- Details
- Category: กองทัพบก
- Published: Sunday, 08 November 2015 18:46
- Hits: 9912
ตร.สอบ'โรงหล่อ' ราชภักดิ์ มัดเซียน'อ.'พลตรี เจอสวนต่าง-พระบรมรูป วินธัย แถลงยันไม่มีทุจริต สอบ'สาว'อสังหาฯโยงพ.อ.
บช.ก.ลุยสอบโรงหล่อกราวรูด เจอชัด เงินส่วนต่างสร้าง 7 พระ บรมราชานุสาวรีย์ เพื่อไปจัดตั้งในอุทยานราชภักดิ์ มัดเซียนพระ'อ.' เชื่อมโยง 2 นายทหาร พล.ต.-พ.อ. ด้านวินธัย โฆษก ทบ.แถลงโต้ ไม่มีการทุจริตสร้างอุทยานราช ภักดิ์ พร้อมเร่งตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์ในภาคเหนือ หาเส้นทางการเงินของพ.อ. หลังพบแต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไปรับหญิงสาว คนสนิทเจ้าของร้านตัดเสื้อในจ.เชียงใหม่ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันไปรับเช็คค่าจัดทำเสื้อวันกิจกรรมสำคัญ กับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
วันที่ 08 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9111 ข่าวสดรายวัน
เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 7 พ.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีบางสื่อนำเสนอข่าวว่า แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการสืบสวนแกะรอยคดีแอบอ้างสถาบันหาประโยชน์จากผู้ต้องหา ที่นำโดยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ที่พบว่ามีนายทหารยศพล.ต.และพ.อ. เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทั้งในส่วนของการหล่อองค์พระรูปทั้ง 7 พระองค์ และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนั้นว่า จากข้อมูลล่าสุดที่ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พบว่ายังไม่มีข้อมูลลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนก่อสร้างเพราะการดำเนินโครงการเป็นในลักษณะของระบบงานราชการ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นที่เปิดเผยในทุกขั้นตอน จึงเป็นไปได้ยากมากที่จะมีบุคคลใดๆ เข้าไปทำให้เกิดข้อกังวล
โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า แต่สำหรับกิจกรรมเสริมพิเศษ เช่น การปั่นจักรยานหรือการจัดแสดงดนตรีเพื่อประชาสัมพันธ์เป็นการดำเนินการในลักษณะผสม จึงอาจมีงานบางส่วนที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาร่วม แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวเข้ามามีส่วนในการจัดการอะไรในส่วนนี้ สำหรับนายทหารที่สื่อพาดพิงถึง เนื่องจากสังกัดกองทัพบกอาจเป็นผู้ประสานกิจกรรมย่อยต่างๆ เหล่านี้ ส่วนในช่วงที่ประสานงานจะมีข้อบกพร่องใดๆ หรือไม่ ถ้าเกิดข้อสงสัยและได้รับการประสานมาก็สามารถร่วมกันตรวจสอบหาข้อเท็จจริงได้
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวพาดพิงถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แสดงจุดยืนกรณีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมาตรา 112 ที่กำลังสืบสวนในปัจจุบันว่า จุดยืนของนายกฯ ชัดเจนตั้งแต่วันแรกคือเพื่อแก้ปัญหาประเทศ และคืนความสุขให้คนไทยทั้งชาติ ถึงทุกวันนี้จุดยืนเพื่อส่วนรวมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
"ความจริงแล้ว สังคมคงอยากรู้ว่าจุดยืนที่ทำเพื่อคนเพียงคนเดียวของคุณจตุพร ควรเปลี่ยนได้หรือยัง รวมทั้งการปล่อยให้ผู้ที่ถูกยุยงให้กระทำผิดรับโทษไป ขณะที่ผู้บงการหรือสั่งการจริงยังคงหลบหนี ประเทศไทยควรปลดล็อกการยึดติดแบบไร้ความชอบธรรมและคุณธรรมเช่นนี้แล้ว ควรก้าวผ่านความขัดแย้งไปสู่สังคมที่พร้อมเดินหน้าพัฒนา เราเสียเวลาประเทศไปมากแล้ว" โฆษกรัฐบาลกล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานความคืบหน้าของคดีแอบอ้างสถาบันต่อนายกฯ เป็นระยะ ซึ่งนายกฯ ได้มอบแนวทางที่ชัดเจน คือ การสืบสวนสอบสวนต้องทำด้วยความรอบคอบเสมอภาคกัน ทุกคนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือประชาชน ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากพบว่าใครมีความผิดต้องรับโทษโดยไม่มีการละเว้น
วันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง ได้มีการสอบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่อำเภอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพนักงานสอบสวนได้เข้าสอบปากคำนายอเนก หงษ์มณี เจ้าของโรงหล่อปะติมากรรม ไฟน์อาร์ท เลขที่ 89 หมู่ 12 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ที่รับงานจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยนายเอนกให้การว่าเมื่อประมาณเดือนตลุาคม 2557 ได้รับการติดต่อจาก"นายอ."เซียนพระคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ให้ติดต่อให้ไปพบที่หน่วยงานทหาร ถนนราชดำเนิน เพื่อพูดคุยให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ 7 พระองค์ หลังจากที่ได้เข้าไปพูดคุย จนนายเอนกได้รับสัญญาจ้างให้หล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยตกลงค่าจ้างที่ราคา 44 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ โดยในการจัดสร้างต้องประสานกับพล.ต.ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตลอด
นายเอนก ให้การต่อว่า การจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ครั้งนี้ ทางตนต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เซียนพระดังกล่าวเป็นค่าตอบแทนที่ให้ได้จัดสร้างครั้งนี้ เป็นจำนวนเงิน 10% ของราคาค่าว่าจ้างด้วย
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้สอบปากคำ นายเครน กุญชศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โผนประติมากรรมสากล จำกัด เลขที่ 13/7 ม.2 ถ.เอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ให้การว่า เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายเครนได้รับการติดต่อจาก"นายอ."เซียนพระคนเดียวกัน ให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์เพื่อไปจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ พร้อมทั้งยังแนะนำผู้ที่จะเข้ามารับงานให้กับนาย อ.อีก 4 บริษัท คือ บริษัท ช.ปฏิมา, บริษัทร็อคคาไฟล์, บริษัทพุทธปฏิมา, บริษัทปฏิมาไฟน์อาร์ท โดยนาย อ.เป็นผู้ดำเนินการติดต่อด้วยตนเอง ซึ่งนายเครนได้รับงานสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ความสูง 16 เมตร ตกลงทำสัญญากับกองทัพบก ที่ราคา42ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 นั้น ในการเสนอราคากับกองทัพบก เซียนพระคนดังกล่าว ให้ทำใบเสนอราคาเป็นเงิน 42 ล้านบาท นายเครน จะได้รับเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าจ้างงาน ส่วนเซียนพระจะได้รับเงินค่านายหน้า 12 ล้านบาท หักลบเงินภาษีมูลค่าเพิ่มไป4ล้านบาท เซียนพระจะได้รับเบ็จเสร็จ 8 ล้านบาท โดยเซียนพระจะได้รับเงินค่านายหน้าจากนายเครนเป็นงวดๆ งวดแรกประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ จำนวนเงิน 3.2 ล้านบาท นัดกันจ่ายเงินที่พุทธมหาอุทยานหลวงปู่ทวด จ.พระนครศรีอยุธยา งวดที่ 2 เดือนพฤษภาคม สั่งจ่ายเงินให้นายอ. เป็นเช็คเงินสดธนาคารทหารไทยสาขากองทัพบก เลขที่ 04540806 โดยบอกว่าเงินจำนวนนี้เป็นส่วนต่างที่เซียนพระเอาไป เพื่อไม่ให้การก่อสร้างของอุทยานเสียชื่อเสียง
สำหรับค่าจ้างในการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เซียนพระคนดังกล่าว ตกลงในราคา 42 ล้านบาท แต่ได้รับเงินจริงแค่ 30 ล้านบาท ส่วนต่าง 12 ล้านบาท ต้องจ่ายให้กับเซียนพระและในส่วนของภาษีจำนวน 4 ล้านบาท นายอ.จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยนายอ.ได้รับส่วนต่างจริงรวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนั้น ค่าใช้จ่ายเครนและการขนส่ง เป็นจำนวน 1.8 ล้านบาท เป็นเงินที่นายเครนชำระให้กับบริษัทที่มารับเหมาต่อจากกองทัพบก นายเครนไม่ได้เป็นผู้จัดมาหาเอง รับเหมาการขนส่งพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้งหมด
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังมีอีกว่า ชุดสืบสวนของบช.ก.ได้ตรวจสอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตามแนวทางการสืบสวนน่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมกับเชิญตัว"นางจ." มาสอบปากคำ ที่บช.ก. รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดสนง.ที่ดินจว.ลำพูน กรณีทำธุรกรรมโอนที่ดิน วันที่ 30 ต.ค.58 ของนางจ. จากนั้นได้พานางจ.ไปที่สำนักงานขาย พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์และกล้อง ซีซีทีวี ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบการทำธุรกรรม จากนั้นได้นำหมายค้นเข้าค้นบ้านนางจ. พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์ 1 ชุด ก่อนนำตัว เข้ากทม.ไป สอบปากคำที่ บช.ก.พร้อมกับน.ส."ณ." พยานในคดีอีกปาก
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสื่อสารทั้งหมดของผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้องจนพบว่ามีการร่วมกันทุจริตโดยแอบอ้างเบื้องสูงในหลายเรื่อง ส่วนหนึ่งคือการจัดทำเสื้อกิจกรรมสำคัญ Bike for Mom ที่มีการเรียกรับเงินจากบริษัทเอกชนไปมากถึงกว่า 70 ล้านบาท โดยพบว่ามียอดเงินกว่า 20 ล้านบาท เป็นเงินที่ได้มาจากบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง สำหรับประเด็นเรื่องเงิน จำนวน 20 ล้านบาท ที่พบว่ามีนายทหาร ระดับพ.อ. ไปขอรับเงินสนับสนุนมาจากบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งนั้น พบข้อมูลว่านายทหารยศ พ.อ. ได้ติดต่อหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งทราบว่าเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเสื้อแห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 5 มีความสนิทสนมกันมานาน ให้เข้ามาเป็นตัวแทน หรือ นอมินี เพื่อรับสมอ้างที่จะเข้ามารับงานเป็นผู้ผลิตเสื้อยืดที่จะนำมาใช้ในกิจกรรมวันสำคัญที่จะเกิดขึ้น
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ค. นายทหารยศพ.อ.ได้เดินทางมาไปรับหญิงสาวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะเดินทางมาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่มารับเช็คเงินสดที่สั่งจ่ายสำหรับใช้ในการผลิตเสื้อซึ่งในวันดังกล่าว พ.อ.ได้แต่งเครื่องแบบเต็มยศมาด้วย นอกจากนี้ได้ตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินของบริษัทผลิตเสื้อดังกล่าว พบว่ามีการโอนเงินส่วนหนึ่งมายังหมอหยอง ซึ่งคาดว่าเป็นเงินส่วนต่าง ก่อนที่นายสุริยันจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อคอนโดมิเนียมที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับพ.อ.คนดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสเพิ่มเติมในพื้นที่จ.เชียงใหม่ พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านพักและโรงงานภายในจ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ที่มีความสนิทสนมของนายทหารยศ พ.อ.แล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการต่อไป
นอกเหนือจากการทุจริตการจัดทำเสื้อ แล้วนั้น ชุดสืบสวนยังพบอีกว่านายทหารทั้ง 2 นายได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
แฉยิบ'เซียนพระ'ลุยเรียก ส่วนต่าง โรงหล่ออุทยานราชภักดิ์ สอบโยงพล.ต.-พ.อ. 'พันเอก'แต่งเต็มยศ รับ 70 ล้าน-บริษัทดัง'บิ๊กตู่'สั่งตร.รอบคอบ
เผยความผิดปกติโครงการอุทยานราชภักดิ์-หัวหิน 2 เจ้าของโรงหล่อระบุ'เซียนพระ'หนึ่งในคณะกรรมการจัดจ้างได้ค่านายหน้า
ความคืบหน้าการจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง อายุ 53 ปี นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท อายุ 39 ปี เลขาฯหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อายุ 44 ปี ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อมา พ.ต.ต.ปรากรมเกิดความเครียดและผูกคอตาย ขณะที่นายศุกร์โข ตามเสรี หรือเค คนสนิท พ.ต.ต.ปรากรม ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน ส่วน พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งสนิทสนมกับกลุ่มผู้ต้องหา ลาออกจากราชการไปแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวมีนายทหารยศ พล.ต.ที่ถูกพาดพิงยื่นหนังสือลาออก และ พ.อ.เดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดชุดสืบสวนตรวจสอบทุจริตการก่อสร้าง อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อาจมีบุคคลหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้องกับค่าส่วนต่างนั้น
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงกรณีสื่อเสนอข่าวว่ามีการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ถึงการสืบสวนแกะรอยคดีแอบอ้างสถาบันหาประโยชน์จากผู้ต้องหาที่นำโดยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พบความเกี่ยวข้องมีนายทหารยศ พล.ต. และ พ.อ. เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทั้งในส่วนของการหล่อองค์พระบรมรูปทั้ง 7 พระองค์ และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานว่า รับทราบข้อมูลล่าสุดกับทาง ตร.ยังไม่มีข้อมูลลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนก่อสร้าง เพราะเป็นการดำเนินโครงการเป็นในลักษณะระบบงานราชการ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่เปิดเผยในทุกขั้นตอน จึงเป็นไปได้ยากมากที่จะมีบุคคลใดๆ จะเข้าไปทำให้เกิดข้อกังวลสงสัย
"แต่สำหรับกิจกรรมเสริมพิเศษ เช่น การปั่นจักรยาน หรือการจัดแสดงดนตรีเพื่อประชาสัมพันธ์ เป็นการดำเนินการในลักษณะผสม จึงอาจมีงานบางส่วนที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาร่วม แต่ยังไม่มีข้อมูลผู้ต้องหาคนดังกล่าวเข้าไปมีส่วนในการจัดการอะไรในส่วนนี้ สำหรับนายทหารที่สื่อพาดพิงถึง เนื่องจากสังกัดกองทัพบกและอาจเป็นผู้ประสานกิจกรรมย่อยต่างๆ เหล่านี้ ส่วนในช่วงที่ประสานงานจะมีข้อบกพร่องใดๆ หรือไม่ ซึ่งถ้าเกิดข้อสงสัยและได้รับการประสานมาก็สามารถร่วมกันตรวจสอบหาข้อเท็จจริงได้" พ.อ.วินธัยกล่าว
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รายงานความคืบหน้าของคดีแอบอ้างสถาบันต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นระยะ โดยนายกฯได้มอบแนวทางที่ชัดเจนคือ การสืบสวนสอบสวนต้องทำด้วยความรอบคอบเสมอภาคกัน ทุกคนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือประชาชน ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากพบว่าใครมีความผิดต้องรับโทษโดยไม่มีการละเว้น
แหล่งข่าวจากคณะพนักงานสอบสวนเปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนายทหารยศ พล.ต.และ พ.อ.เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง รวมทั้งอาจจะมีความเชื่อมโยงในการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถชี้ชัดถึงตัว พ.อ. ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ในส่วนของ พล.ต.นั้น แม้ว่าทางสืบสวนจะส่อเค้าว่านายทหารคนดังกล่าวน่าจะรู้เห็นในการกระทำความผิด เนื่องจากมีความสนิทกับ พ.อ.แต่การสอบสวนนั้นยังต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะที่มีอยู่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าสามารถดำเนินคดี พล.ต.ได้หรือไม่
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้ เนื่องจาก พล.ต.และ พ.อ.นั้นเป็นนายทหาร ดังนั้น จึงมีกฎระเบียบระบุไว้ว่าหากทั้งสองไม่มาปฏิบัติหน้าที่ 14 วัน ถือว่าขาดราชการ แต่หากไม่มาปฏิบัติราชการครบ 15 วัน จะถือว่าหนีราชการทันที ซึ่งถือว่ามีความผิดทางอาญา จะต้องถูกออกหมายจับในข้อหา หนีราชการ โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษที่สูง รวมทั้งต้องถูกถอดยศทันที เบื้องต้นคาดว่าการอนุมัติหมายจับในข้อหาใดๆ หรือการดำเนินการตามวินัยนั้น จะเห็นความชัดเจนหลังวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบกรณีอุทยานราชภักดิ์นั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างจำแนกราคาของการก่อสร้างและดำเนินการต่างๆ ภายในอุทยานราชภักดิ์เป็นรายชิ้น โดยเปรียบเทียบระหว่างราคารับจ้างจริงกับงบประมาณที่เบิกจ่ายรายชิ้น เพื่อหาช่องโหว่ และดูว่าจุดไหนบ้างที่เกิดการทุจริต ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบค่อนข้างมาก เนื่องจากพบว่ามีหลายบริษัทที่ถูกว่าจ้างให้ดำเนินการ
สำหรับ การหล่อองค์พระบรมรูปทั้ง 7 พระองค์ พบว่ามาจากโรงหล่อ 6 โรงหล่อ ดังนี้ 1.พ่อขุนรามคำแหงมหาราช โรงหล่อ ซ.ปฏิมากรรม อินดัสตรี จำกัด จ.นครปฐม 2.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงหล่อ เอเชีย ไฟน์ อาร์ท จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา 4.สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โรงหล่อ ร็อคคลา ไฟน์อาร์ท จำกัด จ.ลพบุรี 5.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โรงหล่อ ปฏิมาไฟน์อาร์ท (พุทธรังษี) จำกัด จ.ปทุมธานี 6.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โรงหล่อ พุทธปฏิมา พรหมรังสี จำกัด จ.ปทุมธานี 7.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงหล่อ โผนปฏิมากรรมสากล จำกัด กทม.
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากชุดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง พบความผิดปกติเกี่ยวกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพนักงานสอบสวนได้เข้าสอบปากคำนายเอนก หงษ์มณี เจ้าของโรงหล่อ ปฏิมาไฟน์อาร์ท (พุทธรังษี) จำกัด เลขที่ 89 หมู่ 12 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ที่รับงานจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นายเอนกให้การว่าเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2557 ได้รับการติดต่อจากนาย อ. เซียนพระคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ให้ติดต่อให้ไปพบที่กรมกิจการพลเรือน กองทัพบก ถนนราชดำเนิน เพื่อพูดคุยให้จัดสร้างพระบรมราชาอนุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ 7 พระองค์ หลังจากที่ได้เข้าไปพูดคุย จนนายเอนกได้รับสัญญาจ้างให้หล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยตกลงค่าจ้างที่ราคา 44 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ต้องประสานกับ พล.ต.ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตลอด
นายเอนก ให้การต่อว่า การจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ครั้งนี้ทางตนต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เซียนพระดังกล่าวเป็นค่าตอบแทนที่ให้ได้จัดสร้างครั้งนี้ เป็นจำนวนเงิน 10% ของราคาค่าว่าจ้างด้วย
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้สอบปากคำนายเครน กุญชศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โผนปฏิมากรรมสากล จำกัด 13/7 หมู่ 2 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ พบว่าเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายเครนได้รับการติดต่อจากนาย อ. เซียนพระคนเดียวกัน ให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์เพื่อไปจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ พร้อมทั้งยังแนะนำผู้ที่จะเข้ามารับงานให้กับนาย อ. อีก 4 บริษัท คือ บริษัท ซ.ปฏิมากรรม, บริษัท ร็อคคลาไฟน์อาร์ท, บริษัทพุทธปฏิมา, บริษัทปฏิมาไฟน์อาร์ท โดยนาย อ. เป็นผู้ดำเนินการติดต่อด้วยตนเอง ซึ่งนายเครนได้รับงานสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ความสูง 16 เมตร ตกลงทำสัญญากับกองทัพบกที่ราคา 42 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มในการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ครั้งนั้น ในการเสนอราคากับกองทัพบก เซียนพระคนดังกล่าวให้ทำใบเสนอราคาเป็นเงิน 42 ล้านบาท (ในการทำสัญญา) นายเครนจะได้รับเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าจ้างงาน ส่วนเซียนพระจะได้รับเงินค่านายหน้า 12 ล้านบาท หักลบเงินภาษีมูลค่าเพิ่มไป 4 ล้านบาท เซียนพระจะได้รับเบ็ดเสร็จ 8 ล้านบาท โดยเซียนพระจะได้รับเงินค่านายหน้าจากนายเครนเป็นงวดๆ งวดแรกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จำนวนเงิน 3.2 ล้านบาท นัดกันจ่ายเงินที่พุทธมหาอุทยานหลวงปู่ทวด จ.พระนครศรีอยธุยา งวดที่ 2 เดือนพฤษภาคม สั่งจ่ายเงินให้นาย อ. เป็นเช็คเงินสดธนาคารทหารไทย สาขากองทัพบก เลขที่ 04540806 โดยบอกว่าเงินจำนวนนี้เป็นส่วนต่างที่เซียนพระเอาไป เพื่อไม่ให้การก่อสร้างของอุทยานฯเสียชื่อเสียง
สำหรับค่าจ้างในการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เซียนพระคนดังกล่าวตกลงในราคา 42 ล้านบาท แต่ได้รับเงินจริงแค่ 30 ล้านบาท ส่วนต่าง 12 ล้านบาท ต้องจ่ายให้กับเซียนพระและในส่วนของภาษีจำนวน 4 ล้านบาท นาย อ. จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยนาย อ. ได้รับส่วนต่างจริงรวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท ในการจัดสร้างครั้งนั้น
ค่าใช้จ่ายเครนและการขนส่ง เป็นจำนวนเงิน 1.8 ล้านบาท เป็นเงินที่นายเครนชำระให้กับบริษัทฯที่มารับเหมาต่อจากกองทัพบก นายเครนไม่ได้เป็นผู้จัดหามาเอง รับเหมาการขนส่งพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้งหมด
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังมีอีกว่า ชุดสืบสวนของ บช.ก.ได้ตรวจสอบโครงการ คชาบิสสิเนสโฮม ตามแนวทางการสืบสวนน่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมกับเชิญตัวนาง จ. มาสอบปากคำที่ บช.ก. รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด สนง.ที่ดิน จ.ลำพูน กรณีทำธุรกรรมโอนที่ดิน วันที่ 30 ตุลาคม 2558 ของนาง จ. จากนั้นได้พานาง จ. ไปที่สำนักงานขายคชาบิสสิเนสโฮม พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์และกล้องซีซีทีวี ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบการทำธุรกรรม จากนั้นได้นำหมายค้นเข้าค้นบ้านนาง จ. พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์ 1 ชุด ก่อนนำตัวเข้า กทม.ไป สอบปากคำที่ บช.ก.พร้อมกับน.ส. ณ. พยานในคดีอีกปาก
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสื่อสารทั้งหมดของผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้องจนพบว่ามีการร่วมกันทุจริตโดยแอบอ้างเบื้องสูงในหลายเรื่อง ส่วนหนึ่งคือการจัดทำเสื้อกิจกรรมสำคัญที่เพิ่งจะมีการจัดไปแล้ว ที่มีการเรียกรับเงินจากบริษัทเอกชนไปมากถึงกว่า 70 ล้านบาท โดยพบว่ามียอดเงินกว่า 20 ล้านบาท เป็นเงินที่ได้มาจากบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง สำหรับประเด็นเรื่องเงินจำนวน 20 ล้านบาท ที่พบว่ามีนายทหารระดับ พ.อ. ไปขอรับเงินสนับสนุนมาจากบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งนั้น พบข้อมูลว่านายทหารยศ พ.อ.ได้ติดต่อหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งทราบว่าเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเสื้อแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีความสนิทสนมกันมานาน ให้เข้ามาเป็นตัวแทนหรือนอมินี เพื่อรับสมอ้างที่จะเข้ามารับงานเป็นผู้ผลิตเสื้อยืดที่จะนำมาใช้ในกิจกรรมวันสำคัญที่จะเกิดขึ้น โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 กรกฎาคม นายทหารยศ พ.อ.ได้เดินทางมารับหญิงสาวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะเดินทางมาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่มารับเช็คเงินสดที่สั่งจ่ายสำหรับใช้ในการผลิตเสื้อ ซึ่งในวันดังกล่าว พ.อ.ได้แต่งเครื่องแบบเต็มยศมาด้วย นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินของบริษัทผลิตเสื้อดังกล่าว พบว่ามีการโอนเงินส่วนหนึ่งมายังหมอหยอง ซึ่งคาดว่าเป็นเงินส่วนต่าง ก่อนที่นายสุริยันจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อคอนโดมิเนียมที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ พ.อ.คนดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้ ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสเพิ่มเติมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักและโรงงานภายใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ที่มีความสนิทสนมของนายทหารยศ พ.อ.แล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการต่อไป
นอกเหนือจากการทุจริตการจัดทำเสื้อแล้วนั้น ชุดสืบสวนยังพบอีกว่านายทหารทั้ง 2 นาย ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เพิ่งจะมีการเปิดตัวไปได้ไม่นานมานี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสร้างอุทยานฯตลอดจนถึงขั้นตอนการจัดสร้างองค์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ การจัดซื้อวัสดุก่อสร้างและการก่อสร้างพื้นฐานต่างๆ