- Details
- Category: อาชญากรรม
- Published: Sunday, 29 March 2015 13:11
- Hits: 5107
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8887 ข่าวสดรายวัน
ส่งขังคุก เสี่ยบั๊คปิดปากเงียบ ไม่ให้การคดี'พระหมอ'คุมตัวทีมฆ่า-ทำแผนฯ ผบ.ตร.ย้ำหลักฐานปึ้ก'2 นายพล'ได้กลับอุดร
สอบเอง - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สอบปากคำ "เสี่ยบั๊ค"นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ผู้ต้องหาบงการฆ่าพระหมอ ระหว่างนำตัวมาแถลงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนส่งฝากขังเรือนจำกลางอุดรธานี เมื่อวันที่ 28 มี.ค. |
'ด.ต.ชาญชัย'คนรับงานฆ่า'พระหมอ'สารภาพต่อหน้าผบ.ตร.ซัดทอด 'เสี่ยบั๊ค' จ้าง 3 แสนสั่งตาย เลยติดต่อ'ปัญจ๋า'มาลงมือสังหาร มี'ต๋อง'ดูลาดเลา อ้างถูกหลอกว่า'พระหมอ'เป็นคนไม่ดีทั้งสนิทสนมผู้หญิงและพัวพันธุรกิจมืด ตร.คุมตัวเสี่ยบั๊คพร้อมทีมรับงานเข้ากรุง มาแถลงข่าว โดยเสี่ยเจ้าของร.พ.เอกอุดร ปฏิเสธขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ผบ.ตร. ย้ำพยานหลักฐานมัดแน่น ส่วนอดีตผบก. อุดรฯ ให้ข้อมูลชัดไม่เกี่ยวข้อง เพียงแนะนำให้รู้จักกับด.ต.ชาญชัย ที่เป็นคนสนิทเท่านั้น พร้อมสั่งย้ายอดีตผบก.และผบก.อุดรฯ กลับไปนั่งเก้าอี้เดิมแล้ว ส่งฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมคัดค้านประกันตัว เผย เหตุบงการฆ่าเพราะเข้าใจผิดและระแวง พระหมอสนิทกับแพทย์หญิง คนใกล้ชิด เสี่ยบั๊ค
จากคดีสะเทือนขวัญมือปืนสังหารพระบัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธานี และคดีล่าช้า ทำให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งย้ายพล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก. ภ.อุดรธานี และพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ฝึกพิเศษ ตชด. อดีตผบก.ภ.อุดรธานี มาช่วยราชการที่ตร. จากนั้นส่งทีมกองปราบปรามและตำรวจจากส่วนกลางเข้าไปทำคดี จนสามารถจับกุมนายปัญจ๋า ชารีแสน มือปืน ซึ่งให้การสารภาพและซัดทอด ผู้เกี่ยวข้อง จนตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 3 คนประกอบด้วยด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี คนสนิทพล.ต.ต.บุญลือ คนรับงาน, นายบุนนาค หรือต๋อง หงษาคำ ลูกจ้างชลประทานที่ 5 คนดูลาดเลา และนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ประธานบริหาร โรงพยาบาลเอกอุดร คนจ้างวาน เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดและระแวงว่าพระหมอสนิทสนมกับแพทย์หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นคนใกล้ชิดนายบรรเจิด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
คุมตัวเสี่ยบั๊คเข้ากรุงเทพฯ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ตำรวจคุมตัวนายบรรเจิด พร้อมด้วยด.ต.ชาญชัย และนายบุนนาค ออกจากห้องคุมขัง สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางไปขึ้นเครื่องบินฟอกเกอร์ 50 หมายเลขแพนหาง 27228 เพื่อพาเข้ากรุงเทพฯ ให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สอบปากคำและแถลงข่าวโดยมีนายตฤณ ดวงเงิน ทนายความและที่ปรึกษาทางกฎหมายโรงพยาบาลเอกอุดร เดินทางร่วมไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้นั่งใกล้กับผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่แยกผู้ต้องหาไปในรถคนละคัน โดยนายบรรเจิดนั่งมาในรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีดำ ทะเบียน นข 4554 อุดรธานี มีพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผบ.ตร. และพล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายนั่งควบคุมตัวนายบรรเจิด ซึ่งอยู่ในอาการอิดโรยท่าทีวิตกกังวล เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่สอบปากคำอย่างหนัก และยังสวมเสื้อผ้าชุดสูทสีดำชุดเดิม สวมแว่นตาดำปิดบังใบหน้าเอาไว้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่กุญแจมือ และระหว่างที่พาออกจากห้อง คุมขัง สภ.เมืองอุดรธานี มีดร.อรุณี จิวาศักดิ์มาศ ภรรยาคนที่ 2 มายืนรออยู่ตั้งแต่ตอนเช้าได้เดินทางมาให้กำลังใจ
เผยเมียหอบเงินยื่นประกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากตำรวจเข้าจับกุมนายบรรเจิด ต่อมาดร.อรุณี พร้อมญาติกว่า 10 คนเดินทางตามมาที่โรงพัก นำเงินสดและหลักทรัพย์หลายล้านบาทมายื่นขอประกันตัว แต่ตำรวจไม่อนุญาตเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อีกทั้งโอนคดีให้กองปราบปรามไปแล้ว จึงต้องไปติดต่อขอประกันที่กองปราบฯ จากนั้น เจ้าหน้าที่สอบปากคำนายบรรเจิดกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนส่งคุมตัวในห้องขังพร้อมจัดกำลังตำรวจสังเกตการณ์ทั้งคืน เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน เนื่องจากนายบรรเจิดมีท่าทีเคร่งเครียดอย่างมาก
เสี่ยบั๊คปฏิเสธ-ขอไปศาล
ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ, พล.ต.ท.ปัญญา, พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภาค4, พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส., พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. และชุดคอมมานโดควบคุมตัวนายบรรเจิด, ด.ต.ชาญชัย และนายบุนนาค มาให้พล.ต.อ.สมยศสอบปากคำเพิ่มเติมและแถลงข่าว โดยแยกสอบผู้ต้องหา เบื้องต้นนายบรรเจิดปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นผบ.ตร. พาด.ต.ชาญชัย และนายบุนนาค มาแถลงข่าว
ผบ.ตร.เผยหลักฐานแน่น
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าและร่วมกันฆ่าพระบัณฑิต เหตุเกิดที่จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาที่จับกุมเพิ่มเติมมีทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายบรรเจิด ผู้จ้างวานข้อหาใช้ให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ด.ต.ชาญชัย ผู้ชี้เป้าขับรถพามือยิงไปก่อเหตุ และนายบุนนาค ผู้เฝ้าติดตามพระบัณฑิตและพาไปดูเส้นทางก่อเหตุ ศาลทหารจังหวัดอุดรธานีได้ออกหมายจับแล้ว ส่วนการดำเนินคดีนี้ได้สั่งการโอนสำนวนการสอบสวนมาไว้ที่บก.ป. เพื่อความโปร่งใสตรงไปตรงมา โดยถือเป็นคดีที่สำคัญและผู้เกี่ยวข้องสามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว
"ผมและทีมสืบสวนสอบสวนมีความภูมิใจที่คลี่คลายคดีนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในบางสิ่งบางอย่างมีพยานหลักฐานมากกว่าคำให้การซัดทอดผู้ต้องหา แต่หลักฐานบางอย่างไม่สามารถนำมาชี้แจงได้ แต่ก่อนที่นำมาสู่การจับกุมสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ให้การหรือซัดทอดเกี่ยวข้องจริง ฐานะที่ผมเป็นผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.ท.ประวุฒิ เชิญพล.ต.ต.บุญลือ มาชี้แจงแล้วว่ารู้จักกับ นายบรรเจิด และนายบรรเจิดมาขอร้องพล.ต.ต.บุญลือ ให้ส่งลูกน้องติดตามพฤติกรรมของหมอแก้ว (พญ.รัมภางค์ พงศ์พานิช) ที่สนิทสนมกับนายบรรเจิด กับพระบัณฑิต จึงแนะนำให้ด.ต.ชาญชัยติดตามดูพฤติกรรมของทั้ง 2 คนแต่ไม่ได้ติดตามดูพฤติกรรมเพื่อลงมือฆ่า เพียงดูเพื่อจะพิสูจน์ทราบให้รู้เห็นชัดว่า หมอแก้วมีพฤติกรรมอย่างไร ตามที่นายบรรเจิดสงสัยหรือไม่" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ยันสาวต่อ-ถึงใครจับหมด
ผบ.ตร.แถลงอีกว่า ต่อมาพล.ต.ต.บุญลือ บอกว่านายบรรเจิดโทรศัพท์มาสอบถามความเคลื่อนไหวอีกหลายครั้ง จนพล.ต.ต. บุญลือ รำคาญ จึงให้เบอร์โทรศัพท์ด.ต.ชาญชัย เพื่อไปติดต่อสอบถามกันเอง ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่พล.ต.ต.บุญลือ ให้ข้อมูล แล้วยืนยันอีกด้วยว่าพร้อมให้ถ้อยคำเรื่อง ดังกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่าในวันต่อไป มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่มากกว่านี้ อันนั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ได้หมายความถึงเพียงแค่พล.ต.ต.บุญลือ เพียงอย่างเดียว ใครก็แล้วแต่พยานหลักฐานมีส่วนหรือระบุได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยง เราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เราไม่มีปกป้องช่วยเหลือถึงแม้จะเป็นตำรวจก็ตาม
ชี้แจงเหตุย้าย 2 นายพล
ต่อข้อถามว่า คำสั่งย้ายผู้บังคับการ 2 นายออกนอกพื้นที่ก่อนเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาเพราะสาเหตุใด พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเวลาผ่านไปและคนในสังคม ในพื้นที่เริ่มสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เกรงว่าคดีอาจจะไม่มีความคืบหน้าและปกป้องช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน จึงเป็นการแสดงให้เห็นชัดว่าไม่ช่วยเหลือถ้าตำรวจกระทำความผิด หลังจากนั้นจึงส่งชุดสืบสวนสอบสวนพิเศษลงพื้นที่ติดตามคดี เพื่อความสบายใจของสังคมและเพื่อความกระจ่าง จึงให้พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.อุดรธานี พร้อมกับพล.ต.ต.บุญลือ ที่เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นผบก.ภ.อุดรธานี มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.ต.บุญลือ ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลเป็นอย่างดี
คัดค้านประกันเสี่ยบั๊ค
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำหนักของประเด็นในการก่อเหตุก็ให้ตามคำให้การของผู้ต้องหารับสารภาพ คิดว่าตำรวจคลี่คลายคดีทุกอย่างได้ถูกต้อง เป็นสำนวนคดีที่สมบูรณ์ที่สุดคดีหนึ่ง ฝ่ายสืบสวนแจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งกระบวนการ โดยมีผู้กระทำความผิดและผู้จ้างวาน ส่วนสุดท้ายคดีจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล นายบรรเจิด ขอให้การในชั้นศาลซึ่งได้ให้นายบรรเจิดเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่เชิญทนายออก เพราะนายบรรเจิดไม่พูด นายบรรเจิดยังคงปฏิเสธที่จะให้การใดๆ แต่มั่นใจจากการพูดคุยกับทีมสืบสวนสอบสวนเป็นคดีหนึ่งที่แน่นหนา พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนค้านการประกันตัวนายบรรเจิดไว้ เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามด.ต.ชาญชัย ว่าทำไมต้องฆ่าพระบัณฑิต ด.ต.ชาญชัยกล่าวว่า ได้รับว่าจ้างจากผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาหาชื่อบรรเจิด เป็นจำนวนเงิน 3 แสนบาท โดยนายบรรเจิดขับรถมาหาที่ลานจอดรถโรงแรมประจักษ์ตรา จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เงินใส่ซองลดกระจกลงส่งค่าจ้าง
ด.ต.ชาญชัยสารภาพสิ้น
ช่วงบ่ายวันเดียวกันตำรวจคุมตัวด.ต. ชาญชัย และนายบุนนาคไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ โดยด.ต. ชาญชัยอ้างว่าผู้จ้างวานหลอกว่าพระหมอเป็นพระไม่ดี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งสนิทสนมกับผู้หญิง ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืด และยาเสพติด ทำให้หลงเชื่อ จึงตัดสินใจ รับงาน และติดต่อนายปัญจ๋า มาลงมือสังหารในราคา 160,000 บาท ตนได้ 80,000 บาท และนายบุนนาค ได้ 60,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนฝากขังต่อศาลทหารในวันที่ 29 มี.ค.
มือปืนผวา-กรรมสนอง
ขณะที่นายปัญจ๋าให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังจากลงมือสังหารพระหมอแล้ว ภรรยาเปิด ดูทีวีเห็นข่าวดังกล่าวจึงด่ามือปืนว่าเป็นคนไม่ดีฆ่าได้กระทั่งพระ และหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ขณะที่นอนหลับฝันเห็นพระหมอเดินขึ้นจากน้ำมาบอกว่าหิวข้าว จึงสะดุ้งตื่นรุ่งเช้าจึงไปถวายสังฆทาน และคอยติดตามข่าวมาตลอด ต่อมาก็มีอาการเจ็บปวดที่หลังตรงกับจุดที่ยิงพระหมอ เหมือนมีคนเอาเข็มมาทิ่มแทงจนทะลุมาถึงหน้าท้อง จึงได้สำนึกว่าทำบาปหนักที่ยิงพระ กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
2 ผู้การกลับตำแหน่งเดิม
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.บุญลือ และพล.ต.ต. ชัยญัติกลับไปปฏิบัติหน้าที่สังกัดเดิมแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในส่วนของพล.ต.ต. บุญลือนั้น สอบปากคำให้การเป็นพยานในสำนวน ถึงกรณีที่นายบรรเจิด เคยติดต่อให้ติดตามพฤติกรรมของพระบัณฑิต เบื้องต้นพบว่านายตำรวจทั้ง 2 นาย ไม่เกี่ยวข้องรู้เห็นการสังหาร แต่หากมีพยานหลักฐาน เพิ่มเติม ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมาเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำตัวนายบรรเจิดไปฝากขังผัดแรก 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งตัวนายบรรเจิดเข้าไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลางจ.อุดรธานี ก่อนที่จะพาทีมสังหารทั้งหมดไปทำแผนฯ และส่งฝากขังตามไป