พลตรีทรงพล-ตท.รุ่น16 เบลล์212ไฟลุกกลางทุ่ง เผยบินขึ้นแค่10นาทีร่วง "บิ๊กโด่ง"สั่งสอบเหตุตก

    เฮลิคอปเตอร์ทหารประสบอุบัติเหตุโหม่งโลกที่ทุ่งนาพะเยา เสียชีวิต 9 นาย "พล.ต.ทรงพล ทองจีน"รอง มทภ.3 เป็น 1 ในผู้สูญเสีย ผบ.ทบ.สั่งค้นหาสาเหตุการตกด่วน เผยบินขึ้น 10 นาที ขาดการติดต่อ ชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดก่อนเกิดไฟลุกไหม้ หลังกลับจากตรวจงานที่ค่ายขุนเจืองฯ

    เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 ของทหารที่มี พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะนายทหารโดยสารตกลงกลางทุ่งนาเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตทั้งหมด 9 นาย ภายหลังเครื่องออกจากลานบินค่ายขุนเจืองธรรมิกราช อ.เมือง จ.พะเยา โดยขึ้นสู่น่านฟ้าได้เพียง 10 นาที ก่อนขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน และมีการแจ้งเหตุร้ายเครื่องประสบอุบัติเหตุตกบริเวณทุ่งนาโล่งกว้างที่บ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ในเวลาต่อมา 

    รายงานข่าวเผยว่า กำลังของเจ้าหน้าที่จังหวัดทหารบกพะเยาและกรมทหารราบที่ 17 รวมทั้งทาง จ.พะเยา รถดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้เกี่ยวข้องรีบรุดเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันที ทั้งนี้ ภายในเครื่องประกอบด้วยนักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 2 นาย และผู้โดยสารเป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด 5 นาย รวมทั้งหมด 9 นาย

     เวลา 19.15 น. ฝ่ายยุทธการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ได้แจ้งรายงานด่วนส่งหนังสือเวียนภายในแจ้งรายงานเหตุดังกล่าวจากกองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) ดังนี้ "เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 พล.ต.ทรงพล ทองจีน รอง มทภ.3 และคณะเดินทางด้วย ฮ.ท.212 เพื่อปฏิบัติภารกิจตรวจหน่วยในสายงานการส่งกำลังบำรุง ขณะที่ ฮ.ยกตัวจาก จทบ.พะเยาไป จทบ.เชียงราย ได้ประมาณ 10 นาที ได้ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณบ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ภายหลังเกิดเหตุ จทบ.พะเยาและ ฉก.ร.17 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ขั้นต้นคาดว่าผู้โดยสาร นักบิน และช่างเครื่องรวม 9 นายเสียชีวิตทั้งหมด"

รายชื่อผู้ที่โดยสารบนเครื่องและเสียชีวิตประกอบด้วย 1.พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.16), 2.พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ (รอง ผอ.กกบ.ทภ.3) (ตท.31), 3.พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง (ฝยย.ทภ.3) (ตท.31), 4.พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข (ผช.นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3) (ตท.35), 5.จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ (ชรภ.ผยย.ทภ.3), 6.พ.ท.มานิต สุรเสนา (นักบิน), 7.ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก (นักบิน) (ตท.46), 8.จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงษ์ (ช่างเครื่อง) และ 9.จ.ส.อ.พิรุณ แสนดอนคู่ (ช่างเครื่อง) 

    สำหรับ เครื่องดังกล่าวสังกัดกองบินปีกหมุนที่ 1 ศูนย์การบินทหารบก ค่ายสมเด็จพระศรีนครินทรา อ.เมือง จ.ลพบุรี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจุดเครื่องตกที่เกิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ สภาพเครื่องเสียหายทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ช่วยกันลำเลียงศพออกมา

    ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รับรายงานเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมมีคำสั่งให้กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยทหารในพื้นที่จัดกำลังค้นหาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และให้คณะกรรมการนิรภัยการบินลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด 

   พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวยืนยันจะดูแลครอบครัวของผู้สูญเสียทั้งหมดอย่างดีที่สุดเพราะถือเป็นการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่

    พล.ต.ธนา จารุวัต เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลือระดมช่วยกันค้นหาศพ คาดว่าจุดตกไม่ได้ทำให้ศพกระจัดกระจายในบริเวณกว้าง โดยได้ดำเนินการค้นหาผู้โดยสาร พร้อมกู้เก็บซากในคืนเดียวกันนี้ และในวันที่ 18 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีเพื่อค้นหาสาเหตุการตกของเครื่อง

     ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.15 น. ได้พบร่างของทหารทั้ง 9 นายแล้ว และกำลังลำเลียงศพไปยัง รพ.พะเยา เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป และทางกรมทหารราบที่ 17, จทบ.พะเยา และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 ได้จัดกำลังเพื่อพื้นที่เกิดเหตุและเฮลิคอปเตอร์ที่ตก โดย พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะจะเดินทางเข้ามาที่ จทบ.พะเยาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์พร้อมดูแลการดำเนินการต่อผู้เสียชีวิต

     พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ยังกล่าวว่า ได้มีหลายหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือและค้นหาร่างผู้เสียชีวิตพร้อมอำนวยความสะดวก ได้แก่ รพ.ค่ายขุนเจือง, รพ.พะเยา, ตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา และป้องกันภัยจังหวัด ทางกองทัพบกได้แสดงการขอบคุณต่อการร่วมมือกันจนเหตุการณ์คลี่คลายลง

     พ.อ.อโนทัย ชัยมงคล รองเสธ.จทบ.พะเยา เปิดเผยว่า คณะของ พล.ต.ทรงพลเดินทางมาตรวจราชการด้านการส่งกำลังบำรุงของทหาร ณ จทบ.พะเยา จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจึงเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ออกจาก จทบ.พะเยา เวลา 17.27 น. และเกิดอุบัติเหตุในเวลา 17.30 น. ซึ่ง พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผบ.จทบ.พะเยาได้สั่งการจัดกำลังพลออกช่วยค้นหาและเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตออกมาจากซากของเฮลิคอปเตอร์ ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุ จทบ.พะเยาได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารจาก จ.ลพบุรีเพื่อเข้ามาตรวจสอบต่อไปในวันที่ 18 พฤศจิกายน

      นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าฯพะเยา กล่าวว่า เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตเป็นนายทหารจำนวน 9 นาย ทางผู้ว่าฯพะเยาได้มาร่วมดูแลและอำนวยความสะดวกในการค้นหาผู้เสียชีวิตและเก็บกู้ซากเครื่องเฮลิคอปเตอร์ด้วยตนเอง หลังร่วมกันช่วยเหลือนำศพผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่เกิดเหตุได้แล้ว จึงส่งไปที่ รพ.พะเยา เพื่อตรวจเอกลักษณ์ศพและออกใบมรณบัตรให้ผู้เสียชีวิต ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไปยังกองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ต่อไป 

นายเสนีย์ มานนท์ นายกเทศมนตรี ตำบลท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่บ้านดอกบัว หมู่ 11 ต.ท่าวังทอง เล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรตกลงมาในทุ่งนาหมู่ 11 ห่างจากถนนไทยเข้มแข็งเชื่อมระหว่างบ้านหมู่ 11 และ 12 ต.ท่าวังทอง ประมาณ 200 เมตร แล้วเกิดระเบิด มีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเห็นได้ในระยะไกล จึงสั่งการนำรถดับเพลิงของเทศบาล 2 คันไปที่เกิดเหตุทันที จากนั้นประสานไปยังเทศบาลเมืองพะเยาส่งรถดับเพลิงมาช่วยอีก 2 คัน และยังมีรถดับเพลิงจาก จทบ.พะเยา และกู้ภัยพะเยามาช่วยกันเร่งดับเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมง

"ด้วยสภาพทุ่งนาบริเวณที่เฮลิคอปเตอร์ตกนั้นเป็นโคลนสูงประมาณ 1 ฟุต ทางเทศบาลได้นำรถไถลงไปไถเปิดพื้นที่เพื่อช่วยเหลือในการค้นหาผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยศพนั้นติดอยู่ในซากเครื่องที่แตกกระจายไปทั่วบริเวณ บางศพถูกไฟไหม้เกรียม บางศพไหม้เพียงบางส่วน ยังสามารถสืบค้นได้ว่าเป็นบุคคลใด กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบและนำศพออกมาได้ทั้งหมด นำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตต่อไป"

ผู้สื่อข่าวรายงานเฟซบุ๊กของ จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ เป็น 1 ในผู้เสียชีวิต ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "อนันต์ ชมเชียงคำ" เมื่อเวลา 06.05 น. ของวันเดียวกัน ก่อนจะประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์โหม่งโลกประมาณ 11 ชั่วโมงครึ่ง ว่า "ได้เวลาเย้ยฟ้าท้าลมหนาว อีกแล้ว.....ฮ.เก่า นักบินใหม่....อากาศปิด ประตูนรกเปิด...." รวมทั้งก่อนหน้านี้ หรือเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังได้โพสต์ในเวลา 17.30 น. ว่า "เป็นปลื้มอีกแล้ว รองแม่ทัพภาคที่ 3 มาขอจับมือ" 

สำหรับเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ทวิน ฮิวอี้ ผลิตโดยโรงงานเบลล์ เฮลิคอปเตอร์ ในฟอร์ตเวิร์ท รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ย้ายฐานการผลิตไปที่มิราเบล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ในปี 1988 ทั้งนี้ เบลล์ 212 บรรจุผู้โดยสาร 11 ที่นั่ง โดยไม่ร่วมนักบิน 2 คน และช่างเครื่อง 2 คน ส่วนเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 นี้ ถือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในกองทัพบกของไทย เข้ามาประจำการเมื่อปี 2535 

ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกถึง 3 ลำ ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในปี 2554 เริ่มจากวันที่ 16 กรกฎาคม ขณะที่เฮลิคอปเตอร์แบบฮิวอี้ปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้บุกรุกป่าไม้ และสภาพอากาศปิด ทำให้เครื่องตกลงแนวตะเข็บชายแดน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ต่อมาวันที่ 19 กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์แบบแบล๊กฮอว์กเข้าตรวจสอบในจุดเดียวกัน และเกิดอุบัติเหตุตกลงกลางป่า ทำให้นายทหารเสียชีวิต 8 นาย และนักข่าว 1 ราย จากนั้นวันที่ 24 กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ของกองทัพบก ประสบอุบัติเหตุตกที่ไร่ส่งแสงจันทร์ หมู่ 7 บ้านหนองเกตุ ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีผู้เสียชีวิต 3 นาย และรอดชีวิต 1 นาย ขณะนำเครื่องมาสมทบภารกิจสนับสนุนในการมารับศพจากเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์ก ตกในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี