติได้เข้ามาศึกษา เรื่องของห้องน้ำ ห้องสุขาขนาดใหญ่ เพื่อรองรับคนจำนวนมาก 160-200 ห้อง อาคารมูลนิธิซึ่งยังไม่มี เหล่านี้เป็นต้น ดูแล้วศักยภาพต้องเป็นกองทัพบกเท่านั้น

     "ขอเรียนว่าสิ่งต่างๆ ได้เกิดจากความตั้งใจดี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสมบัติของชาติ ถาวรวัตถุต่างๆ นั้นยังตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก ตามนิตินัยกองทัพบกยังเป็นเจ้าของ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นการช่วยเหลือและสมัครใจบริจาคของประชาชน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นสมบัติของชาติด้วย ก็ขอให้สบายใจ" พล.อ.อุดมเดชกล่าว

     ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นเรื่องเงินบริจาคกับพ.อ.คชาชาต บุญดี ผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูงจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนไม่ขอลงรายละเอียดมากนัก แต่เรื่องเงินบริจาคทั้งหมดเรามีเจ้ากรมการเงินทหารบกเป็นผู้รับผิดชอบในการทำหลักฐานและรายละเอียดต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าเงินเข้าออกจำนวนเท่าไร และใครเป็นคนบริจาค เรื่องนี้คณะกรรมการสามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ทั้งหมด

     เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีเซียนพระคนหนึ่งไปไล่เก็บหัวคิวจากโรงหล่อ ตรงนี้ได้แก้ไขปัญหาอย่างไร พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เรื่องนี้มีส่วนความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตนคิดว่าทุกวงการก็มีสิ่งเหล่านี้ แต่พอเราทราบว่าน่าจะมีเราก็เข้าไปดำเนินการ โรงหล่อต่างๆ ก็มีความเข้าใจ คนที่สอดแทรกมาก็เป็นการแอบอ้าง แต่ทุกอย่างยุติลงด้วยดี สิ่งที่โรงหล่อต่างๆ อาจจะถูกหลอก โรงหล่อต่างๆ ก็ไม่อยากให้เกิดอะไรเสียหาย เขาจึงบริจาคโดยสมัครใจส่วนหนึ่ง อีกบางส่วนโรงหล่อก็นำไปใช้ทำองค์พระให้สมบูรณ์ ทุกอย่างจบเสร็จด้วยความเรียบร้อย สะอาด บริสุทธิ์ทุกขั้นตอน

ยันไม่หนักใจ-พร้อมชี้แจง

      เมื่อถามว่าทั้งหมดของเงินบริจาคที่ถูกหักหัวคิวไป ทางโรงหล่อนำกลับมาบริจาคให้กับกองทัพใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเช่นนั้น ตนไม่รู้ในรายละเอียดจริงจัง แต่ชี้แจงได้หมดแน่นอน เป็นเรื่องของคณะทำงานแต่ละคณะ ส่วนเงินเป็นเรื่องของเหรัญญิก ซึ่งเจ้ากรมการเงินทหารบกสามารถชี้แจงได้ จะบริจาคเท่าไรและอย่างไรเจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงได้หมด ขอให้มั่นใจ ซึ่งตนมั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งบริสุทธิ์ และประชา ชนยังมีโอกาสที่จะช่วยกันสร้างสรรค์ต่อไป ขอเรียนว่าคนที่ไม่เข้าใจก็ขอให้ได้เข้าใจ อาจมีผู้ไม่ปรารถนาดีด้วยสิ่งใดก็ตามขอให้หยุดเถอะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องศรัทธาของคน ให้ประชาชนได้มีความศรัทธา ตนมั่นใจในสิ่งบริสุทธิ์เหล่านี้

      "เรื่องนี้ไม่หนักใจ เพราะชี้แจงได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็แปลกดีตั้งแต่ช่วงหนึ่งแล้วมีอะไรออกมา แต่พอมีอีกเหตุการณ์ออกมาเป็นสถานการณ์หลัก ณ ช่วงเวลานี้เรื่องนี้ก็ถูกหยิบกลับมาโยงเข้าไปอีก ยืนยันเรื่องนี้ตรวจสอบได้ ไม่หนักใจใดๆ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของความบริสุทธิ์" พล.อ.อุดมเดชกล่าว

    เมื่อถามถึงพ.อ.คชาชาต ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเขาเลย อันนั้นให้เป็นเรื่องของการสอบสวนไป และเรื่องนี้ไม่กระทบต่อการทำงานของตน คณะกรรมการทุกคนพร้อมชี้แจง ยืนยันว่าทุกอย่างทำด้วยความตั้งใจดี บริสุทธิ์ใจ และอยากให้สิ่งนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป และ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ให้การสนับสนุนทั้งสิ้น เมื่อมีอุบัติเหตุขึ้นมาบางคนอาจสงสัยก็ต้องชี้แจง

บิ๊กตู่รับรายงาน"หยอง"ตาย

     ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีหมอหยองเสียชีวิตในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีว่า เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีไม่ใช่เรือนจำของทหาร แต่เป็นพื้นที่ของทหารเดิม โดยกรมราชทัณฑ์มาขอใช้พื้นที่ ฉะนั้นการดูแลต่างๆ เป็นของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น การจะขอเจ้าพนักงานเพิ่มเติมช่วยเหลือก็ขอได้ แต่เป็นเรือนจำที่อยู่ ภายใต้สังกัดของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเรือนจำมีจำนวนไม่พอเพียงและไม่เหมาะสม กรมราชทัณฑ์จึงทำเรื่องขอมา ไม่ใช่พอนักโทษเข้ามาอยู่ในคุกทหารแล้วจะเป็นโน้นเป็นนี้ ไม่ใช่ ก็ใช้ระบบการดูแลเหมือนเรือนจำอื่นๆ พอไปใช้คำว่าเรือนจำทหารก็ตกใจกันหมด ทหารมันใจร้าย ไม่ใช่ทหารมันใจดี ไม่มีใจร้าย

      เมื่อถามย้ำว่าแต่เกิดกรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตติดต่อกัน 2 ราย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ฟังแพทย์ชี้แจงดีกว่า แพทย์แถลงว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เราไม่ใช่แพทย์จะรู้ได้อย่างไร ไม่มีใครอยากให้มีใครตายทั้งนั้น จะมีใครอยากให้คนตาย

      เมื่อถามว่ารมว.ยุติธรรมรายงานถึงการเสียชีวิตของหมอหยองมาหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รับทราบแล้ว มีการรายงานมาตามขั้นตอนของกฎหมาย มีผลการพิสูจน์ ชันสูตรศพของแพทย์เรียบร้อย ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องตนจะสั่งการได้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ต้องมีแพทย์กันแล้ว ทุกอย่างมีขั้นตอนมาตามลำดับ ญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ตนไม่ได้เป็นคนชี้เป็นชี้ตายทุกเรื่องเสียเมื่อใด

สั่งลุยสอบทุจริตราชภักดิ์

     "สำหรับคนที่พยายามพูดโยงนู่นโยงนี่ ผมไม่สนใจตรงนี้ ผมบอกแล้วว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของทั้งหมด ผิดก็ว่าไปตามผิดก็แล้วกัน ก็ระมัดระวังการเสนอข่าวให้ดี ผมไม่ได้ห้ามแต่เบาๆ ลงบ้างก็ดี ถ้าหวังให้ทหารตำรวจทำวันเดียวทำไม่สำเร็จ" นายกฯ กล่าว

     เมื่อถามถึงความคืบหน้าการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ดำเนินการสอบสวนไปตามขั้นตอน ทุจริตใครผิดก็ ต้องสอบ ใครเกี่ยวโยงตรงไหนก็ไปสอบมา จะยศใหญ่แค่ไหนก็ต้องไปสอบมา แต่ถ้ายัง ไม่สอบก็อย่าไปว่าให้เขาเสียหาย มีอีกตั้งเยอะที่ทำมา ส่วนใหญ่เป็นส่วนที่ดี มีส่วนเล็กๆ ที่มันไปทำผิดก็ไปว่ากัน ไม่ใช่ไอ้นี่ทำผิดปั๊บก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ทั้งหมด เลวทั้งหมดไม่ใช่ สมมติสื่อคนหนึ่งไม่ดี แล้วสื่อทั้งหมดเลวหรือไม่ก็ไม่ใช่ สื่ออย่าไปพูดอะไรแล้วทำให้องค์กรเขาเสียหาย ตำรวจทำผิดคนเดียวก็ไปกล่าวหาว่าตำรวจเลวทั้งหมด ไม่ได้ คนทำดี เหนื่อยแทบตายก็มีเยอะอยู่ ผมดูแล้วตำรวจทำดีมีมากกว่าทำเสีย ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ คนทำดีมีเยอะกว่า ถ้าส่วนดีมีไม่เยอะกว่า ป่านนี้คงเลวกันไปหมดแล้ว

บิ๊กป้อมเผยคุย"บิ๊กโด่ง"แล้ว

    ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า เชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องพร้อมชี้แจงทุกอย่าง ส่วนตนได้คุยกับพล.อ.อุดมเดช ก่อนหน้านั้นนานแล้ว ทั้งการใช้งบประมาณต่างๆ ก็ได้บอกไว้ว่าให้เตรียมพร้อม เตรียมหลักฐานต่างๆ เอาไว้ จะต้องชี้แจงและตอบคำถามให้ได้ โดยพล.อ. อุดมเดช ระบุว่าทุกอย่างทำตามขั้นตอน

    เมื่อถามถึงพ.อ.คชาชาต ถูกแจ้งความจับนั้นมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของอุทยาน ราชภักดิ์อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพ.อ.คชาชาต เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องให้พล.อ.อุดมเดช ซึ่งดำเนินการในเรื่องนี้เป็นผู้ชี้แจงเอง ตนไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนจะแถลงข่าวหรือไม่ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการคุยกัน เท่าที่คุยทราบว่าพล.อ.อุดมเดช พร้อมชี้แจงและเรื่องการสอบสวนทุกอย่าง ยืนยันไม่มีเรื่องทุจริตอย่างแน่นอน เรื่องนี้คิดว่าตำรวจต้องสอบสวนก็ไม่เป็นไรดำเนินการไปตามขั้นตอน เรื่องของกฎหมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ระเบียบบังคับก็ว่ากันไป ไม่มีบิดพลิ้ว ต้องชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทุกเรื่อง ที่ไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน

    เมื่อถามว่าการชี้แจงถือว่าช้าไปหรือไม่ เพราะขณะนี้มีหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว เช่น พ.อ.คชาชาต พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน เป็นเรื่องส่วนบุคคล ส่วนเรื่องการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เป็นเรื่องของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ที่ต้องชี้แจง กองทัพบกไม่เกี่ยว

     เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะโยงไปถึงทหารยศพล.ต. ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการแอบอ้างสถาบันด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างต้องเปิดเผยให้สังคมรู้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องสาธารณประโยชน์และประชาชน ที่ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อก่อสร้าง ขอย้ำว่าจะมีการชี้แจงและสอบสวน

ยันไม่ปกป้อง-รอตร.สอบสวน

     เมื่อถามว่าพล.อ.อุดมเดชยอมรับมีการ หักหัวคิวโรงหล่อในการก่อสร้างอุทยานราช ภักดิ์ แต่พูดคุยกันลงตัวแล้ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมไม่รู้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จะทุจริตหรือไม่ทุจริต ตำรวจและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะสอบสวนให้ชัดเจน มาตอบตอนนี้ไม่ได้ เหมือนดูหนังเรื่องยาว เมื่อดูมาถึงตรงนี้แล้วออกมาพูดตอนนี้คงไม่ได้ ต้องมีจุดเริ่มต้นแล้วตอนจบอย่างไรถึงจะรู้ ไปพูดตรงกลางหรือตอนท้ายเพียงนิดเดียวก็ไม่เข้าใจ ฉะนั้นอย่าพูดเลยดีกว่า"

    เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะตกเป็น เป้าโจมตีว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 157 ในการดำเนินโครงการดังกล่าว พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า "ไม่มี ให้สอบสวนก่อน อย่าเพิ่งคิดไปข้างหน้าให้มาก เพราะคนที่เขาทำงานก็จะเครียดเปล่าๆ ผมรับรองว่ารมช.กลาโหมจะออกมาชี้แจง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทุกเรื่อง จะพูดนิดเดียวแล้วไปขยายต่ออีกก็จะไปกันใหญ่ เพราะเรื่องยังไม่จบ ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว ว่าผิดหรือถูกจะต้องทำอย่างไร ไม่ต้องห่วง ยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้อง ผมคงไม่เอาชื่อเสียงของผมไปปกป้องใคร ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมายและทุกคนเท่าเทียมกันหมดที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบวินัย ไม่เช่นนั้นกองทัพอยู่ไม่ได้"

พร้อมร่วมมือล่า"พ.อ.โจ้"

     ต่อข้อถามว่า หากพบการผิดทุจริตจริงจะส่งผลต่อกองทัพและคสช.ที่ประกาศว่าจะเข้ามาปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือ ไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้ามีจริงกองทัพก็ เสียชื่อ ตนยังเชื่อว่ากองทัพไม่มี สำหรับงาน อื่นๆ ที่เข้ามาทำงานร่วมกับกองทัพนั้น ไม่ทราบ ส่วนที่ถามว่าทุจริตแล้วมีความผิดหรือไม่นั้น ก็มีกฎหมายอยู่แล้วว่าทุจริต คือความผิดและต้องโดนมาตรานั้นถ้าผิดจริง แต่อย่าเพิ่งไปถามถึงคนโน้นคนนี้ว่าจะทำอย่างไรกับเขาเพราะเขายังไม่ผิด

    เมื่อถามว่า ในฐานะรมว.กลาโหมจะประสานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามตัวพ.อ.คชาชาติ กลับมาดำเนินคดีด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจที่จะติดต่อประสานงานกัน ในส่วนของทหารหากตำรวจร้องขอความร่วมมือมาก็ต้องดำเนินการ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจแล้ว ไม่ใช่เรื่องของทหาร เพราะทหารคนดังกล่าวไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ชงปลด-ถอดยศพ.อ.คชาชาต

      รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังพล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีพ.อ.คชาชาต ขาดราชการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. โดยกองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการตามขั้นตอน และมีคณะกรรมการสอบสวนที่มีพล.ต.คู่ชีพ เลิศหงิม รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน แต่ในขณะนี้ศาลทหารได้ออกหมายจับพ.อ.คชาชาต ฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องรอให้ครบกำหนดการขาดราชการ 15 วันตามระเบียบราชการทหาร ทางคณะกรรมการจะเสนอเรื่องให้ปลดพ.อ.คชาชาต ออกจากราชการ เพื่อเสนอต่อพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ภายในวันเดียวกันนี้ จากนั้นจะเสนอถอดยศตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้การกระทำความผิดมาตรา 112 เป็นการดำเนินการก่อนที่พ.อ.คชาชาต จะถูกปรับย้ายตำแหน่งมาอยู่กองทัพภาคที่ 3

สั่งตรวจร่างกายเลขาฯหยอง

      ขณะที่พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเสียชีวิตของผู้ต้องหา ประกอบด้วย พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ที่ผูกคอตาย และนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ที่เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะถูกคุมขังในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 ที่เหลือเพียงรายเดียวและยังถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนไชยศรี ไปตรวจร่างกายเพื่อดูว่าป่วยเป็นโรคอะไรหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีประเด็นมองการเสียชีวิตในแง่ไม่ดี ต้องเข้าใจว่าการเสียชีวิตในลักษณะนี้ไม่ได้มีรายเดียว มีผู้ต้องขังกว่า 3 แสนกว่ารายที่อยู่ในเรือนจำก็มีการเสียชีวิตแบบนี้เช่นกัน ทั้งการผูกคอตายและจากโรคประจำตัวมีมาตลอด

      "อย่างการผูกคอตายเป็นการตัดสินใจ แก้ปัญหาของเขาเอง แต่การจะพูดอะไร ต้องเคารพผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนการเสียชีวิต จากโรคต่างๆ ก็มีอยู่ตลอดเวลาในแต่ละราชทัณฑ์ อยากให้เข้าใจเรื่องอย่างนี้ และ ได้รายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เป็นการภายใน แล้ว โดยไม่ได้ชี้แจงในที่ประชุมครม." พล.อ. ไพบูลย์กล่าว

ผบ.ตร.ชี้สำนวนเกือบเสร็จแล้ว

     ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหาผลประโยชน์ ความผิดตามมาตรา 112 โดยมีพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน เข้าร่วมหารือ

     พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเร่งรัดในคดีการแอบอ้างสถาบันเรียกรับผลประโยชน์ตามมาตรา 112 ในส่วนของนายสุริยัน นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขานุการของหมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม ซึ่งเป็นไปตามที่ตนกำหนดเวลาไว้ภายใน 3 สัปดาห์ ต้องมารายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีและส่งสำนวนมายังตร. โดยจะ ครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย.นี้ จึงเรียก มาประชุม

      ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีพ.ต.ต.ปรากรม และนายสุริยัน ที่เสียชีวิต พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่มีปัญหาต่อการสืบสวนสอบสวนทางคดี

     เมื่อถามว่าขณะนี้สำนวนคดีในส่วนของความผิดมาตรา 112 คืบหน้าไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงรายละเอียดทางเอกสารเท่านั้น นอกนั้นก็ครบถ้วนหมดแล้วและจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ในเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่านอกจากคดีตามมาตรา 112 แล้วจะขยายผลเพิ่มเติมไปยังกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการแอบอ้างสถาบัน หาผลประโยชน์ของผู้ต้องหาในชุดแรกเท่านั้น ยังไม่ขยายผลไปถึงส่วนอื่น

     เมื่อถามถึงกรณีผู้ต้องหาที่หลบหนีออกไปต่างประเทศ ตำรวจดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่

ตร.เค้นผู้รับเหมาทำราชภักดิ์

     สำหรับ การสืบสวนเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูง รายงานข่าวแจ้งว่า การสืบสวนการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ในเรื่องขั้นตอน การจัดสร้างรูปหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ รวมถึงตรวจสอบการจัดโครงการสำคัญที่ได้จัดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้การสอบปากคำผู้รับเหมา จัดสร้างรูปหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ ทางชุดคลี่คลายคดีได้เชิญตัว มาสอบปากคำ เพื่อขอข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนของการจัดสร้างอื่นๆ เช่น จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ ชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ซึ่งอาจต้องเชิญ ผู้รับเหมามาสอบปากคำด้วย

      รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสืบสวนยังพบด้วยว่า นายสุริยันและพวกได้แอบอ้างเบื้องสูงแล้วขอเงินสนับสนุนโครงการสำคัญที่กำลังจะจัดขึ้น โดยของบสนับสนุนจากบริษัทน้ำดื่มยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งกว่า 100 ล้านบาท เพื่อจัดทำเสื้อ แต่บริษัทดังกล่าวระบุกับกลุ่มของนายสุริยันว่าต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดบริหาร เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่สูง ต่อมาภายหลังทราบว่ามีการแอบอ้าง บริษัทดังกล่าวจึงไม่ให้เงินไป นอกจากนี้กลุ่ม ผู้ต้องหายังของบสนับสนุนจัดทำเข็มกลัดในโครงการสำคัญจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง เป็นเงิน 10 ล้านบาท แต่บริษัทดังกล่าวได้ จ่ายเงินมาให้ 5 ล้านบาท ก่อนนายสุริยันจะ ถูกจับกุมในเวลาต่อมา

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!